"มาริโอ้" เตรียมพบ ตร.แจงปมซื้อรถที่ถูกเปลี่ยนข้อมูลฯ สัปดาห์นี้

อาชญากรรม
7 ส.ค. 66
16:28
344
Logo Thai PBS
"มาริโอ้" เตรียมพบ ตร.แจงปมซื้อรถที่ถูกเปลี่ยนข้อมูลฯ สัปดาห์นี้
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
รอง ผบช.สอท.เผย "มาริโอ้" เตรียมเข้าชี้แจงการซื้อรถที่ถูกเปลี่ยนข้อมูลในระบบกรมการขนส่งฯ ภายในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันยังไม่พบว่าเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งฯ ร่วมกระทำผิดกับผู้ต้องหา

วันนี้ (7 ส.ค.2566) พล.ต.ต.อำนาจ ไตรรัตน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ประชุมร่วมกับทีมสืบสวนสอบสวน ในคดีการลักลอบเข้าระบบของกรมการขนส่งทางบก เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลรถ ก่อนนำเล่มทะเบียนไปขายต่อในราคาเล่มละ 1-2 ล้านบาท จนพบว่ามีรถจำนวน 65 คันถูกเปลี่ยนข้อมูล

พล.ต.ต.อำนาจ เปิดเผยว่า คดีนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ การดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 2 คนที่ร่วมกันลักลอบเข้าระบบ ซึ่งถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิเตอร์ และถูกส่งศาลไปแล้ว ส่วนอีกคดีจะเริ่มสืบสวนถึงกลุ่มที่ครอบครองรถทั้งหมด และจะออกหมายเรียกให้มาชี้แจงว่ามีส่วนรู้เห็นกับการเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือไม่ หากพบว่ามีความผิดจะดำเนินคดีตามพยานหลักฐาน

พล.ต.ต.อำนาจ ไตรรัตน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.)

พล.ต.ต.อำนาจ ไตรรัตน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.)

พล.ต.ต.อำนาจ ไตรรัตน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.)

ส่วนนายมาริโอ้ เมาเร้อ ได้ประสานขอเข้าพบเพื่อแสดงหลักฐานการครอบครองรถยนต์ยี่ห้อ เบนซ์ รุ่น G-300 สีขาว ภายในสัปดาห์นี้แล้ว โดยได้พูดคุยกันเบื้องต้นแล้วว่า ได้ติดต่อซื้อรถมาจากรุ่นพี่อีกคนหนึ่ง โดยได้เพียงเล่มทะเบียน แต่ยังไม่ได้รถยนต์ ซึ่งก็ผิดปกติที่จะต้องซื้อขายรถยนต์ แต่อย่างไรก็ตามต้องสอบสวนและดูเหตุผลประกอบว่าจะมีความผิดหรือไม่ รวมทั้งต้องเรียกคนที่ขายรถให้มาสอบสวนด้วย

นอกจากนี้จะเรียกผู้ที่ครอบครองรถจักรยานยนต์และรถยนต์ทั้ง 65 คันมาตรวจสอบด้วย โดยบางส่วนได้มาสอบสวนแล้ว บางคนมีเพียงเล่มทะเบียน ไม่มีรถยนต์ บางคนมีทั้งสองส่วน และบางคนมีรถแต่ไม่มีเล่มทะเบียน ซึ่งจะต้องดูว่ามีส่วนรู้เห็นให้เปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือไม่

ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 คนจะเข้าข่ายความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารทางราชการหรือไม่นั้น พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวว่า ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีฐานความผิดครอบคลุมอยู่แล้ว โดยจะมีโทษเพิ่มตามความผิดมูลฐาน แต่น่าจะยังไม่เข้าข่ายฉ้อโกง เพราะยังไม่มีผู้เสียหาย เนื่องจากส่วนใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายจะสมยอมให้กระทำผิดร่วมกัน

สำหรับการสืบสวน ขณะนี้ยังไม่พบความผิดของเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก แม้ว่าผู้ต้องหาจะบอกว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่กว่า 20 ปี และเชื่อว่าเป็นการใช้ความสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่จนถูกลอบเข้าไปใช้ในระบบ ซึ่งตำรวจมีหลักฐานการลักลอบเข้าใช้ในระบบอยู่แล้ว และสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าใครจะร่วมกระทำผิดบ้าง นอกจากนั้นจะประสานกับกรมการขนส่งทางบกเพื่อขอข้อมูลในส่วนนี้เพิ่มเติม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตร.เรียก "มาริโอ้" สอบปมโยงแก๊งสวมทะเบียน

ตร.หารือแนวทางขยายผลคดีสวมทะเบียนรถ บ่ายนี้

ลอบเข้าระบบกรมขนส่งฯ เปลี่ยนข้อมูลรถสวมทะเบียนขายต่อเล่มละล้าน

เปิดโปง ! จนท.ขนส่งฯ เอื้อประโยชน์สวมทะเบียนรถ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง