"ศิริกัญญา" โต้นายกฯปัดประเทศวิกฤต ย้ำกู้เงินแจกดิจิทัลวอลเล็ตขัดกฎหมาย

การเมือง
13 พ.ย. 66
13:09
3,087
Logo Thai PBS
"ศิริกัญญา" โต้นายกฯปัดประเทศวิกฤต ย้ำกู้เงินแจกดิจิทัลวอลเล็ตขัดกฎหมาย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"ศิริกัญญา" ซัดรัฐอ้างวิกฤตเศรษฐกิจ จำเป็นต้อง ออก พ.ร.บ.เงินกู้ แจกดิจิทัลวอลเล็ต พร้อมย้ำขัดกฎหมาย เชื่อธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่สนับสนุน มอง "เศรษฐา" ไม่ได้หวังเอาชนะแค่รักษาคำพูด

วันนี้ (13 พ.ย.2566) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ระบุว่า น.ส.ศิริกัญญา เคยเห็นด้วยกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่าวันนี้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตถูกเบี่ยงเบนรายละเอียดมาไกลมาก จากที่ใช้เงินในงบประมาณกลายมาเป็นการออก พ.ร.บ.กู้เงิน จากที่เคยให้ถ้วนหน้า ก็มีการจำกัดคนที่มีรายได้สูง

ซึ่งจะบอกว่าเห็นด้วยเป็นการตีความที่เกินเลย ซึ่งยอมรับว่าเคยพูดคุยกันจริงในฐานะที่เป็นพรรคที่จะร่วมรัฐบาลกันว่าโครงการไหนที่อยากจะทำก็หยิบมาวางไว้บนโต๊ะ และได้พูดคุยกัน ว่า ดิจิทัลวอลเล็ต จะทำหรือไม่ ถ้าจะทำ ก็ทำได้ แต่เงินไม่พอ ซึ่งวันนั้นก็กางตัวเลขงบประมาณให้ดูกันชัดๆ ว่าเหลือเท่าไหร่ แบ่งกันแล้วเหลือให้แต่ละพรรคทำโครงการพรรคละ 4-5 แสนล้านบาท

ดังนั้นจะทำทั้งก้อนจึงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งก็คุยตรงไปตรงมา จึงขอร้องว่าอย่าบิดประเด็น อย่าเบี่ยงประเด็นไปไกลกว่านี้ คำถามสั้นๆ และตรงไปตรงมาคือ เมื่อการออก พ.ร.บ.เงินกู้ 500,000 ล้านบาท ในครั้งนี้มีท่าว่าจะผิดกฎหมายของมาตรา 53 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ทางเพื่อไทยและรัฐบาลทำไมถึงคิดจะเดินหน้าทำต่อ มีเหตุผลอะไรซึ่งทุกวันนี้ยังไม่ได้รับเหตุผลใดๆ กลับคืนมา เป็นแค่การขุดอดีตเพื่อสร้างความชอบธรรมบางอย่าง ว่าตนเคยเห็นด้วย ซึ่งอยากให้ไล่เรียงมา ก็ไม่เคยซักค้าน เพียงแต่ถามถึงแหล่งที่มาเท่านั้นเองดังนั้นขอให้รัฐบาลช่วยตอบให้ตรงประเด็น

น.ส.ศิริกัญญา ยังตั้งข้อสังเกตว่า จะไม่ผิดกฎหมายได้อย่างไร ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาชุดใหญ่บอกหรือไม่ ว่าไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องง่ายๆ หากเปิดเผยรายงานการประชุมในชั้นอนุกรรมการและกรรมการชุดใหญ่มาว่าถูกต้องตามกฎหมายอย่างไรก็จบสิ้นแล้ว

ตนก็กลายเป็นคนหน้าแตกไปแล้ว แต่จนขนาดนี้ยังไม่มีคำตอบใดๆ และวันนี้อ้างผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้เสนอให้ออกเงินกู้ด้วยก็ต้องดูรายงานของคณะกรรมการชุดใหญ่และต้องดูมติด้วยว่าลงคะแนนเสียงกันอย่างไรถึงให้ออก พ.ร.บ.เงินกู้ ซึ่งเชื่อมั่นว่าธนาคารแห่งประเทศไทยไม่น่าจะเสนอแนวนี้เพราะทุกครั้งที่ผ่านมาก็ออกมาคัดค้านโดยตลอด
ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล

ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล

ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่าการจะออก พ.ร.บ.กู้เงินได้ ต้องถูกตรวจสอบว่าถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งกฎหมายเกี่ยวกับหนี้สาธารณะมีอีกหลายฉบับที่ต้องพิจารณาด้วย ดังนั้นเราคาดหวังว่าวันที่รัฐบาลประกาศแถลงต่อประชาชนว่าจะออกร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 500,000 ล้าน ได้ปรึกษาคณะกรรมการกฤษฎีกามาเรียบร้อยแล้วและทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าจะใช้วิธีการนี้โดยที่ไม่ผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่

ถ้าไม่ผิดกฎหมายก็ไม่ได้มีช่องให้นักร้องไปร้องอะไรได้ และไม่มีโอกาสถูกตีตกในภายหลัง แต่ถ้าไม่ผ่านกระบวนการนั้นเลย แล้วอยู่ดีๆ ก็พูดออกมาว่าไม่แน่ใจว่ามีมติในที่ประชุมคณะกรรมการใหญ่ด้วยหรือไม่ เพราะไม่มีการเปิดเผยและพูดออกมาแบบนี้เหมือนเดิมคือ พูดแล้วก็ต้องมากลับคำพูดอีกรอบ ก็คิดว่าเสียความเชื่อมั่นของประชาชน จากเดิมประชาชนที่เฝ้ารอการช่วยเหลือ วันหลังก็จะไม่เชื่อแล้ว

ส่วนหากกฎหมายนี้ผ่านสภาไปได้ พรรคก้าวไกลจะทำอย่างไรนั้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่าในส่วนของก้าวไกลก็คงต้องยอมรับความจริง ถ้าสุดท้ายร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านสภาฯ ไปได้ทั้ง 3 วาระและได้ดำเนินโครงการนี้จริงขั้นตอนต่อไปก็เป็นปัญหาในเรื่องของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 การใช้คืนหนี้สูงมาก เงินต้นเดิมเงินต้นใหม่เท่ากับภาษีที่รัฐบาลเก็บมาได้ 20% ก็จะกลายมาเป็นเงินต้องใช้หนี้ทำให้งบของปี 2568 ก็คงจะจัดอย่างยากลำบาก เพราะรายได้ใหม่จากภาษีที่ได้จากงบปี 2567 และ 2568 ที่ต่อเนื่องกัน ซึ่งในงบประมาณปี 2568 ก็เห็นว่าจะต้องเสียเงิน ปีแรกแสนกว่าล้านบาทบวกดอกเบี้ยอีกหมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งทำให้การใช้เงินสูงมาก

ส่วนกรณีที่รัฐบาลให้เหตุผลว่า มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศนั้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า
ตาม พ.ร.บ.วินัยทางการคลังสามารถทำได้เพื่อแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วนและแก้วิกฤตของประเทศ ซึ่งต้องตีความเพราะที่ผ่านมายังไม่เคยถกเถียงกันว่าความจำเป็นเร่งด่วนเป็นอย่างไร และที่ผ่านมาเห็นว่านายกรัฐมนตรีแถลงจีดีพี ย้อนหลัง 10 ปี ซึ่งต้องแก้ไขปัญหาระยะยาว ไม่สามารถแก้ในระยะสั้นได้ ก็ต้องฟังว่ารัฐบาลมีภาระเร่งด่วนอย่างไร แต่ทุกวันนี้ยังไม่มีเสียง ตอบรับใดๆ

ทั้งนี้การออก พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทหากเทียบกับ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ศาลรัฐธรรมนูญตีตกนั้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ถ้าไม่ผิดกฎหมายแต่การกู้เงินในระดับนี้ มีปัญหาแน่ๆ แม้ว่าหนี้สาธารณะ ต่อ จีดีพียังไม่ถึงขั้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาลชุดที่แล้วเคยขยายเพดานไว้ แต่ที่จะไม่รอดแน่ๆ คือภาระดอกเบี้ยต่องบประมาณ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ แม้จะไม่อยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังต้องคงไว้ ไม่เกิน 10% เพราะสถาบันจัดอันดับเครดิตเรตติ้ง ที่จะจัดอันดับ เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะต้องชี้แจง และย้ำว่างบประมาณ ปีแรกจะต้องจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยซึ่งเกิน 10% ของงบประมาณแผ่นดินและถ้าสุดท้าย พ.ร.บ. นี้ ผ่านสภาและบังคับใช้ได้จริงและดิจิทัลวอลเล็ตเกิดขึ้นจริง

น.ส.ศิริกัญญา บอกอีกว่า ที่รัฐบาลพยายามบอกว่าประเทศกำลังมีวิกฤตนั้นเห็นว่า เป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นในระยะยาว เป็นปัญหาเรื้อรัง ซึ่งไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในการแก้ไขปัญหาด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นได้เลย กรณีนี้ไม่ใช่การช็อกขึ้นมา ในเศรษฐกิจในระยะสั้นอย่างเช่นโควิด แต่นโยบายนี้ถูกคิดขึ้นมาตั้งแต่ มี.ค.-เม.ย.ปีนี้จะถูกนำไปใช้จริงปีหน้า สรุปแล้ววิกฤตเกิดขึ้นตอนไหนกันแน่แล้วเร่งด่วนถึงขั้นที่เรากว่าจะได้อีก 1 ปีเร่งด่วนหรือไม่ ดังนั้นการเลือกใช้โดยการออกร่างพ.ร.บ.ยิ่งต้องใช้เวลาในสภา จึงถามว่าความจำเป็นเร่งด่วนอยู่ตรงไหน และขออย่าปล่อยให้รัฐบาลบิดเบือน

ส่วนที่มองว่าจีดีพี ไม่โตตามเป้านั้น น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ก็ต้องดูว่าจีดีพีโตได้ตามศักยภาพที่ไปได้หรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่า แม้จีดีพีเราโตช้าแต่เราไม่สามารถกระตุ้นได้ด้วยการ กระตุ้นเศรษฐกิจใน ระยะสั้นเลยควรต้องระบุ ในทางพื้นที่หรือไม่ว่าพื้นที่ไหนควรจะต้องใช้วิธีการกระตุ้นเป็นกรณีพิเศษ อย่างฮ่องกงปี 2565 เศรษฐกิจของฮ่องกงปี 65 ยังโตติดลบอยู่จึงต้องมีการแจกเงิน ซึ่งก็เหมือนของเราตอนโควิดและแจกเงินเยียวยาประชาชน แต่วันนี้เศรษฐกิจโตขึ้น ยังไม่ใช่เวลาของการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแน่นอน 

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรี ต้องการเอาชนะหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่าไม่ใช่เรื่องของการเอาชนะ แต่น่าจะเป็นการรักษาคำพูดซึ่งน่าจะเป็นจุดอ่อนจุดหนึ่งเหมือนกัน หลังจากที่ไม่ได้รักษาคำพูดมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนร่วมรัฐบาล และตั้งรัฐบาลมา จึงจำเป็นต้องฟื้นความเชื่อมั่นว่าต้องทำตามที่พูดที่ได้หาเสียงไว้ได้ ซึ่งเป็นบททดสอบที่สำคัญก็อาจจะแพ้ไม่ได้เช่นเดียวกัน จึงเป็นปัญหาหนักใจ

ตอนคิดโครงการ คิดมาไม่ถี่ถ้วน โดยตอนคิดยังบอกว่าใช้เงินจากงบประมาณ ซึ่งเห็นว่าไม่มีทางเป็นไปได้ และพอหลังพิงฝาแล้วไม่มีทางออก ตนจึงคิดเป็นอื่นไม่ได้ว่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหาทางลง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

"ศรีสุวรรณ" ร้องสอบรัฐบาล "เลี่ยงบาลี-หาเสียง" กู้เงินแจก ขัด รธน.

นายกฯ เชื่อ 320 เสียงพรรคร่วมหนุน พ.ร.บ.เงินกู้แจกดิจิทัลวอลเล็ต

"ดิจิทัลวอลเล็ต" เรือธงเพื่อไทย "เรือรบ หรือ เรือล่ม" ?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง