แจกแท็บเล็ต Come Back ได้ไม่คุ้มเสีย-ของเก่าพัง

สังคม
15 ก.ย. 66
12:54
1,256
Logo Thai PBS
แจกแท็บเล็ต Come Back ได้ไม่คุ้มเสีย-ของเก่าพัง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เสียงสะท้อนครู โครงการแจกแท็บเล็ต 1 เครื่อง 1 นักเรียนที่กำลังจะกลับมาในยุครัฐบาลเศรษฐา 1 อาจไม่คุ้มทุน แนะให้จ้างครูสอนให้เหมาะสมกับจำนวนนักเรียน หลังเครื่องยุค "ยิ่งลักษณ์" พังอยู่ในห้องเก็บของ

นี่เป็นบางส่วนของแท็บเเล็ต จากโครงการ 1 คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตต่อ 1 นัก เรียนในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ยังคงเก็บรักษาไว้ในห้องเก็บของโรงเรียนบ้านสระงาม อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ โดยทุกเครื่องไม่สามารถใช้การได้แล้ว

น.ส.อรวรรณ ขุนศรีรอด ครูชำนาญการ รร.บ้านสระงาม อ.เมืองนครสวรรค์ มองว่า อาจจะไม่คุ้มทุน เนื่องจากปัจจุบันคุณครูก็มีเครื่องมือสื่อสารหลายอย่างด้วยกัน เช่น โทรศัพท์มือถือ โน๊ตบุ๊ก iPad ก็สามารถนำมาใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนได้

ถ้าพูดถึงความคุ้มทุนคุ้มค่าหรือไม่ ส่วนตัวมองว่าไม่คุ้มค่า อยากให้ใช้งบประมาณจัดสรรจ้างครูมาให้ครบชั้นสำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก เครื่องเก่าที่แจก ตอนนี้ยังอยู่ใช้งานไม่ได้ และหากเครื่องมีปัญหาคงไม่มีงบซ่อมแซม

ทั้งนี้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ จะมอบแท็บแล็ตให้ครูและนักเรียนก็อาจจะเป็นการเพิ่มภาระในการดูแลรักษา ในขณะเดียวกันก็อาจมีการใช้แท็บแล็ต ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ส่งผลเสียต่อการเรียน

ส่วนนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองโจดสวนมอน ต้องมาเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนโคกก่อพิทยาคม อ.เมืองมหาสารคาม ซึ่งเป็นโรงเรียนในสังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม เนื่องจากโรงเรียนโคกหินลาด เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก และไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์เพียงพอ

แท็บเล็ต บางส่วนที่ใช้งานไม่ได้ โรงเรียนเก็บในห้องเก็บของ

"แท็บเล็ต" บางส่วนที่ใช้งานไม่ได้ โรงเรียนเก็บในห้องเก็บของ

"แท็บเล็ต" บางส่วนที่ใช้งานไม่ได้ โรงเรียนเก็บในห้องเก็บของ

นางกัญยา นันตะนะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนโคกก่อพิทยาคม กล่าวว่า  เห็นด้วยกับที่รัฐบาล จะแจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียนคนละเครื่อง เพราะอยากให้เด็กๆ ได้เข้าข้อมูลและอยู่ที่ไหนก็เรียนรู้ได้

แต่การแจกแท็บเล็ตจะต้องมีการบล็อกโปรแกรม เช่น เว็บพนันออนไลน์ หรือเกม และไม่อยากนักเรียนเอากลับบ้าน เพราะอาจจะทำให้เด็กนำแท็บเล็ตไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง 

ลดภาระได้ แต่รัฐบาลต้องซื้อให้ และมีอินเตอร์เน็ตมาให้พร้อม รวมทั้งอยากให้ล็อกโปรแกรมที่ไม่ดีกับเด็ก เช่นการพนนันออนไลน์ เกม ให้ใช้เฉพาะการเรียนการสอน  

ถ้าย้อนไปในปี 2555 ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยมีการแจกแท็บเล็ตให้นักเรียนชั้น ป.1 ใช้งบกว่า 2,000 กว่าล้านบาท ต้องเผชิญปัญหาการจัดซื้อที่ล่าช้า และปีงบประมาณ 2557 ตั้งงบไว้อีก 5,800 ล้านบาท แต่สุดท้ายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งให้ยุติโครงการไปอย่างถาวร เพราะมองว่าไม่คุ้มค่าและประสบปัญหาในหลายเรื่อง

เตือนรัฐรอบคอบแจกแท็บเล็ต ดูบทเรียนจากยุค "รัฐบาลยิ่งลักษณ์"

ศ.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวถึงโครงการแจกแท็บเล็ต 1 เครื่อง 1 นักเรียน โดยมองว่า แท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์สำคัญอย่างหนึ่งที่สามารถลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้ แต่ต้องมีระบบ วิธีคิด บริหารจัดการ เพราะแท็บเล็ตเป็นแค่อุปกรณ์ชิ้นหนึ่ง ทางกระทรวงศึกษาธิการต้องดำเนินการเตรียมการก่อนคือวางโครงสร้างกับระบบดิจิทัลแพลตฟอร์มทั้งประเทศ รวมทั้งฟรีไวไฟ ถ้าทำให้มีคุณภาพและตอบโจทย์เรื่องการศึกษาจะลดความเหลื่อมล้ำได้

จากการสำรวจใน 29 จังหวัด เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ค้นพบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับการศึกษา เพราะมีความเหลื่อมล้ำ การเรียนออนไลน์ ออนไซต์ 29 จังหวัด ไม่มีคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต กว่า 270,000 ครอบครัว ฉะนั้นเด็กบางคนไม่ได้เรียน ทำให้สูญเสียเวลา ไป 2-3 ปี

ทั้งนี้จากงานวิจัย และประสบการณ์คราวที่แล้ว ไปแจกเด็ก ป.1 นำไปใช้เกิดประโยชน์ไม่คุ้มค่า จึงมีความจำเป็นที่ต้องศึกษาจุดแข็ง จุดอ่อน เพราะคราวที่แล้วถือเป็นบทเรียนสำคัญ

ศ.สมพงษ์ ยังกล่าวว่า เด็กใช้แท็บเล็ตเพื่อการเรียนรู้แค่กว่า 20% การดูแลป้องกันเรื่องเล่นเกม สิ่งที่เหมาะสมถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ซึ่งการแจกเพื่อใช้ในเวลาเรียน และบางวิชาเท่านั้น ไม่ควรให้เด็กนำกลับบ้าน
รวมถึงต้องคัดกรองถึงความจำเป็นของเด็กแต่ละคน และเหตุผลด้านงบประมาณ

สำหรับความพร้อมของครู ส่วนใหญ่มีพร้อมระดับหนึ่ง สามารถดำเนินโครงการต่อได้ทันที สามารถจัดการบริหารจัดการได้

รัฐบาลต้องคิดให้รอบคอบ เพราะแจกคราวที่แล้วไม่คุ้มค่า ถูกเลิกใช้ และกลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์จนถึงปัจจุบัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

รมว.ศธ.แนะครูยึดพอเพียงแก้หนี้ นั่งรถรวมกัน-ไปงานไม่มีเงินใส่ซองก็ช่วยล้างจาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง