ดีเดย์ 1 ก.ย. ร้านค้าบนเกาะเต่า เลิกขาย "เบียร์ขวด" เปลี่ยนเป็น "กระป๋อง" แทน

สิ่งแวดล้อม
30 ส.ค. 66
11:49
1,429
Logo Thai PBS
ดีเดย์ 1 ก.ย. ร้านค้าบนเกาะเต่า เลิกขาย "เบียร์ขวด" เปลี่ยนเป็น "กระป๋อง" แทน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ดีเดย์ 1 ก.ย.นี้ ร้านค้าบนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เลิกขายเบียร์แบบขวด เปลี่ยนเป็นเบียร์กระป๋องอลูมิเนียมแทน แก้ปัญหาการกำจัดขยะบนเกาะ และลดปริมาณขยะหลุดรอดลงทะเล กระทบระบบนิเวศ

วันนี้ (30 ส.ค.2566) กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมการท่องเที่ยว เทศบาลตำบลเกาะเต่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงนามในโครงการจัดการขยะบรรจุภัณฑ์ตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ พัฒนาระบบขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต และระบบจัดการขยะมูลฝอยในพื้นที่เกาะเต่า เพื่อขับเคลื่อนให้เกาะเต่ามุ่งสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ณ โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า จ.สุราษฎร์ธานี

นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องของการจัดการสิ่งแวดล้อม อยู่ระหว่างการศึกษากฎหมายการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน เพื่อที่จะลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการจัดการขยะบรรจุภัณฑ์อย่างไม่ถูกต้อง โดยจะผลักดันให้ขยะเหล่านี้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน

ใช้หลักการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต เพื่อให้ผู้ที่จำหน่ายบรรจุภัณฑ์หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ บนเกาะเต่า ร่วมรับผิดชอบในการนำบรรจุภัณฑ์หรือผลิตภัณฑ์กลับคืนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนของตน และจะใช้เกาะเต่าเป็นพื้นที่นำร่องในการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ที่จะนำขึ้นเกาะ ซึ่งมีภาคส่วนธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องบนเกาะเต่า ได้แก่ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะเต่า ชมรมรักษ์เกาะเต่า บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมให้ความร่วมมือที่ในการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ โดยเริ่มจากเบียร์ขวด ให้เป็นเบียร์กระป๋องอลูมิเนียมแทน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2566 โดยร้านค้าบนเกาะเต่าได้ให้ความร่วมมือเพื่อลดปัญหาบรรจุภัณฑ์ที่จะต้องถูกนำไปกำจัด

นอกจากนี้ จะรณรงค์ในการลดการใช้ขยะพลาสติกต่าง ๆ แบบใช้ครั้งเดียว หรือ Single use plastic เพื่อลดปริมาณที่จะต้องนำไปกำจัด รวมทั้งปริมาณที่อาจหลุดรอดไปเป็นขยะทะเล และส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือในวันนี้ เพื่อที่จะขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาขยะบนเกาะเต่า ซึ่งมาพร้อมกับการท่องเที่ยวที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี โดยภาคธุรกิจเอกชนบนเกาะ เล็งเห็นความสำคัญและมีความตระหนักในการแก้ปัญหาร่วมกัน เพื่อให้เกาะเต่าเป็นแหล่งดำน้ำที่มีความสวยงาม ไม่มีขยะพลาสติกในทะเล ไม่มีขยะขวดแก้วที่จะตกค้างในพื้นที่ และมุ่งสู่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ หรือ Eco – tourism ที่จะให้นักท่องเที่ยว ประชาชน ผู้ประกอบการ และภาครัฐ มีส่วนร่วมในการจัดการร่วมกันตั้งแต่การเลือกประเภทผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมขึ้นไปยังเกาะเต่า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง