“อัครเดช” มือสังหาร ดับฝัน “พิธา” นั่งนายกฯ

การเมือง
20 ก.ค. 66
12:53
4,030
Logo Thai PBS
“อัครเดช” มือสังหาร ดับฝัน “พิธา” นั่งนายกฯ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"อัครเดช" เป็นใคร? สส.เมืองโอ่งราชบุรี ผู้จุดพลุประเด็นข้อบังคับ 41 กลางสภาฯ ดับฝันไม่ให้โหวตชื่อซ้ำ "พิธา" นายกรัฐมนตรีรอบ 2

395 เสียงสนับสนุน “ไม่เห็นด้วย” ให้เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โหวตซ้ำชื่อนายกรัฐมนตรี ในสมัยประชุมเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา

ส่งผลให้ นายพิธา ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นอีกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์การเมืองไทย

และทำให้ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ หรือ “มุ่ง” สส.เมืองโอ่งราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ดังชั่วข้ามคืน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยสังกัดพรรคสีฟ้า ประชาธิปัตย์ในปี 2554 เคยไปช่วยงานนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่ใช่หน้าใหม่ทางการเมือง

หลังเป็นผู้ “จุดพลุในสภา” เมื่อ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ด้วยการลุกขึ้นประท้วงทันที หลังนายสุทิน คลังแสง จากพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อของนายพิธา โหวตนายกรัฐมนตรีรอบ 2

ด้วยเหตุผลที่ว่า การประชุมรัฐสภาเมื่อ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ชื่อของนายพิธา ไม่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม ดังนั้น จึงถือว่าเป็นญัตติที่ตกไปแล้ว และการเสนอชื่อ นายพิธาซ้ำอีกรอบ เป็นการทำผิดข้อบังคับ ข้อที่ 41 การเสนอญัตติซ้อนอีกครั้งไม่สามารถทำได้ และขัดกับข้อบังคับที่มีสถานะเป็นกฎหมาย

บรรยากาศ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในการประชุมรัฐสภา 19 ก.ค.

บรรยากาศ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในการประชุมรัฐสภา 19 ก.ค.

บรรยากาศ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในการประชุมรัฐสภา 19 ก.ค.

แม้จะทำให้สั่นสะเทือนในวงการเมือง และสร้างแรงกระเพื่อมในสังคม แต่อัครเดช กลับมองว่าเป็นจุดยืน

ผมไม่กลัวทัวร์มาลง เพราะมีจุดยืนที่จะปกป้องสถาบัน ตราบใดที่พรรคก้าวไกล และพิธา ยังไม่ถอย ม.122 ก็จะใช้กลไกรัฐสภาในการปกป้องสถาบันอย่างเต็มที่

อัครเดช ปฎิเสธว่าไม่ได้เป็นมือสังหาร พิธา ตามที่หลายคนให้นิยาม เพียงแต่ไม่เห็นด้วยกับการเสนอชื่อนายพิธา ซึ่งถูกตีตกไปแล้วตั้งแต่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา

อัครเดช บอกว่า กรณีข้อบังคับที่ 41 ไม่มีอะไรที่ซับซ้อน ใช้จากประสบการณ์ในการทำงาน กมธ.ยกร่าง และร่างรัฐธรรมนูญ เป็นสส.มีความเข้าใจกับข้อบังคับดังกล่าว ที่ระบุชัดเจน และข้อบังคับก็ไม่ได้ขัดอะไรกับรัฐธรรมนูญเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ

ถ้าฟังอภิปรายแบบไม่มีอคติ จะเข้าใจในหลักการว่าทำไมถึงเสนอชื่อนายพิธา ซ้ำไม่ได้ ข้อบังคับ 41 เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และไม่ได้ขัดกับรัฐธรรมนูญ ตรงนี้ชัดอยู่แล้ว เป็นการมองคนละมุม
เก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ยังว่างอยู่

เก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ยังว่างอยู่

เก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ยังว่างอยู่

สส.เมืองราชบุรี ยังปฏิเสธที่ว่าไม่ใช่ดาวเด่นในสภา แต่ตั้งใจทำหน้าที่ในสภาให้ดีที่สุด เป็นภารกิจของผู้แทน ที่นอกจากดูแลประชาชนแล้ว ต้องออกมาปกป้องสถาบันด้วย จุดนี้ถือเป็นหน้าที่ด้วย

ยอมรับได้รับภารกิจนี้ มาจากพรรคให้เปิดประเด็นนี้ แต่ไม่ถึงกับต้องเตรียมซักซ้อมอะไรในสภา

เขาบอกว่า ในประเด็นนี้ พรรคเคยแถลงไปแล้วในนาม รทสช.ว่าญัตติที่เสนอพิธา มาซ้ำ ซ้อน ไม่สามารถนำมาพิจารณาได้ และสถานการณ์ไม่ที่ไม่เปลี่ยน แปลงเพราะ สส.ที่อภิปรายในรอบแรกคือให้ถอย ม.112 และเมื่อไม่ถอย จึงเป็นญัตติที่ซ้ำซ้อน ไม่มีสถานใหม่ที่จะให้ประธานสภาใช้ดุลพินิจในการนำกลับมาพิจารณา

เมื่อถามว่าจุดพลิกทางการเมือง ถ้าพิธา ไม่ได้เป็นนายกฯ อัครเดช บอกว่า ไม่กังวลว่าทัวร์จะมาลง เพราะตอนนี้ทัวร์ลงอยู่แล้ว มีคนที่ให้กำลังใจ และคนไม่ชอบก็มี แต่บอกจุดยืนไปแล้วว่าหน้าที่คือรับใช้พี่น้องประชาชน และปกป้องสถาบัน

ถ้าตราบใดพรรคก้าวไกลยังแตะ ม.112 ก็จะยืนฝั่งตรงข้ามกับพรรคก้าวไกล

อ่านข่าวเพิ่ม โหวตนายกฯ รอบ 2 : ถก 7 ชั่วโมง โหวตซ้ำ "พิธา" นายกฯ รอบ 2 ไม่ได้

อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.เมืองโอ่งราชบุรี ผู้จุดพลุกลางสภาค้านญัตติเสนอชื่อพิธา โหวตนายกฯรอบ 2

อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.เมืองโอ่งราชบุรี ผู้จุดพลุกลางสภาค้านญัตติเสนอชื่อพิธา โหวตนายกฯรอบ 2

อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.เมืองโอ่งราชบุรี ผู้จุดพลุกลางสภาค้านญัตติเสนอชื่อพิธา โหวตนายกฯรอบ 2

วิศวกรสู่นักการเมือง

สำหรับ อัครเดช ปัจจุบันอายุ 47 ปี มีชื่อเล่นว่า "มุ่ง" เป็นบุตรของ วุฒิพงษ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธานบริษัทในเครือวงษ์พิทักษ์ นักธุรกิจใหญ่แห่งเมืองราชบุรี และสมจิตต์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ ซึ่งพ่อของนายอัครเดช เคยเป็นเกษตรกรชาวไร่อ้อย และผันตัวเองมาเปิดธุรกิจคอนกรีตในปัจจุบัน

อัครเดช จบ ม.ปลายที่โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย จบปริญญาตรี คณะวิทยา ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างนั้นยังเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทย-แคนาดา

เมื่อจบปริญญาโท MBA (บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต) วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตกรุงเทพมหานคร แล้วทำงานวิศวกรเทคนิค บริษัทในเครือปูนซีเมนต์ไทย (SCG) 2 ปี ก่อนจะออกมาดูแลธุรกิจครอบครัวบริษัทในเครือวงษ์พิทักษ์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายคอนกรีตผสมเสร็จมาตรฐานสากล

ส่วนเส้นทางทางการเมือง อัครเดช เข้าไปช่วยงานเพื่อนที่เป็น สส.กระทั่งได้รับการทาบทามจากผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ ให้ลงเล่นการเมือง และปี 2562 ได้รับเลือกตั้งเป็น สส.ราชบุรี เขต 4 และย้ายมาร่วมทำงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อปี 2566 สามารถเอาชนะใจชาวราชบุรี ด้วยคะแนน 54,815 เสียง เป็นสส.ราชบุรี อีกสมัย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

โหวตนายกฯ รอบ 2 : เริ่มแล้ว! ประชุมสภา 19 ก.ค.โหวตนายกฯ คนที่ 30

ด่วน ! ศาลรัฐธรรมนูญ รับวินิจฉัย "ปมหุ้นสื่อ" สั่ง "พิธา" หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง