4 ปัจจัย ทำไม? ไฟป่าโหมกระหน่ำป่าร้อนชื้นบนเกาะเมาวี รัฐฮาวาย

ต่างประเทศ
11 ส.ค. 66
14:12
6,400
Logo Thai PBS
4 ปัจจัย ทำไม? ไฟป่าโหมกระหน่ำป่าร้อนชื้นบนเกาะเมาวี รัฐฮาวาย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ไฟป่าที่พัดโหมกระหน่ำบนเกาะเมาวี 1 ใน 8 เกาะ รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา ลุกลามอย่างรวดเร็วและสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนรวมถึงคร่าชีวิตคนบนเกาะแล้วอย่างน้อย 53 คน ผู้สูญหายอีกนับพัน ไฟป่าบนเกาะเมาวีทำลายโรงพยาบาลและสถานที่ทางวัฒนธรรมจำนวนมาก
เป็นเรื่องแปลกมาก กับไฟป่าที่รุนแรงในฮาวาย ซึ่งเป็นเกาะเขตร้อน สภาพอากาศร้อนชื้น แต่เหตุการณ์แปลกๆ เช่นนี้จะเกิดขึ้นบ่อยขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

Jennifer Marlon นักวิทยาศาสตร์และอาจารย์ประจำสถาบันสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเยล แห่งสหรัฐฯ กล่าวกับ CNN

Clay Trauernicht ผู้เชี่ยวชาญไฟเขตร้อน มหาวิทยาลัยฮาวาย กล่าวว่า ไฟป่าที่เกาะเมาวี ดูเหมือนจะเป็น 1 ในไฟที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของสหรัฐฯ ขณะนี้ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 2 เหตุการณ์ไฟป่าที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา ตามหลังเหตุการณ์ไฟป่าแคลิฟอร์เนีย ที่คร่าชีวิตผู้คนไป 85 คนในเดือน พ.ย.2561 

นับเป็นไฟป่าที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของฮาวาย

และนี่คือ 4 ปัจจัยที่ทำให้รัฐที่ขึ้นชื่อเรื่องความงามตามธรรมชาติอันน่าทึ่ง เข้าสู่วิกฤตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน 

ภัยแล้ง

หมู่เกาะฮาวายถูกล้อมรอบด้วยมหาสมุทรแปซิฟิก มีปริมาณน้ำฝน 4,000 มม./ปี สภาพภูมิอากาศร้อนชื้น อุณหภูมิตลอดทั้งปีอยู่ระหว่าง 18-25 องศาเซลเซียส แต่เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา US Drought Monitor เผยแพร่รายงานสภาพภัยแล้งระดับรุนแรงในเขตพื้นที่เมาวีว่า เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 16 จากเมื่อสัปดาห์ก่อนที่อยู่เพียงร้อยละ 5 ขณะที่ภัยแล้งระดับปานกลางทั่วทั้งรัฐฮาวายพุ่งขึ้นเป็นร้อยละ 14 จากร้อยละ 6

Trauernicht อธิบายถึง สภาพความแห้งแล้งทวีความรุนแรงมากขึ้นและพบได้บ่อยขึ้นในฮาวายและหมู่เกาะแปซิฟิกอื่นๆ ปริมาณน้ำฝนในฮาวายลดลง จำนวนวันที่อากาศแห้งติดต่อกันเพิ่มขึ้น ผืนดินและพืชพันธุ์ที่แห้งแล้งสามารถเป็นเชื้อเพลิงสำหรับไฟป่า และจะยิ่งสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนประชาชนได้เร็วขึ้นหากเจอลมแรงพัดเปลวเพลิงเข้าไปอีก

มันเป็นปัญหาเชื้อเพลิงมากกว่าปัญหาสภาพอากาศ การรวมเชื้อเพลิงจำนวนมากเข้ากับความร้อน ความแห้งแล้ง และ ลมกระโชกแรง เป็นสูตรสมบูรณ์แบบสำหรับไฟที่ไม่สามารถควบคุมได้
สภาพบ้านเรือนเสียหายจากไฟป่าไหม้

สภาพบ้านเรือนเสียหายจากไฟป่าไหม้

สภาพบ้านเรือนเสียหายจากไฟป่าไหม้

สอดคล้องกับ Malon ที่กล่าวว่า นักวิทยาศาสตร์พยายามทำความเข้าใจถึง วิกฤตสภาพอากาศส่งผลกระทบต่อฮาวายอย่างไร ภัยแล้งจะเลวร้ายลงเมื่ออุณหภูมิโลกสูงขึ้น อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นยิ่งเพิ่มปริมาณน้ำที่ชั้นบรรยากาศมากขึ้น และภูมิประเทศแห้งขึ้น

นี่คือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเกิดขึ้น มันคือสภาพอากาศสุดขั้วที่ชาร์จพลังมหาศาล เป็นอีกตัวอย่างที่เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากมนุษย์มีหน้าตาเป็นอย่างไร

ลมจากเฮอริเคน

ในขณะที่ ฮาวายกำลังเผชิญหน้ากับเฮอริเคนดอรา พายุระดับ 4 ที่เคลื่อนตัวเร็วกว่า 140 ไมล์/ชั่วโมง และมีกำลังแรง National Weather Service ระบุว่า เฮอริเคนดอราประกอบด้วยลมความชื้นต่ำ ที่ก่อให้เกิดสภาพอากาศที่สามารถสร้างไฟได้ 

กระแสลมแรง สภาวะแห้งแล้งอย่างต่อเนื่อง และความชื้นสัมพัทธ์ที่แห้ง เป็นองค์ประกอบในการจุดประกายไฟเหล่านั้นและพัดเปลวเพลิง

Abby Frazier นักภูมิอากาศวิทยาและนักภูมิศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยคลาร์ก ในแมสซาชูเซตส์ กล่าวว่า ไฟป่าเป็นปัญหาใหญ่ในฮาวายมากกว่าที่หลายคนอาจรู้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เชื้อเพลิงจะถูกสร้างขึ้นและแห้งไปในช่วงฤดูแล้ง และเมื่อรวมเชื้อเพลิงแห้งเหล่านี้เข้ากับลมแรงและความชื้นต่ำที่ได้จากเฮอริเคนดอราในตอนนี้ ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งคือ "เอลนีโญ" ที่มีต้นกำเนิดในมหาสมุทรแปซิฟิกตามแนวเส้นศูนย์สูตร นั่นหมายถึงการเกิดเฮอริเคนที่สูงกว่าปกติ 

เราก็มีสภาพอากาศที่อันตรายอย่างยิ่งจากไฟป่า

การคุกคามพื้นที่จากฝีมือมนุษย์

ฮาวายสูญเสียพื้นที่ป่าไปกับการแปรสภาพเป็นพื้นที่เพาะปลูกและฟาร์มปศุสัตว์ขนาดใหญ่ และขณะนี้กำลังเผชิญปัญหา เกษตรกรนำพันธุ์ไม้ต่างถิ่นมาปลูกมากถึง 1 ใน 4 ของพื้นที่ทั้งหมดในรัฐ ส่วนใหญ่เป็นหญ้าและพุ่มไม้ที่สามารถติดไฟได้ง่าย นอกจากนั้น ประชากรบนเกาะยังปรับเปลี่ยนพื้นที่ไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นอีก เช่น สร้างถนน สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทะเล

เมื่อเข้าฤดูเพาะปลูก หรือ มีการเปลี่ยนแปลงและการใช้ประโยชน์ที่ดิน
นั่นหมายถึงภาระงานที่เพิ่มขึ้นของนักดับเพลิง 

สถิติพื้นที่ไฟไหม้ในฮาวายที่เกิดขึ้นทุกปี คิดเป็นร้อยละ 1 ของพื้นที่ทั้งหมดของรัฐ แต่กินพื้นที่มากกว่าพื้นที่ไฟป่า 12 รัฐทางตะวันตกของสหรัฐฯ แผ่นดินใหญ่รวมกัน Trauernicht และ Pacific Fire Exchange ให้ข้อสังเกต

ปฏิบัติการดับไฟป่า เกาะเมาวี ฮาวาย

ปฏิบัติการดับไฟป่า เกาะเมาวี ฮาวาย

ปฏิบัติการดับไฟป่า เกาะเมาวี ฮาวาย

ภูมิศาสตร์-ทรัพยากรจำกัด ขัดขวางการดับเพลิง

ถ้าเปรียบเทียบกับแผ่นดินใหญ่ น่าจะมีนักดับเพลิงราว 2,000-3,000 คน แต่ที่ฮาวายมีน้อยกว่า 300 คน และพวกเขาไม่ใช่นักดับเพลิงป่ามืออาชีพ 

ผู้เชี่ยวชาญไฟเขตร้อน มหาวิทยาลัยฮาวาย อธิบายถึง จำนวนบุคลากรของกองป่าไม้และสัตว์ป่าของรัฐฮาวาย ที่ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร นักป่าไม้ นักชีววิทยา และช่างเทคนิคทั่วไป ยิ่งรวมกับสภาพภูมิประเทศที่เป็นเกาะ ทำให้การตามหานักดับเพลิงที่เชี่ยวชาญและอุปกรณ์ยิ่งถูกจำกัด

กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ ออกมาเตือนล่วงหน้าถึงสภาพอากาศเลวร้ายที่กำลังกระทบฮาวาย ที่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะมีลมแรงและสภาพอากาศที่แห้งเท่าไร และเมื่อไหร่ แต่การจัดการเชื้อเพลิงให้อยู่ในระดับที่ไม่สร้างความเสียหาย จำเป็นต้องใช้เวลานานกว่านั้น จำเป็นต้องมีการวางแผนระยะยาวและความพยายามจำกัดการเจริญเติบโตของหญ้าและพุ่มไม้ที่รุกราน

เกาะเมาวี เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของในหมู่เกาะฮาวาย มีพี้นที่ 1,883.5 ตร.กม. และเป็นเกาะที่ใหญ่อันดับที่ 17 ในสหรัฐฯ

แผนที่หมู่เกาะฮาวาย

แผนที่หมู่เกาะฮาวาย

แผนที่หมู่เกาะฮาวาย

ส่วนรัฐฮาวายเป็นรัฐที่อายุน้อยที่สุดของสหรัฐฯ ประกอบด้วยเกาะใหญ่ 8 เกาะ ได้แก่ เกาะคา, โออาฮู, โมโลไก, ลาไน, เมาวี, ฮิอิเฮา, คัลฮูโลว์ และ เกาะฮาวาย (หรืออีกชื่อเรียกว่าเกาะใหญ่ - Big island) ฮาวายจัดเป็นรัฐที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของสหรัฐฯ มีเมืองหลวงชื่อ ฮอนโนลูลู และหาดที่มีชื่อเสียงระดับโลกชื่อ ไวกิกิ

ที่มา : CNN

ข่าวที่เกี่ยวข้อง