"บิ๊กก้อง" ชี้สังหาร "สารวัตรแบงค์" พบ ผกก.พญาไท ไม่ได้ช่วยจังหวะแรก

อาชญากรรม
18 ก.ย. 66
17:53
29,481
Logo Thai PBS
"บิ๊กก้อง" ชี้สังหาร "สารวัตรแบงค์" พบ ผกก.พญาไท ไม่ได้ช่วยจังหวะแรก
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ชี้คืนเกิดเหตุยิง "สารวัตรแบงค์" เสียชีวิต เบื้องต้นพบ ผกก.พญาไท ไม่ได้ช่วยจังหวะแรก แต่ไปโผล่ที่ รพ. จ่อหารือพฤติกรรมตำรวจ ม.157

จากกรณีกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รับสำนวนการสอบสวนคดี "กำนันนก" จากตำรวจภูธรภาค 7 มาสอบสวนต่อตามคำสั่งของ ผบ.ตร. โดยให้หน่วยงานในสังกัดตรวจสอบทุกด้าน ทั้งเส้นทางการเงิน ความผิดทางออนไลน์ และตรวจสอบข้าราชการที่อาจเกี่ยวข้องในการกระทำผิด

วันนี้ (18 ก.ย.2566) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) แถลงข่าวถึงสาเหตุของการโอนคดีมาที่ บช.ก. ว่า คดีดังกล่าวเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพล เป็นเหตุอุกอาจ อีกทั้งคดีซับซ้อนจึงเป็นหน้างานของกองบังคับการปราบปราม ได้ทำคดีเพื่อความโปร่งใส ชัดเจน และตรงไปตรงมา ยืนยันเป็นเรื่องปกติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ร่วมทำงานกับตำรวจภูธรภาค 7 มาโดยตลอด การทำงานไปในแนวทางเดียวกัน และทำต่อตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

ส่วนประเด็นความผิดตามมาตรา 157 หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ นั้น พล.ต.ท.จิรภพ ระบุว่า ได้ดำเนินคดีกับตำรวจชุดแรก 6 นาย ที่มีพฤติการณ์ช่วยเหลือ ซ่อนเร้นอำพรางพยานหลักฐานให้ผู้ต้องหาพ้นจากการกระทำความผิด ส่วนตำรวจที่เหลือจะพิจารณาต่อไป เบื้องต้นได้ข้อยุติว่าจะพิจารณา 2 ประเด็นใหญ่ คือ ข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในวันเกิดเหตุ ทั้งก่อน ขณะ และหลังเกิดเหตุ

ประเด็นที่ 2 คือ ข้อกฎหมาย อาจต้องหารือกับทั้งอัยการ ศาล และนักวิชาการ ว่าพฤติกรรมเพียงใดถึงเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 157 เช่น บางคนช่วยเหลือผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาล บางคนโทร.191 บางคนไม่ทำอะไรเลยและออกจากที่เกิดเหตุ จึงขอเวลาหารือในประเด็นนี้ เพราะเรื่องค่อนข้างละเอียดอ่อน และมีแนวทางได้หลายแนวทาง

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จะมีการออกหมายจับตำรวจเพิ่มเติมหรือไม่ ผบช.ก. กล่าวว่า เมื่อข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายยุติ จะพิจารณาว่ามีใครกระทำความผิดบ้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา

ผบช.ก. กล่าวว่า ทางสอบสวนกลางรับคดีความผิดตามมาตรา 157 ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดได้ดูแล้ว โดยจะถอดรายละเอียด ซึ่งการสรุปว่าใครผิดหรือไม่ผิด ขอดูข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายก่อน ซึ่งจะเร่งให้เร็วที่สุด

ส่วนกรณี ร.ต.อ.จตุรวิทย์ นั้น ผบช.ก. กล่าวว่า เรื่องช่วยคนเจ็บก็ส่วนช่วย แต่ถ้าไปช่วยกำนันนกก็มีความผิดทันที เมื่อใดมีความผิดถูกดำเนินคดีแน่นอนทุกคน

ผู้สื่อข่าวถามว่าประเด็น ร.ต.อ.จตุรวิทย์ เป็นการปิดจุดกลับรถให้กำนันนก หรือกลับบ้านทางเดียวกัน พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5 บก.ป. กล่าวว่า เบื้องต้นการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ร.ต.อ.จตุรวิทย์ได้ตามกำนันนกไปที่บ้าน ซึ่งต้องตรวจสอบให้ละเอียดว่าในระหว่างนั้นได้แวะ หรือโทรศัพท์ติดต่อใครอีกหรือไม่

ส่วนตำรวจที่ไปร่วมงานในวันเกิดเหตุ 6 ก.ย. ผบช.ก.เชื่อว่าไปแบบส่วนตัวเพื่อร่วมงานเลี้ยง ซึ่งเมื่อพบการกระทำความผิดซึ่งหน้า ตำรวจต้องดำเนินการทั้งช่วยคนเจ็บ จับผู้ก่อเหตุ เรียกกำลังเสริม และรักษาที่เกิดเหตุ แต่ส่วนตัวไม่อยากให้ด่วนสรุป เพื่อให้ทำงานอย่างถูกต้องแม่นยำ

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณี ผกก.ในเขตนครบาล สรุปว่าได้มีการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหรือไม่ ผบช.ก.กล่าวว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบว่า จังหวะแรกไม่ได้มีการช่วย จังหวะสองมีไปโผล่ที่โรงพยาบาล แต่การจะตัดสินว่าเข้าข่ายความผิด ม.157 หรือไม่ ขอดูรายละเอียดอีกหน่อย

กรณีที่ตำรวจเห็นหน้าผู้ยิงชัดเจน แต่คิดว่าเป็นการยิงปืนขึ้นฟ้าเท่ากับสนับสนุนผู้กระทำความผิดหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบ.ทล.) กล่าวว่า ในการประชุมเรื่องการแจ้งข้อหาละเว้น ตามมาตรา 157 นั้นจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งตำรวจและประชาชนในงาน ตรงนี้เน้นข้อเท็จจริงว่าขณะนั้นเกิดอะไรขึ้น รวมถึงพยานหลักฐาน

ข้อเท็จจริงในเวลาที่เกิดเหตุยิงกัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดึงปืนออกจากหน่อง และควบคุมไว้ ซึ่งตรงนั้นจะตัดว่าเจ้าหน้าที่บางส่วนตรงนั้นได้กระทำการหรือไม่ กระทำอะไรในคืนเกิดเหตุ เป็นรายละเอียดปลีกย่อย

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า จะไล่เลียงตำรวจทีละนายว่าทำอะไรตอนไหน ตามไทม์ไลน์ที่มีทั้งตำรวจอยู่ และวิ่งหนี ทำอะไรกันบ้าง ข้อเท็จจริงจะเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และชี้ชัดว่าจะดำเนินคดีกับใครบ้าง และทาง ผบ.ตร.เร่งตรงนี้

ต้องดูข้อเท็จจริง ทำอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เป็นการให้ร้ายคนอื่น ต้องแยกคนผิดกับคนไม่ผิดไว้ เช่น พ่อแม่ของกำนัน ไม่มีส่วนผิดอะไร และตำรวจบางส่วนเมื่อเสียงปืนดังขึ้น สติสัมปชัญญะไม่เท่ากัน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า คำว่า 157 ถ้าการสอบสวนปรากฏว่าผู้กำกับคนหนึ่งบอกว่ามีคนถูกยิง และกรณี พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือผู้กำกับเบิ้ม ก็อยากวิงวอนว่าคนที่เสียชีวิตแล้วไม่สามารถมาแก้ว่าตัวเองผิดหรือไม่ผิด และได้เห็นกล้องวงจรปิด เชื่อว่าผู้กำกับเบิ้มไม่ได้หนีไปไหน ช่วงที่เกิดเหตุเข้าประคองที่เท้าสารวัตรแบงค์และสั่งการ จากนั้นและมีลูกน้องเข้ามาสวมแทน และพาไป 3 คน

ในหลักฐานเขาพาไปสารวัตรไปที่โรงพยาบาล ไม่ได้แก้ตัวแทนคนตาย แต่ถ้าเขาทำหน้าที่สมบูรณ์ และรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น ขอให้ความเป็นธรรม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

บช.ก.รับโอนคดี "กำนันนก" สั่งสอบทุกมิติ 

กำนันนก ส่งผล “สะเทือนโผ” ชิง ผบ.ตร.

จับกระแส วันที่ 18 ก.ย.2566 เหตุการณ์ “ยิงสารวัตรทางหลวง” จะไปถึงไหน?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง