รถโดยสาร​-รถตู้​ เรียกร้องลดราคา NGV เหลือ 12.74 บาท/กก.

เศรษฐกิจ
2 พ.ย. 66
10:32
485
Logo Thai PBS
รถโดยสาร​-รถตู้​ เรียกร้องลดราคา NGV เหลือ 12.74 บาท/กก.
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กลุ่มรถโดยสารร่วมบริการสาธารณะ เดินทางมากระทรวงพลังงาน ยื่นหนังสือถึง "พีระพันธุ์" เรียกร้องลดราคาก๊าซเอ็นจีวี เหลือกิโลกรัมละ​ 12.74 บาท หลังขาดสภาพคล่องอย่างหนัก-ผู้โดยสารลดลง แต่เผชิญราคาก๊าซสูงขึ้น

วันนี้ (2 พ.ย.2566) กลุ่มรถโดยสารร่วมบริการสาธารณะ​ทั้งรถตู้​ รถมินิบัส รถเมล์ รถโดยสาร และรถสองแถว​ กว่า 500 คัน เดินทางมายังกระทรวงพลังงาน​ เพื่อยื่นหนังสือถึงนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เรื่องความเดือดร้อนราคาค่าเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ในกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ โดยมี​ น.ส.อรพินทร์ เพชรทัต ที่ปรึกษา รมว.พลังงาน ​เป็นผู้แทนรับหนังสือ​ พร้อมหารือกับกลุ่มผู้ประกอบการ​ถึงความเดือดร้อน

นายปัญญา เลิศหงิม นายกสมาคมรถตู้โดยสารสาธารณะ กรุงเทพฯ ปริมณฑล เปิดเผยว่า​ สภาพคล่องของกลุ่มผู้ประกอบการรถยนต์โดยสารสาธารณะยังไม่ฟื้นตัว​ตั้งแต่ได้รับผลกระทบจากปัญหา COVID-19 โดยจำนวนผู้โดยสารลดลงมาก​ ส่วนหนึ่งมาจากกำลังซื้อและการพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้า​ ทำให้ผู้โดยสารลดการใช้รถโดยสารธารณะลดลง​

นอกจากนี้ ยังเผชิญกับต้นทุนราคาก๊าซเอ็นจีวี เนื่องจากราคาปรับเพิ่มขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 19.59 บาท เมื่อช่วงกลางเดือน ก.ย.2566 ยิ่งซ้ำเติมกลุ่มผู้ประกอบการอย่างหนัก​ ทำให้บางรายต้องหยุดเดินรถ​ ส่งผลให้จำนวนตู้โดยสารสาธารณะหายไปจากระบบเกือบ​ 1, 000 คัน​ จาก​กว่า​ 2,000 คัน

นายปัญญา กล่าวว่า ต้องการเรียกร้องให้กระทรวงพลังงานช่วยเหลือด้วยการ​ลดราคาขายก๊าซเอ็นจีวี ให้เหลือกิโลกรัมละ​ 12.74 บาท และขยายเวลาการใช้บัตรส่วนลดเพิ่มเติมอีก 2 ปี รวมทั้งยกเลิกกำหนดปริมาณการเติมก๊าซเอ็นจีวี ที่ไม่สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน และขอให้มีบัตรส่วนลดค่าเชื้อเพลิงที่ใช้น้ำมันดีเซลของกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ ภายหลังการหารือกับกระทรวงพลังงาน จะให้กรอบระยะเวลาของคำตอบกับผู้ประกอบการ​ ก่อนที่ภาครัฐจะปรับราคาก๊าซเอ็นจีวีอีกครั้ง

ทั้งนี้​ แนวทางเดิมของคณะกรรมบริหารนโยบายพลังงาน จะเพิ่มราคาก๊าซเอ็นจีวีขึ้นอีกกิโลกรัมละ 1 บาท ​ในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ รวมขึ้นราคากิโลกรัมละ 2 บาท ทำให้ราคาขายอยู่ที่ 20.59 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง