ทร.สั่งตั้ง กก.สอบกระสุนหายจากคลัง ยันลงโทษถึงที่สุด

อาชญากรรม
15 ก.ค. 66
17:04
1,385
Logo Thai PBS
ทร.สั่งตั้ง กก.สอบกระสุนหายจากคลัง ยันลงโทษถึงที่สุด
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงปมเอกสารหลุดกระสุนปืนกล กระสุนหัวระเบิดหายจากคลัง สั่งตั้ง กก.สอบ จนท.ต้องสงสัยขาดราชการ-ติดต่อไม่ได้ตั้งแต่ 6 ก.ค. ยันลงโทษถึงที่สุด

วันนี้ (15 ก.ค.2566) พลเรือเอกปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงข่าวกรณีเพจ CSILA ได้เปิดเผยเอกสารทัพเรือหลุดกระสุนปืนกลแบบ M855 และ M856 หายนับหมื่นนัด และกระสุนหัวระเบิดแบบ 40 mm นับพัน หายจากสรรพาวุธของนาวิกโยธิน สัตหีบนั้น

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ก.ค.2566 โดยกองทัพเรือได้รับรายงานจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ว่า กรมสรรพาวุธทหารเรือได้ตรวจคลังอมภัณฑ์ กรม ร.1 พล.นย.ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า ตามวงรอบประจำปี พบว่า มีอมภัณฑ์ยอดขาดจากบัญชีจำนวนหนึ่ง

ขณะนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบจำนวนอมภัณฑ์ที่ขาดไปโดยละเอียด ซึ่งเมื่อทางหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน รับทราบ จึงได้ทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดและสอบถามยามรักษาการณ์ พบว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่คลังสรรพาวุธฯ ของหน่วย ลักลอบเปิดคลังหลายครั้ง และนำเอาอมภัณฑ์ออกไปโดยใช้กุญแจที่ลักลอบทำสำรองไว้

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าตัวได้ขาดราชการ และไม่สามารถติดต่อได้ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.2566 จนถึงปัจจุบัน จากการสอบคำให้การของยามรักษาการณ์เข้าใจว่า เป็นการดำเนินการตามหน้าที่ปกติ และไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำดังกล่าว ทางหน่วยได้ให้นายทหารพระธรรมนูญของหน่วย แจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานไว้ที่ สภ.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2566 และอยู่ระหว่างเพิ่มเติมพยานหลักฐาน ดำเนินการตามกฎหมาย รวมทั้งร่วมกันสืบสวนเพื่อติดตามผู้ต้องสงสัยและอมภัณฑ์ที่สูญหาย

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งตั้งกรรมการเอาผิดกรณีอมภัณฑ์หายออกจากคลังอาวุธ ย้ำลงโทษให้ถึงที่สุดได้ ขณะนี้ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง รวมถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางละเมิดเพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษต่อไป

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีที่มีเพจบางเพจตั้งคำถามว่า ทำไมกระสุนจำนวนถึงมาหายช่วงนี้ ในช่วงที่กำลังมีสงครามในประเทศเพื่อนบ้าน และช่วงประชาชนกำลังไม่พอใจกับผลการโหวตเลือกนายกฯ ของ สว. ขอชี้แจงว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด ขอให้ระมัดระวังในการนำเสนอข้อมูลที่อาจกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง