ทส.เฝ้าระวัง 5 จุดเสี่ยง "น้ำมันรั่วชลบุรี" ห่วงปะการังเกาะค้างคาว

Logo Thai PBS
ทส.เฝ้าระวัง 5 จุดเสี่ยง "น้ำมันรั่วชลบุรี" ห่วงปะการังเกาะค้างคาว
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ทส.เฝ้าระวัง 5 จุดเสี่ยงผลกระทบน้ำมันรั่วลงทะเล จ.ชลบุรี ครอบคลุมเกาะสีชัง อ่าวอุดม เกาะลอย หาดบางพระ และหาดวอนนภา นักวิจัยทช.ห่วงปะการังเกาะค้างคาว ซึ่งมีความสมบูรณ์มากสุดได้รับผลกระทบ

วันนี้ (5 ก.ย.2566) น.ส.ลลิตา ปัจฉิม นักวิจัยศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.)  และกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำทะเลตั้งแต่บริเวณเกาะลอย เกาะสีชัง เกาะค้างคาว และเกาะท้ายตาหมื่น เน้นจุดฝั่งตะวันออกของเกาะที่ติดกับชายฝั่ง อ.ศรีราชา ซึ่งเป็นเส้นทางที่คราบน้ำมันพัดผ่าน เพื่อนำตัวอย่างไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาสารเคมีที่อาจจะปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม

ห่วงกระทบปะการังสมบูรณ์เกาะค้างคาว 

น.ส.ลลติกา บอกว่า รอบเกาะค้างคาวเป็นพื้นที่ที่มีความสมบูรณ์ทางปะการังสูงสุดของ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่วิจัยปะการังของโครงการต่างๆ ด้วย เพราะแนวปะการังก่อตัวหนาแน่นประมาณ 77 ไร่ กว่า 70% เป็นปะการังที่ยังมีชีวิตอยู่ จัดว่าอยู่ในสถานภาพสมบูรณ์ดีมาก เช่น ปะการังโขด ปะการังลายดอกไม้ และปะการังเขากวาง จึงนำยานสำรวจใต้น้ำ (ROV) ดำน้ำสำรวจ

ส่วนด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะสีชัง หน้าชายหาด อ.บางพระ เป็นฟาร์มเลี้ยงหอยแมลงภู่กว่า 1,000 ไร่ จึงมีความกังวลว่าสารเคมีที่ทำให้น้ำมันกระ จายตัวไปในน้ำทะเลอาจจะเกิดการปนเปื้อนกับสัตว์ที่หากินบนพื้นทะเลหรือสัตว์ตระกูลหอย

อ่านข่าว ยกระดับ! Tier 2 "น้ำมันรั่วชลบุรี" คาด 3-4 วันจบ

นักวิจัย ทช.บอกว่า เรื่องนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ยืนยันได้ชัดเจนเรื่องผลกระทบของวิธีการขจัดคราบน้ำมันแบบนี้ แต่ก็มีความกังวลเช่นกัน ซึ่งต้องดูในระยะยาว แต่ที่ผ่านมาที่มีการรั่วไหลของน้ำมันในจังหวัดระยอง ยังไม่พบการปนเปื้อนสารเคมีในตัวสัตว์ทะเล

ปลัดทส.รายงาน "พล.ต.อ.พัชรวาท"- เฝ้า 5 จุด

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)  กล่าวว่า ทาง ทส.ลงพื้นที่สำรวจ และสนับสนุนหน่วยงานต่างๆเก็บกู้คราบน้ำมันที่รั่วไหล พร้อมเก็บตัวอย่างน้ำทะเลและตะกอนดินเพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐาน (baseline) มาเปรียบเทียบกรณีเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลของ บริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) และเฝ้าระวังทั้งหมด 5 จุด คือ เกาะสีชัง อ่าวอุดม เกาะลอย (บริเวณสวนสุขภาพศรีราชา) หาดบางพระ และหาดวอนนภา

พบคราบน้ำมันมีลักษณะเป็นฟิล์มน้ำมันบางๆ กระจายตัวกันเป็นกลุ่มบริเวณทางด้านทิศตะวันออกของเกาะสีชัง แต่ไม่พบกลุ่มน้ำมันที่มีลักษณะเป็นกลุ่มก้อนเข้มหนา

อ่านข่าว กางสถิติ ทะเลไทยเผชิญเหตุน้ำมันรั่ว จังหวัดที่พบบ่อยสุด

ทั้งนี้ เบื้องต้นได้รายงานสถานการณ์ให้กับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทส.รับทราบแล้ว ทั้งนี้ คาดการณ์คราบน้ำมันได้เคลื่อนตัวไปใกล้แนวเกาะล้าน แต่ขึ้นอยู่กับกระแสลมทะเลและคลื่นทะเลเป็นปัจจัยประกอบด้วย โดยให้ คพ.ติดตามและตรวจสอบสถานการณ์เป็นระยะ

ส่วนการบริหารจัดการขจัดคราบน้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสียหายต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทาง คพ.อนุญาตให้มีการใช้สารเคมีขจัดคราบน้ำมันชนิด Super Dispersant 25 จำนวน 4,500 ลิตรตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ 

ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสัตว์ทะเลได้จนกว่าจะเก็บกู้คราบน้ำมันแล้วเสร็จก่อน หากเกิดความเสียหายกับสิ่งแวดล้อมจะดำเนินคดีทางกฎหมาย

อ่านข่าว

ด่วน! ทิศทางคราบน้ำมันรั่ว 4.5 หมื่นลิตรจุดแรกเข้า "เกาะท้ายค้างคาว"

"ไทยออยล์" แจงปมน้ำมันดิบรั่วกลางทะเล-เร่งกำจัดคราบน้ำมัน

เที่ยงนี้! คราบน้ำมันรั่วเข้า "หาดบางพระ-อ่าวอุดม" รัศมี 4 กม.

เตือนเฝ้าระวัง "อาการทางเดินหายใจ-อาหารเป็นพิษ" เหตุน้ำมันรั่ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง