"ธนกร" เห็นใจ "เพื่อไทย" ถูกเหน็บแนม หลังทำหน้าที่ตามมติ 8 พรรคหาคะแนนเพิ่ม

การเมือง
24 ก.ค. 66
13:28
182
Logo Thai PBS
"ธนกร" เห็นใจ "เพื่อไทย" ถูกเหน็บแนม หลังทำหน้าที่ตามมติ 8 พรรคหาคะแนนเพิ่ม
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
“ธนกร”​ เผย​ "รวมไทยสร้างชาติ"​ เตรียมประชุม สส.​- กก.บห.ในวันที่ 26 ก.ค.นี้​ บอกยังไม่ได้ร่วมรัฐบาล ระบุ​เห็นใจ "เพื่อไทย" ถูกเหน็บแนม หลังทำหน้าที่ตามมติ 8 พรรคหาคะแนนเพิ่ม

นนี้ (24 ก.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร​ วังบุญคงชนะ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ​ กล่าวถึงท่าทีพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังร่วมหารือกับพรรคเพื่อไทยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่าเป็นการส่งสัญญาณร่วมงานทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่​ว่า​ เป็นไปตามที่นายพีระพันธุ์​ สาลีรัฐวิภาค​ หัวหน้าพรรคได้แสดงจุดยืนไปแล้ว

แต่จะร่วมกันหรือไม่ต้องมาหารือร่วมกันภายในพรรคก่อน ซึ่งจะมีการประชุม สส.ในวันพุธที่ 26 ก.ค.นี้ เวลา 16.00 น.​โดยหัวหน้าและเลขาฯพรรค​ จะนำผลการหารือมาพูดคุยในที่ประชุม สส. และ กก.บห.โดยย้ำว่า ก่อนหน้านี้หัวหน้าพรรคเคยแสดงเจตจำนงไปแล้วว่ามีแนวคิดอย่างไร​

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ แกนนำพรรคร่วมแถลงข่าว กับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และแกนนำนำพรรคเพื่อไทย ภายหลังการหารือ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ แกนนำพรรคร่วมแถลงข่าว กับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และแกนนำนำพรรคเพื่อไทย ภายหลังการหารือ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ แกนนำพรรคร่วมแถลงข่าว กับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และแกนนำนำพรรคเพื่อไทย ภายหลังการหารือ

เมื่อสอบถามถึงทิศทางแนวโน้มของ สส.รวมไทยสร้างชาติใน​ขณะนี้มีความคิดเห็นอย่างไร นายธนกร กล่าวว่า ตนมองว่าสส.ภายในพรรคเป็นเอกภาพ​ ฉะนั้น การพูดคุยเจรจาถ้ามีเงื่อนไขทำเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ตนก็คิดว่าสส.ของพรรคไม่มีปัญหา

อ่านข่าว "บิ๊กตู่" เผยปล่อยให้เขาตั้งรัฐบาลกันไป ขอบ้านเมืองสงบ 

ส่วนได้มีการหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกฯและ รมว.กลาโหม​ ในฐานะอดีตประธานยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติแล้วหรือไม่หลังการหารือร่วมกับพรรคเพื่อไทย​ นายธนกร กล่าวย้ำว่า​ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพรรคแล้ว แต่เท่าที่ตนได้พูดคุยและทำงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่​ แม้จะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคแล้วนั้น​ การที่พรรครวมไทยสร้างชาติไปพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ได้ว่าอะไร

นายธนกร ยืนยันว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศวางมือทางการเมืองไม่เกี่ยวข้องกับการเปิดทางให้พรรครวมไทยสร้างชาติ ไปร่วมทางทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด​ เนื่องจากที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ก็เปรยมาตลอดว่า หากถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะต้องวางมือ และไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับทางการเมือง

การวางมือทางการเมือง เป็นแนวทางที่ พล.อ.ประยุทธ์ คิดไว้ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว เนื่องจากทำงานให้ประเทศชาติมากว่า 8-9 ปีถึงเวลาที่เหมาะสมที่ท่านต้องพักผ่อน และหาเวลาไปทำประโยชน์ให้ประเทศชาติในมิติด้านอื่นๆ ซึ่งตนก็เชื่ออยู่แล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมที่จะทำงานให้ประเทศชาติ

เมื่อถามถึงแนวคิดของ นพ.ชลน่าน​ ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย​ ออกมาระบุว่า หากพรรคเพื่อไทยไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ก็เป็นหน้าที่ของพรรคในลำดับที่ 3 จะต้องจัดตั้งรัฐบาล จะถือเป็นการส่งสัญญาณว่า พรรคเพื่อไทยไม่สามารถจะตั้งรัฐบาลได้ใช่หรือไม่

บรรยากาศการการพบกันระหว่าง แกนนำพรรคภูมิใจไทย และ พรรคเพื่อไทย

บรรยากาศการการพบกันระหว่าง แกนนำพรรคภูมิใจไทย และ พรรคเพื่อไทย

บรรยากาศการการพบกันระหว่าง แกนนำพรรคภูมิใจไทย และ พรรคเพื่อไทย

นายธนกร​ ระบุว่า​ ตามหลักการพรรคอันดับ 1 จัดตั้งไม่ได้ก็ต้องเป็นพรรคในลำดับที่ 2 และหากพรรคในลำดับที่ 2 ไม่สามารถจัดตั้งได้ก็เป็นพรรคลำดับที่ 3 เป็นไปตามหลักการทั่วไป​

ตนก็เห็นใจพรรคเพื่อไทย เหมือนมติของ 8 พรรคร่วมให้ไปแสวงหาคะแนนเพิ่ม ในแนวทางต่าง ๆ เมื่อพรรคเพื่อไทยไปแสวงหา แต่แกนนำพรรคก้าวไกลกลับเหน็บแนม​ และสมาชิกพรรคก้าวไกล มวลชนสนับสนุนก็บุกไปยังที่ทำการพรรคเพื่อไทย และมีการใช้แป้งเกิดเหตุการณ์อย่างเมื่อวาน​ ซึ่งตนมองว่าไม่เหมาะสม

เมื่อท่านเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลต้องเข้าใจระบอบประชาธิปไตย และควรทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคที่รักใคร่ชอบพอ เพราะบรรยากาศแบบนี้เหมือนท่านปล่อย ซึ่งมันเป็นทฤษฎี 2 ขา นำไปสู่ความขัดแย้งในที่สุด พร้อมยืนยันว่า การชุมนุมต่าง ๆ สามารถทำได้เป็นไปตามที่นายสมบัติ​ บุญงามอนงค์​ หรือ บก.ลายจุด​ จัดกิจกรรม ซึ่งก็ไม่มีปัญหาเพราะทำตามกฎหมาย

นายธนกร ยังระบุว่า แต่แกนนำจะตั้งรัฐบาลอันดับ 1 พอเป็นนายกฯไม่ได้​ ไม่มีใครเป็นได้แล้วหรือนอกจากนายพิธา​ ก็ไม่เข้าใจ เพราะที่ผ่านมาหากอันดับ 1 ตั้งไม่ได้ ก็อันดับ 2 ตั้งไป เป็นเรื่องปกติมากทางการเมือง และที่บอกว่ารอไปสัก 10 เดือน

ส่วนตัวมองว่าเมื่อเลือกตั้งเสร็จกลไกการจัดตั้งรัฐบาล การเลือกตั้งนายกฯก็ควรเดินหน้าไป ไม่ควร​ แม้มีอุปสรรคบ้าง เพราะมันเป็นการเมืองแบบรัฐสภาฯ​ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ ไม่ควรรอถึง 10 เดือนเพราะประเทศเสียหาย และประชาชนเฝ้ารอดูอยู่ และนักธุรกิจก็เฝ้ารอดูอยู่

เมื่อถามถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายภายในพรรคเพื่อไทย วานนี้จะทำให้ MOU​ 8 พรรคร่วมล่มหรือไม่​ นายธนกร​ ปฏิเสธว่า​ ตนไม่ทราบเนื่องจากเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย แต่ตนเห็นบรรยากาศแล้วที่มีการนำแป้งไปโรยนั้น ก็สงสารนายสันติ​ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เลอะแป้งไปถึงศีรษะ

นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมแกนนำ เข้าหารือ แกนนำพรรคเพื่อไทย

นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมแกนนำ เข้าหารือ แกนนำพรรคเพื่อไทย

นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมแกนนำ เข้าหารือ แกนนำพรรคเพื่อไทย

นายธนกร ยังระบุว่า มันไม่ควรมีบรรยากาศแบบนี้ เนื่องจากเป็นการเจรจาตามกรอบที่พรรคร่วมแตกพรรคได้มอบหมายให้พรรคเพื่อไทย​ ซึ่งในการเจรจาเบื้องต้นก็ต้องมีการพูดคุยว่าเขาคิดกันอย่างไร และมันยังไม่ได้ไปถึงจุดร่วมรัฐบาลกันเลย และเมื่อเกิดสถานการณ์อย่างนี้แล้วในอนาคตตนมองว่า ก็อาจจะยุ่งยากเหมือนกัน

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยแกนนำพรรค เข้าพูดคุยกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยแกนนำพรรค เข้าพูดคุยกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยแกนนำพรรค เข้าพูดคุยกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามย้ำว่า เหตุการณ์วานนี้เพื่อไทยควรจะบอกเลิกพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายธนกรปฏิเสธว่าเรื่องดังกล่าวตนไม่ขอก้าวล่วง พร้อมกับกล่าวว่าหากพรรคในลำดับ 1 ไม่สามารถจัดตั้งได้ก็ควรเป็นพรรคในลำดับที่ 2 หากพรรคลำดับ 2 ไม่ได้ก็ควรเป็นลำดับที่ 3 ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกพรรคการเมืองควรเข้าใจ

คิดว่าทุกพรรคที่ได้รับการเชิญไปพูดคุยก็เข้าใจ ไม่ใช่ว่าถูกเชิญไปพูดคุยแล้วจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อาจจะเป็นพรรคฝ่ายค้านก็ได้เราก็ไม่รู้ แต่นี่เป็นการเจรจาในเบื้องต้น

เมื่อถามว่ามองอย่างไรในท่าทีของพรรคก้าวไกลที่ดูเหมือนว่าจะไม่ยอมออกจากพรรคร่วมรัฐบาล​ นายธนกร​ ระบุว่า

แบบนี้มันเป็นเด็กเกินไปหรือเปล่า บ้านเมืองไม่ใช่เด็กเล่นขายของ เหมือนกับคนที่เป็นแฟนกัน หมั้นกันแล้วเขาก็เลิกกันได้ เหมือนพ่อแม่คลุมถุงชนมาอย่างนี้ วันหนึ่งเมื่อหมั้นกันแล้วพ่อแม่คลุมถุงชนมาเขาก็ยังเลิกกันได้เลย​ เพราะมันไม่ได้รักกันด้วยหัวใจไง ฉะนั้นคนที่จะแต่งงานกัน มันต้องมีความรักที่ออกมาจากใจ ไม่ใช่รักด้วยสมอง แต่ต้องรักด้วยหัวใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"สันติ" ชี้ พปชร.ไม่ร่วมงาน "ก้าวไกล" ย้ำจุดยืนไม่แตะ ม.112

“วราวุธ” ยันพร้อมหนุน “เพื่อไทย” ถ้าไม่แก้ ม.112 และต้องไม่มีพรรคที่แตะ ม.112

“ชัยธวัช ตุลาธน” ในวันนำพา “ก้าวไกล” ให้พ้นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ

"กิตติศักดิ์" ย้ำค้าน ม.112 - "เสรี" บอกเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องมาคุย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง