จับกระแสการเมือง : วันที่ 8 ส.ค. 2566 เพื่อไทย “พรั่น” ศึกนอกหนักใจ ศึกในหนักอก

การเมือง
8 ส.ค. 66
16:08
2,053
Logo Thai PBS
จับกระแสการเมือง : วันที่ 8 ส.ค. 2566 เพื่อไทย “พรั่น” ศึกนอกหนักใจ ศึกในหนักอก
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

นับถอยหลังประชุม ครม. ”ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แม้จะไม่พร้อมเพรียงเพราะเป็นรัฐบาลชุดรักษาการ โดย พล.อ.ประยุทธ์ สวมเสื้อเหลือง สะพายย่ามผ้ามูลมงคลที่ย้อมมาจากขี้ควายจากโครงการโคล้านตัว กิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังมาเปิดงานของศูนย์ศิลปาชีพต่อโดยสวมเสื้อสีฟ้าช่วยโปรโมตงานให้

ขณะที่ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่ตัดสินใจเท 71 เสียง เพื่อไม่ให้พรรคเพื่อไทยยืนเดียวดาย กลายเป็น 2 พรรคร่วม 212 เสียง แถมยังใจกว้างให้นำเสียงที่รวมไปเป็นสารตั้งต้นในการก่อตั้งรัฐบาลเพื่อไทย แต่หลังจากประกาศรวมเพื่อไทยไม่นาน กลุ่มทะลุวังก็เข้าไปป่วนที่ทำการพรรคเพื่อไทย

เหตุการณ์นี้ “เสี่ยหนู” อนุทิน บอกว่า ไม่สมควร พร้อมยกสุภาษิต ‘น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย’ ให้ข้อคิดกลุ่มเคลื่อนไหวว่า

“เป็นสิ่งที่ไม่สมควร ไทยต้องรักษาวัฒนธรรม ไม่พอใจอะไรกันต้องคุยด้วยเหตุผล การใช้ถ้อยคำหยาบคายและการใช้คำที่ไม่เคารพคนที่มีอาวุโสสูงกว่าไม่ใช่ขนบธรรมเนียมที่ดีของคนไทย การที่ประเทศไทยอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้เพราะมีวินัย และการเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ถือเป็นเอกลักษณ์และซอฟต์พาวเวอร์ของเราอย่างหนึ่ง จึงอยากให้รักษาเอาไว้ ต้องคุยกันดีๆ เพราะทุกคนมีอารมณ์หมด เพียงแต่ใครจะข่มได้มากกว่า”

ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ถูกปฏิเสธจาก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า ยังไม่ส่งเทียบเชิญพรรค 2ลุง แม้ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จะลาออกไปแล้วก็ตาม

ส่วนพลังประชารัฐ พรรคของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งมีการปรับกรรมการบริหารพรรค โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นเลขาฯ มี “บิ๊กป็อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ มาเป็นประธานที่ปรึกษา ซึ่งคาดว่าน่ารอเสียบ ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากลุงป้อม

ต่างจาก “ขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก ย้ำจุดยืนชัดของพรรคว่า “รทสช.” พร้อมเดินไปข้างหน้า.. อย่างพร้อมเพรียง

แม้การเลือกตั้งจะจบลงไปแล้ว แต่ รทสช. ไม่เคยหยุดเดินหน้าภารกิจสร้างพรรคด้วยทุนประเดิม ที่ได้รับจากการเลือกตั้งกว่า 4.7 ล้านเสียงเป็นจุดเริ่มต้น “ในสภา” รทสช. ยืนหยัดปักหลักต่อสู้ด้วย สส. 36 คน ที่เรามี..

 “รทสช.” จะไม่หยุดอยู่แค่นี้ เรามองไปถึงอนาคตภายภาคหน้า ที่พรรคฯ จะต้องเติบโตแข็งแรงขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วยความร่วมมือของพวกเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็น สส. ทีมงาน สมาชิกพรรคฯ และที่สำคัญที่สุด ประชาชนที่ให้การสนับสนุนพรรคฯ ไม่แตกแถว ไม่แยกกลุ่ม #เดินหน้าไปพร้อมกัน

ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็ยังระส่ำ เมื่อกลุ่มเคยหนุนที่ใช้ชื่อว่าแท็กซี่ทวงคืนความยุติธรรม กลุ่มแท็กซี่อิสระเพื่อสังคม และกลุ่มเสื้อแดงรัก พากันประกาศตัดขาด “เพื่อไทย” ถอดเสื้อแดงสมัย “ทักษิณ” ใส่พานคืน เปิดเพลง “อกหักซ้ำสอง” พร้อมวางดอกไม้จันทน์หน้าที่ทำการพรรค โดยแกนนำกลุ่มแท็กซี่ ระบุว่า รับไม่ได้กรณีเพื่อไทยจับมือภูมิใจไทย

วรพล แกมขุนทด ระบุว่า ไม่ได้คัดค้านการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย แต่มาเพื่อแสดงจุดยืน ว่าจะไม่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยอีกต่อไปหลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยร่วมกันต่อสู้กับคนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทยในการโจมตีพรรคภูมิใจไทยมาก่อน แต่มาวันนี้พรรคเพื่อไทยจะจับมือกับภูมิใจไทยเป็นสิ่งที่รับไม่ได้

มีคนรัก ก็ต้องมีคนชัง โลกธรรมที่เลี่ยงไม่ได้ ในวันเดียวกัน กลุ่มญาติวีรชนเมษายน-พฤษภาคม ปี 53 เดินทางมาให้กำลังใจพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล แต่ประกาศจุดยืนไม่ขอสนับสนุนการจับขั้วรัฐบาลที่มีพรรคพลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ และประชาธิปัตย์

โดยมี นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด และนายนิคม บุญวิเศษ เป็นตัวแทนรับกระเช้าดอกไม้ ซึ่งตัวแทนกลุ่มบอกว่า พรรคก้าวไกลได้คะแนนเป็นอันดับ 1 และพรรคเพื่อไทยได้คะแนนเป็นอันดับ 2 ที่ผ่านมาเพื่อไทยรับปากว่าจะทำสุดความสามารถเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย จึงอยากให้กำลังใจในการจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ

แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยร่วมกับพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการเหตุการณ์การเสียชีวิตในการชุมนุมปี 2553 ซึ่งผู้ร่วมทวงคืนความยุติธรรม มีอยู่ในทุกจังหวัด กำลังรอความยุติธรรมจากพรรคเพื่อไทยที่จะเป็นรัฐบาลที่มาจากฝ่ายประชาธิปไตย

ปิดท้ายเตือนภัยวันนี้ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เตือนประชาชนระวัง แก๊งมิจฉา ชีพ ส่ง SMS แอบอ้างประกันสังคม ลวงผู้ประกันตนกดลิงก์ปลอม จนมีความเสี่ยงทำให้เสียทรัพย์ หากพบข้อความ SMS ส่งผ่านโทรศัพท์มือถือหรือลิงก์ใดๆ อย่ากด หรือขอหมายเลขบัตรประชาชนเป็นอันขาด 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง