ทำความรู้จัก "ไข้เลือดออกอีโบลา" โรคระบาดร้าย อันตรายถึงชีวิต

สังคม
12 ก.ย. 66
06:56
644
Logo Thai PBS
 ทำความรู้จัก "ไข้เลือดออกอีโบลา" โรคระบาดร้าย อันตรายถึงชีวิต
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พาไปทำความรู้จัก "ไข้เลือดออกอีโบลา" โรคระบาดร้าย อันตรายถึงชีวิต พร้อมแนะสังเกตอาการเสี่ยง

วันนี้ (12 ก.ย.2566) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบายเรื่อง โรคไข้เลือดออกอีโบลา เกิดจากการติดเชื้อ "ไวรัสอีโบลา" อยู่ในตระกูล Filoviridae ซึ่งในปัจจุบันไวรัสในกลุ่มอีโบลา แบ่งออกได้เป็น 6 สปีชีส์ ได้แก่

  •  Bombaliebolavirus
  • Bundibugyoebolavirus
  • Reston ebolavirus
  • Sudan ebolavirus
  • Tai Forest ebolavirusและ Zaire ebolavirus

โดยพบว่ามีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง ร้อยละ 50-90 โดยสายพันธุ์ Reston ebolavirus มีรายงานพบในประเทศฟิลิปปินส์ ทำให้เกิดโรครุนแรงในลิง พบการติดต่อสู่คนโดยการสัมผัสโดยตรงกับเลือดหรือเครื่องในของลิงที่ติดเชื้อ

"อีโบลา" จัดเป็นโรคประจำถิ่นในทวีปแอฟริกา มักพบการระบาดในประเทศคองโก ยูกันดา และกลุ่มประเทศแอฟริกาตะวันตก โดยเชื้ออีโบลาจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงของเชื้อกลุ่มที่ 4 ซึ่งเป็นเชื้อที่มีความเสี่ยงสูงต่อบุคคลและชุมชน ก่อโรคร้ายแรงในคนและสัตว์ที่สามารถแพร่ไปยังบุคคลอื่นหรือสัตว์อื่นโดยทางตรงหรือทางอ้อม และเป็นโรคที่ยังไม่มีวิธีการป้องกันหรือรักษาแบบได้ผล

การติดต่อของโรคนี้ สามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คน จากการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง และเนื้อเยื่อจากอวัยวะของผู้ป่วยที่แสดงอาการหรือผู้เสียชีวิต หรือจากการสัมผัสสิ่งของที่มีการปนเปื้อนสารคัดหลั่ง โดยเชื้อจะเข้าสู้ร่างกายผ่านเยื่อบุ เช่น ตา จมูก ปาก และผิวหนัง โดยผู้ติดเชื้อสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่ระยะเริ่มมีไข้ และตลอดระยะที่มีอาการ

สังเกตอาการเสี่ยงของโรคไข้เลือดออกอีโบลา

การติดเชื้อมีระยะฟักตัวตั้งแต่ 2-21 วัน พบได้ในทุกกลุ่มอายุ โดยอาการเบื้องต้น ได้แก่

  • มีไข้สูง
  • รู้สึกอ่อนเพลีย
  • ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ
  • ไอ เจ็บคอ

รายที่มีอาการรุนแรง จะมีผื่นนูนแดงตามตัว และมีอาการเลือดออกทั้งภายในและภายนอกร่างกาย มักพบภายใน 7 วันหลังจากเริ่มแสดงอาการ จะพบอาการที่ระบบประสาทส่วนกลาง และภาวะอวัยวะภายในล้มเหลว ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตสูงประมาณ 50 - 80%

ทั้งนี้ หากสงสัยว่าเข้าข่ายติดเชื้อ สามารถส่งตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ได้ดังนี้ เมื่อพบผู้ป่วยสงสัยติดเชื้ออีโบลา ให้สถานพยาบาลแจ้งกับกองระบาดวิทยา หรือ สำนักงาน ป้องกันและควบคุมโรค หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อดำเนินการสอบสวนโรคและวางแผนการเก็บตัวอย่าง

สามารถเก็บสิ่งส่งตรวจได้หลังจากมีอาการ 3-10 วัน การเก็บตัวอย่างและการนำส่งตัวอย่างต้องปฏิบัติตามหลักความปลอดภัยทางชีวภาพ และขนส่งแบบแช่เย็น (Ice pack) โดยการประสานกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในการรับตัวอย่างส่งตรวจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง