มารู้จัก ASEAN กันเถอะ

ต่างประเทศ
31 ส.ค. 66
08:15
10,493
Logo Thai PBS
มารู้จัก ASEAN กันเถอะ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
อาเซียนถือเป็นความสำเร็จทางการทูตที่เริ่มต้นจากความคิดของ ดร.ถนัด คอมันตร์ รมว.การต่างประเทศของไทยและอีก 4 ประเทศสมาชิกในขณะนั้น จนกระทั่งปัจจุบัน อาเซียนมีอายุ 56 ปีแล้ว และถือว่าทุกวันที่ 8 ส.ค.ของทุกปี เป็น "วันอาเซียน"

จุดเริ่มต้น อาเซียน (ASEAN)

อาเซียนตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 ส.ค.2510 หลังการลงนามในปฏิญญาสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Declaration of ASEAN Concord) หรือที่รู้จักอีกชื่อหนึ่งว่า ปฏิญญากรุงเทพฯ (Bangkok Declaration) โดยรัฐมนตรีจาก 5 ประเทศ ได้แก่

  1. อาดัม มาลิก รมว.การต่างประเทศ จากอินโดนีเซีย
  2. ตุน อับดุล ราซัก ปิน ฮุสเซน รองนายกฯ, รมว.กลาโหม และ รมว.พัฒนาการแห่งชาติ จากมาเลเซีย
  3. นาซิโซ รามอส รมว.การต่างประเทศ จากฟิลิปปินส์
  4. เอส ราชารัตนัม รมว.การต่างประเทศ จากสิงคโปร์
  5. พ.อ.(พิเศษ) ดร.ถนัด คอมันตร์ รมว. การต่างประเทศ จากไทย

โดยที่ประเทศผู้ร่วมก่อตั้ง เห็นว่าการตั้งองค์กรความร่วมมือระดับภูมิภาค จะมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดความขัดแย้ง และ ส่งเสริมการระงับข้อพิทาทโดยสันติวิธี ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งนี้ ปฏิญญากรุงเทพฯ กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์สำหรับอาเซียน 7 ประการ ได้แก่

  1. ส่งเสริมความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางสังคม และ วัฒนธรรม
  2. ส่งเสริมการมีเสถียรภาพ สันติภาพ และ ความมั่นคงของภูมิภาค
  3. ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม วิชาการ วิทยาศาสตร์ และ ด้านการบริหาร
  4. ส่งเสริมความร่วมมือซึ่งกันและกัน ในการฝึกอบรม และ การวิจัย
  5. ส่งเสริมความร่วมมือ ในด้านเกษตรกรรม และ อุตสาหกรรม การค้า การคมนาคม การสื่อสาร  และ การปรับปรุงมาตรฐานการดำรงชีวิต
  6. ส่งเสริมการมีหลักสูตรการศึกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  7. ร่วมมือกับองค์กรระดับภูมิภาค และ องค์กรระหว่างประเทศ

หลังการจัดตั้งอาเซียนแล้ว ต่อมาอาเซียนได้เปิดรับสมาชิกใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่

  • บรูไนดารุสซาลาม เข้าเป็นสมาชิก เมื่อ 7 ม.ค.2527
  • เวียดนาม เข้าเป็นสมาชิก เมื่อ 28 ก.ค.2538
  • ลาว และ พม่า เข้าเป็นสมาชิก เมื่อ 23 ก.ค.2540
  • กัมพูชา เข้าเป็นสมาชิก เมื่อ 30 เม.ย.2542

ความสำเร็จของอาเซียน

นับแต่ก่อตั้ง ประเทศสมาชิกอาเซียนพยายามส่งเสริมการยึดมั่นในบรรทัดฐานร่วมกัน และสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้กำหนดนโยบาย ความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่างกันมีส่วนช่วยป้องกันความขัดแย้งไม่ให้เกิดขึ้นระหว่างกัน มีส่วนช่วยป้องกันความขัดแย้งไม่ให้เกิดขึ้นในภูมิภาค ทำให้ไม่มีสงครามระหว่างกันและยังประสบความสำเร็จในการส่งเสริมให้อาเซียนเป็นเวทีที่ประเทสมหาอำนาจหลายประเทศเข้าร่วมหรือหารือในฐานะประเทศคู่เจรจา (Dialogue Partnership) รวมทั้งมีความร่วมมืในกรอบความร่วมมืออาเซียน+3 (ASEAN+3) ด้วย

อาเซียนได้วางรากฐานของการบูรณาการทางเศรษฐกิจในภูมิภาคโดยการจัดตั้ง เขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area หรือ AFTA) และยังมีความตกลงอื่นๆ ทั้งใน
อาเซียนเองและกับประเทศคู่เจรจา เพื่อส่งเสริมให้อาเซียนเป็นระบบเศรษฐกิจที่เปิดต่อประชาคมโลก ส่งเสริมความร่วมมือในระดับภูมิภาคในการอนุรักษ์สภาพแวดล้อม การต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อร้ายแรง และ ความร่วมมือสาขาอื่นอีกมากมาย ตลอดจนส่งเสริมความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวให้เกิดขึ้นในภูมิภาค

สร้างประชาคมอาเซียน

ในยุคโลกาภิวัตน์ที่สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ประเทศต่างๆ ให้ความสำคัญกับการรวมตัวกันในภูมิภาค เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองและเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันในเวทีระหว่างประเทศ อาเซียนจึงต้องปรับตัวให้เท่าทันสถานการณ์ เพื่อให้สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลง
ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที

การผนึกกำลังของประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ย่อมทำให้ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง และ ปัญหาท้าทายได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และช่วยให้เสียงของอาเซียนมีน้ำหนัก สร้างความเชื่อถือในอาเซียน และ ทำให้อาเชียนมีอำนาจต่อรองในเวทีระหว่างประเทศมากขึ้น

ในปี 2546 ผู้นำอาเซียนต่างเป็นพ้องกันว่า ถึงเวลาแล้วที่อาเซียนควรจะร่วมมือกันให้เหนียวแน่น เข้มแข็ง และมั่นคงยิ่งขึ้น จึงกำหนดให้มีการสร้าง ประชาคมอาเซียน ที่ประกอบด้วย 3 เสาหลัก ได้แก่

  1. ประชาคมการเมืองความมั่นคงอาเซียน (ASEAN Political Security Community) มุ่งให้ประเทศสมาชิกอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข แก้ไขปัญหาระหว่างกันโดยสันติวิธี มีเสถียรภาพและความมั่นคงรอบด้าน 
  2. ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community) มุ่งเน้นให้เกิดการรวมตัวกันทางเศรษฐกิจ และความสะดวกในการติดต่อค้าขายระหว่างกัน เพื่อให้ประเทศสมาชิกสามารถแข่งขันกับภูมิภาคอื่น ๆ ขนาดเศรษฐกิจของอาเซียนรวมกันใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของโลก มีประชากร 642.1 ล้านคน 
  3. ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Socio-Cuttural Community) มุ่งหวังให้มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี มีความมั่นคงทางสังคม มีการพัฒนาในทุก ๆ ด้าน มีสังคมที่เอื้ออาทรและแบ่งปัน รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน

หลายเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอาเซียน

ไม่แทรกแซงกิจการภายใน (Principle of Non-interference) หลักการนี้ทำให้อาเซียนมีความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน เนื่องจากแต่ละประเทศสมาชิกต่างเห็นตรงกันว่า ไม่ต้องการให้ผู้อื่นเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของตน รวมทั้งแนวคิดที่ว่าปัญหาภายในประเทศไม่สามารถแก้ไขโดยมาตรการลงโทษจากภายนอก

เร่งรัดกระบวนการปรองดองในเมียนมา อาเซียนช่วยผลักดัน เร่งรัด และ เจรจา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเมียนมา เพื่อนำประชาธิปไตยกลับสู่ประเทศ พร้อมกับเรียกร้องให้เมียนมาปล่อยนักโกษการเมือง รวมถึงนางออง ซาน ซูจี

อย่างไรก็ดี อาเซียนไม่เห็นด้วยต่อการคว่ำบาตรและใช้มาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจเพื่อนำไปสู่
การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายในพม่า เพราะเห็นว่าเป็นมาตรการที่ไม่ได้ผลและไร้ประโยชน์ ทั้งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวพม่า

ใช้เวทีเจรจาสร้างสัมพันธ์ อาเซียนยังมีกลไกเพื่อปฏิสัมพันธ์กับประเทศนอกภูมิภาคเพื่อสร้างความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงระหว่างกันที่สมดุลและสร้างสรรค์ โดยผ่านเวทีการหารือระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ผ่านการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (East Asia Summit - EAS)

ทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปราศจากการสู้รบทางการทหารมาเป็นเวลามากกว่า 20 ปีแล้ว

  • อาเซียน+3 (ASEAN+3) คือ ความร่วมมือของ 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน กับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจขนาดใหญ่อีก 3 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ เพื่อความร่วมมือหลัก ๆ 5 ด้าน คือ การเมืองความมั่นคง เศรษฐกิจและการเงิน พลังงาน สิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศโลก รวมทั้งสังคมและวัฒนธรรม
  • อาเซียน+6 (FTA ASEAN+6) คือ การรวมตัวกันของ 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน และอีก 6 ประเทศนอกอาเซียน ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และ อินเดีย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของกลุ่มในการลงทุน การทำการค้า และศักยภาพการแข่งขัน พร้อมกับปูทางเพื่อเตรียมทำข้อตกลงการเปิดการค้าเสรีของประเทศอาเซียน+6
  • อาเซียน-สหรัฐอเมริกา สหรัฐอเมริกาเป็นคู่เจรจาของอาเซียนตั้งแต่ปี 2520 และยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์เมื่อปี 2558 ด้วยความร่วมมือด้านการเมืองความมั่นคง เศรษฐกิจ รวมทั้งสังคมและวัฒนธรรม นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังเป็นประเทศคู่เจรจาประเทศแรกที่แต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำอาเซียนอีกด้วย

เขตปลอดนิวเคลียร์ ประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมลงนามกันใน สนธิสัญญาว่าด้วยเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia Nuclear-Weapon-Free Zone Treaty) ซึ่งได้ลงนามเมื่อเดือน ธ.ค.2538 มุ่งให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ ไม่พัฒนา ไม่ผลิต ไม่จัดซื้อ ไม่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ไม่เป็นฐานการผลิต ไม่ขนส่งอาวุธนิวเคลียร์ ไม่ทดสอบ และ ไม่ใช้อาวุธ นิวเคลียร์ในภูมิภาค นอกจากนี้ ยังห้ามไม่ให้รัฐใดปล่อยหรือทิ้งวัสดุอุปกรณ์ที่เป็นกัมมันตภาพรังสีลงบนพื้นดิน ทะเล และอากาศ

ส่งเสริมท่องเที่ยว ประเทศสมาชิกอาเซียนจัดการประชุมร่วมกันด้านการท่องเที่ยวเป็นประจำทุกปีในเดือน ม.ค. โดยหมุนเวียนกันจัดในประเทศสมาชิกกันไป นอกจากนั้นยังให้ความร่วมมือส่งเสริมการท่องเที่ยว จัดทำรายการโทรทัศน์ ริเริ่มการทำ Single Visa ให้ใช้เดินทางเข้าได้หลายประเทศเหมือนกับ Schengen Visa ของยุโรป 

ธงอาเซียนมีความหมาย แสดงถึงความมั่นคง สันติภาพ ความเป็นเอกภาพ และ พลวัตของอาเซียน เป็นที่มาของสี 4 สี ที่รวบรวมจากสีของธงประเทศสมาชิกอาเชียนทั้งหมด

  • สีน้ำเงิน คือ สันติภาพ และ เสถียรภาพ
  • สีแดง คือ ความกล้าหาญ และ การมีพลวัต
  • สีขาว คือ ความบริสุทธิ์
  • สีเหลือง คือ ความเจริญรุ่งเรือง

สัญลักษณ์ของอาเซียน คือ รวงข้าวสีเหลือง 10 ต้น เป็นตัวแทนของประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศขณะที่วงกลมที่อยู่รอบรวงข้าว แสดงถึงความเป็นเอกภาพ ความเป็นหนึ่งเดียว และ ความสมานฉันท์ของอาเซียน

คำขวัญอาเซียน "One Vision, One Identity, One Community" ซึ่งแปลได้ว่า หนึ่งวิสัยทัศน์ หนึ่งอัตลักษณ์ หนึ่งประชาคม

ที่มา : กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง