"แม่จูงลูก" ทัวร์สัปดาห์วิทย์ปี'66 เปิดโลกลับ ลวง ล่า

Logo Thai PBS
"แม่จูงลูก" ทัวร์สัปดาห์วิทย์ปี'66 เปิดโลกลับ ลวง ล่า
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เปิดโลกไฮเทค "แม่จูงลูก" พาเที่ยวงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติปี'66 ไฮไลต์แอบเข้าต้นกาบหอยแครง หนึ่งในพืชกินสัตว์นิทรรศการ ลับ ลวง ล่า พฤกษามรณะ สอนสาวๆหัดกวนครีม ต่อยอดธุรกิจความงาม และปิดท้ายลึกลับกับอาหารไทย
ผลที่ได้คือ ความสนุก ไม่ใช่ความกลัว เอาจริง ๆ พืชนักล่ามีสีสันสวยงามแทบทุกพันธุ์ แต่ทุกพันธุ์มีวิธีการจับแมลงที่แยบยล สำหรับแม่ พืชชนิดนี้น่ากลัวที่สุด

แม่นุ่น และน้องณารา เด็กสาววัย 7 ขวบ บอกถึงความสนุกสนานจาก ประสบการณ์ตรงที่ได้ไปสัมผัสงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติปี 2566 แม้จะใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมง

เธอบอกว่า เป็นครั้งแรกที่พาลูกสาววัย 7 ขวบ ไปเที่ยวงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ลูกตื่นเต้นตั้งแต่ติดสติกเกอร์เข้างาน เห็นจากในรีวิวว่า นิทรรศการ ลับ ลวง ล่า พฤกษามรณะ (Deadly Traps) มีการจำลองต้นกาบ หอยแครง หนึ่งในพืชกินสัตว์ ซึ่งน่าสนใจ กิจกรรมนี้ส่งลูกไปลองเป็นแมลง ว่าเมื่อใบกาบหอยแครงหุบลงแล้วจะรู้สึกอย่างไร

อีกกิจกรรมที่ชื่นชอบทั้งแม่ และลูกคือ นิทรรศการ ฉัน เฉิด ฉาย (Beauty and Me) บู๊ทนี้ให้ความรู้เรื่องความสวยความงาม มีสอนแต่งหน้าด้วย แต่แถวยาวมาก เราสองคนรอไม่ไหว โชคดีที่บู๊ท Beauty Workshop ทำครีมทาผิว "ครีมนุ่ม ละมุนละไม" ประกาศเปิดรอบพิเศษ เราสองคนจึงรีบเข้าไปร่วมได้ทัน

การทำครีมทาผิวไม่ยากเลย เพราะเรามีหน้าที่แค่ กวน กวน (ครีม) อย่างเดียว หลังจากพี่ ๆ เจ้าหน้าที่เตรียมน้ำมันมะพร้าว น้ำเปล่า และสารเคมีไว้ให้แล้ว เริ่มกวนจากน้ำใส ๆ จนเป็นเนื้อครีมที่เราคุ้นชิน สุดท้ายก็เลือกลิ่นที่ชื่นชอบใส่ลงไปในครีม ลูกสาวเลือกกลิ่นมะลิ ส่วนแม่เลือกกลิ่นส้ม ครีมจากฝีมือของแม่และลูก ยังได้กลับมาเป็นที่ระลึก

น้องณารา บอกสิ่งที่เธอชอบมากที่สุด ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า ได้เห็นสัตว์สตัฟท์ หลายตัวทั้งเสือ จระเข้ หมี เต่า ลิง กระรอก เพราะได้เห็นในระยะใกล้มากๆ ไม่กลัว และอยากจับ แต่ทำไม่ได้ เพราะจะเสียหาย

งานครั้งนี้ผิดหวังนิดหน่อย ที่หนูไม่ได้เจอหุ่นยนต์น้องหมา เพราะว่าโชว์วันละ 1 รอบเท่านั้น ตอนไปถึงเลยเวลาโชว์ไปแล้ว

รัชกาลที่ 4 พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์

สำหรับวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ตรงกับวันที่ 18 ส.ค.ของทุกปี เป็นหนึ่งในวันสำคัญของคนไทย ย้อนหลังเมื่อ 18 ส.ค.2411 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงทอดพระเนตรสุริยุปราาคาเต็มดวง ที่คำนวณไว้ล่วงหน้า 2 ปีที่หว้ากอ จ.ประจวบคีรีขันธ์ อย่างแม่นยำ

รัฐบาลไทยจึงกำหนดให้วันที่ 18 ส.ค. เป็นวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ พร้อมเทิดพระเกียรติให้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย

โดยแต่ละปีจะจัดกิจกรรมเพื่อให้เยาวชน ได้เปิดโลกและประสบการณ์ทางด้านวิทยาศาสตร์ที่หลากหลาย อย่างปีนี้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม 

สัตว์สตัฟฟ์ ที่หลากหลายทั้งจระเข้ เสือ หมี

สัตว์สตัฟฟ์ ที่หลากหลายทั้งจระเข้ เสือ หมี

สัตว์สตัฟฟ์ ที่หลากหลายทั้งจระเข้ เสือ หมี

ปักหมุด 5 ไฮไลต์ทัวร์วิทยาศาสตร์ปี'66

โดยปีนี้มี 5 ไฮไลต์มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติปี 2566 ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11-20 ส.ค.นี้ ภายใต้แนวคิด For Bright and Creative Generations ส่งเสริมการเกิดความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผสานกับศิลปะในมุมของการขับเคลื่อน พัฒนา เศรษฐกิจสร้าง สรรค์ ตามแนวทางพระราชดำริ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ BCG Model  

ใครที่เป็นมือใหม่ อยากเที่ยวแบบได้ความรู้กลับบ้าน ต้องเริ่มต้นจากนิทรรศการเทิดพระเกียรติ (Royal Pavilion) พระอัจฉริยภาพ “พระราชบิดาแห่งวิทยา ศาสตร์ไทย”

พระอัจฉริยภาพ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย” และ “พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” และนิทรรศการเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ทรงมีคุณูปการต่องานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการศึกษาของประเทศไทย

ส่วนสถานีต่อไป นิทรรศการ ลับ ลวง ล่า พฤกษามรณะ (Deadly Traps)
นิทรรศการ และกิจกรรมที่เกี่ยวกับพืชผู้ล่า ซึ่งมีความสำคัญในระบบนิเวศ เสริมสร้างอุปนิสัยความอยากรู้อยากเห็น 

การตั้งคำถามและการแสวงหาคำตอบเกี่ยวกับพืชผู้ล่า ความมหัศจรรย์ของพืชผู้ล่า พืชที่สามารถควบคุมประชากรของแมลงในพื้นที่ให้เกิดความสมดุล รู้จักกับพืชผู้ล่าหลากหลายชนิดทั่วโลก เข้าใจสาเหตุความจำเป็นของการกินแมลง รู้กลไกการล่า ตลอดจนการย่อยเหยื่อ

นิทรรศการ มายาประดิษฐ์ (Fascination of Film Making) ร่วมออกเดินทางท่องไปในโลกของการสร้างภาพยนตร์ จากหนังสั้นเรื่องแรกสู่อุตสาหกรรมบันเทิงที่ทรงอิทธิพลระดับโลก

สัมผัสประสบการณ์เรียนรู้ผ่านพัฒนาการของเทคโนโลยี และกระบวนการผลิตที่เต็มไปด้วยองค์ประกอบของศาสตร์และศิลป์ ที่ช่วยเนรมิตให้จินตนาการของมนุษย์ออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหว ดุจใช้เวทย์มนต์ผ่านฝีมือของเหล่านักสร้างภาพยนตร์  

 Beauty Workshop ทำครีมทาผิว

Beauty Workshop ทำครีมทาผิว

Beauty Workshop ทำครีมทาผิว "ครีมนุ่ม ละมุนละไม"

นิทรรศการ ลึกลับกับอาหารไทย (Secret of Thai Flavors) ภูมิอากาศที่เอื้อต่อการเกษตร ภูมิประเทศอันอุดมสมบูรณ์ และการมีสังคมแบบพหุวัฒนธรรม ทำให้อาหารไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้คนมากมายสนใจ และยอมรับความเป็นไทยในโลกสากล

นิทรรศการ ฉัน เฉิด ฉาย (Beauty and Me) นิทรรศการที่ทำให้ผู้เข้าชมการเข้าใจความงามด้วยวิทยาศาสตร์ เพื่อต่อยอดไปสู่ STEAM Career ซึ่งจะไขความลับแห่งการย้อนวัยและความลับแห่งความงาม 

รวมทั้งสัมผัสนวัตกรรมและเทคโนโลยี ความงามที่ลงลึกถึงระดับเซลล์ นำเสนองานวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ได้มาตรฐานระดับสากล ร่วมทด ลอง และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ความงาม ต่อยอดองค์ความรู้ จุดประกายสู่การประกอบอาชีพบนพื้นฐานภูมิปัญญาและวิทยาศาสตร์

ใครยังไม่มีแผนเที่ยวปลายสัปดาห์นี้ แวะไปชม สัมผัส ดูความล้ำยุคจากฝีมือคนไทยได้ทีอิมแพค เมืองทองธานี จนถึง 20 ส.ค.นี้ 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง