"จุลพันธ์" ยันแจกเงินดิจิทัลใช้บล็อกเชน-จ่อขยายรัศมีใช้เงินเกิน 4 กม.

เศรษฐกิจ
3 ต.ค. 66
13:57
5,192
Logo Thai PBS
"จุลพันธ์" ยันแจกเงินดิจิทัลใช้บล็อกเชน-จ่อขยายรัศมีใช้เงินเกิน 4 กม.
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
รมช.คลังเผย ครม.เคาะแต่งตั้งคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต นายกฯ เตรียมเรียกถกนัดแรกสัปดาห์นี้ ยืนยันใช้กลไกบล็อกเชนและจ่อขยายพื้นที่ใช้เงินจากรัศมี 4 กม.

วันนี้ (3 ต.ค.2566) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึงนโยบายการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่า กระทรวงคลังได้เสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต ว่า คณะกรรมการชุดนี้มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมีรองประธาน 4 คน คือ รมว.พาณิชย์, รมว.ต่างประเทศ, รมว.มหาดไทย และ รมว.ดีอีเอส นอกจากนี้ยังมี รมช.คลัง อีก 2 คนเป็นคณะกรรมการ รวมถึงหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องและสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย

องค์ประกอบค่อนข้างครอบคลุมกลไกที่มีความจำเป็นจะต้องใช้ในโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต

คณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ พิจารณาแนวนโยบาย กรอบวงเงินและแหล่งที่มาของงบประมาณ กลไกการดำเนินการ ติดตามตรวจสอบการดำเนินโครงการ รวมถึงสรุปผลว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ ซึ่งนายกฯ ได้นัดหมายประชุมนัดแรกภายในสัปดาห์นี้ โดยจะมีการมอบนโยบายและตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อรวบรวมรายละเอียดต่างๆ นำเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯ ไม่เกิน 2-3 สัปดาห์นี้

รมช.คลัง ยังกล่าวถึงกรอบข้อกฎหมายและ พ.ร.บ.เงินตราที่มีการตั้งประเด็นคำถามในสังคมนั้น ยืนยันว่ามีการพูดคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในเบื้องต้นแล้วและไม่ติดขัดในประเด็นปัญหานี้ ซึ่งขณะนี้มีกลไกที่จะทำและรองรับโดยไม่ขัดต่อกฎหมายใดๆ ส่วนกลไกบล็อกเชน ยืนยันว่าเบื้องหลังเทคโนโลยีที่ใช้คือบล็อกเชนอย่างแน่นอน เพราะมีความปลอดภัยและสามารถตรวจสอบได้

เมื่อถามว่า รัฐบาลมีความมั่นใจหรือไม่ว่านโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทจะไม่ก่อปัญหาปัญหาวินัยทางการเงินการคลัง โดย รมช.คลัง ยืนยันว่า รัฐบาลยึดมั่นในกรองวินัยทางการเงินการคลัง ส่วนกลไกที่จะใช้มีทางเลือกสำหรับรัฐบาล ซึ่งมีกลไกที่สามารถเลือกได้ อาจจะออกมาในรูปแบบใด หรืออาจจะออกมาในรูปแบบไฮบริด ซึ่งสุดท้ายคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายจะนำเสนอทางเลือกต่างๆ ต่อคณะกรรมการที่ตั้งขึ้น เพื่อให้ตัดสินเลือกออฟชันสำหรับการขับเคลื่อนนโยบายนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ที่สุด

ส่วนประเด็นที่มีการกำหนดให้ใช้เงินในรัศมี 4 กิโลเมตรนั้น ได้รับฟังเสียงสะท้อนของประชาชนที่อยากให้ขยายกรอบพื้นที่การใช้เงิน เนื่องจากพื้นที่ 4 กม.ในบางหมู่บ้านที่ต่างจังหวัดก็แทบจะหาอะไรไม่ได้ เพราะฉะนั้นการขยายกรอบพื้นที่จึงมีความเป็นไปได้สูง แต่อย่างไรก็ตามขอให้รอการพิจารณาจากคณะกรรมการฯ อีกครั้ง

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังถามถึงเงือนไขหนึ่งของมาตรการนี้ที่สามารถใช้เงินได้ในธุรกิจใหญ่ๆ จะเป็นการยืมเงินประชาชนไปให้ผู้ประกอบการรายใหญ่และผู้ประกอบการรายเล็กอาจไม่ได้ประโยชน์ หรือไม่

รมช.คลัง ยืนยันว่า สิ่งที่ทำไม่มีการกันใครออกจากระบบ สามารถดำเนินการได้ทั้งผู้ค้ารายเล็กรายใหญ่ ไม่ว่าจะอยู่ในระบบฐานภาษีหรือไม่ ซึ่งหากอยู่ในฐานภาษีก็สามารถขึ้นเงินได้ แต่หากไม่ได้อยู่ในฐานภาษีก็รับเงินมาแล้วใช่ต่อ

ไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องไปใช้เงินที่รายใหญ่หรือรายเล็ก แต่มันจะเกิดขึ้นตามความต้องการซื้อที่แท้จริงของประชาชน

ขณะเดียวกันจะต้องมีกลไกเพื่อจูงใจให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในระดับชุมชน โดยมีกรอบระยะเวลาโครงการและระยะเวลาใช้เงินดิจิทัล ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินมาตรการได้ภายในวันที่ 1 ก.พ.2567

อ่านข่าวอื่นๆ

ผู้บริโภคเฮ! ลดราคาสินค้า 3 กลุ่มสูงสุด 87% กว่า 1.5 แสนรายการ

เปิด 35 คกก.ศึกษาแนวทางทำประชามติ แก้ รธน. "ภูมิธรรม" ประธาน

คลัง สั่งตั้งคณะกรรมการสอบปมลอบตัด "ไม้พะยูง" ในที่ราชพัสดุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง