จับตาพิพากษาคดี กระทะ "โคเรีย คิง" โฆษณาเกินจริง 15 พ.ย.นี้

สังคม
14 พ.ย. 66
18:34
2,125
Logo Thai PBS
จับตาพิพากษาคดี กระทะ "โคเรีย คิง"  โฆษณาเกินจริง 15 พ.ย.นี้
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีแบบกลุ่ม ‘โคเรีย คิง’ โฆษณาเกินจริง 15 พ.ย.นี้ หลังยื่นฟ้องมานานกว่า 6 ปี

วันนี้ (14 พ.ย.66) นายโสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค เปิดเผยถึงมหากาพย์คดีที่ผู้บริโภคกว่า 70 คน รวมตัวฟ้องร้องบริษัท วิซาร์ด โซลูชั่น จำกัด ผู้นำเข้ากระทะยี่ห้อโคเรีย คิง (Korea King) เป็นคดีแบบกลุ่ม (Class Action)

เหตุผลที่ฟ้องร้อง คือ "กระทะไม่ได้มีคุณสมบัติตามที่โฆษณา" ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาจำหน่ายในราคาที่สูงเกินจริง การอ้างว่า กระทะลื่นไหลกว่าปกติ 300 % และใช้นวัตกรรม 8 ชั้น ประกอบด้วยหินอ่อนเงิน หินอ่อนทอง พร้อมด้วยเทคโนโลยีนาโนซิลเวอร์ โค้ตติ้ง ป้องกันแบคทีเรีย

อ่านข่าว พาณิชย์ ร่วม สคบ. ตรวจสอบ "Korea King" ชี้อาจผิดกฎหมายหากพบขายตรง 

ขณะที่เมื่อเดือน พ.ค.60 สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ออกมาเปิดเผยผลการตรวจกระทะยี่ห้อนี้แล้วและพบว่า ยังไม่มีหน่วยวัดหรือตรวจสอบได้เกี่ยวกับคำโฆษณาที่อ้างว่า กระทะลื่นไหลกว่าปกติ รวมถึงชั้นเคลือบของกระทะไม่ได้มี 8 ชั้น และยังไม่พบหินอ่อนในชั้นเคลือบกระทะอีกด้วย

นอกจากนี้ การโฆษณาเหล่านี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาและหากมีการโฆษณาเกินจริงหรือเป็นเท็จถือว่า ผิดสัญญาเช่นเดียวกัน เมื่อพบปัญหาที่เกิดขึ้น ผู้บริโภคหลายรายจึงเรียกร้องให้ สคบ.หน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคตรวจสอบ จากนั้น สคบ.ได้ออกมาเปิดเผยผลการทดสอบและ สคบ.จึงสั่งระงับโฆษณากระทะยี่ห้อดังกล่าวและสั่งปรับบริษัทฯ ด้วย

ขณะที่ผู้บริโภคนั้นไม่ได้รับการดูแลและไม่ได้รับการชดเชยเยียวยาแต่อย่างใด ผู้บริโภคจึงได้เข้าไปขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) และในช่วงเดือน พ.ค.66 มูลนิธิฯได้นัดเจรจากับตัวแทนของบริษัทฯ กระทะร่วมกันกับผู้บริโภค แต่ไม่สำเร็จ

ดังนั้นเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.60 มูลนิธิฯ ประกาศเป็นตัวแทนผู้บริโภคในการฟ้องร้องทางแพ่งเป็นคดีแบบกลุ่มและเรียกค่าเสียหายรวม 1,650 ล้านบาท

มูลนิธิฯมองว่า ความเสียหายดังกล่าวมีผู้บริโภคจำนวนมากที่ได้รับความเสียหายในลักษณะเดียวกัน ดังนั้นการฟ้องร้องเป็นคดีแบบกลุ่มจะทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์ในวงกว้างและได้รับการชดเชยเยียวยาทั้งหมด และยังมีความสะดวกมีความเป็นธรรมกว่า การดำเนินคดีแบบสามัญทั่วไป

อ่านข่าว ยื่นฟ้องกลุ่มเรียกค่าเสียหาย 1,650 ล้านบาท "กระทะโคเรียคิง" 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 ต.ค.63 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม และต่อมาจนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 ก.พ.65 ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งรับเป็นคดีแบบกลุ่มเช่นเดียวกัน โดยจำกัดขอบเขตของกลุ่มเฉพาะรุ่นไดมอนด์ ซีรีส์ (Diamond Series) และ รุ่นโกลด์ ซีรีส์ (Gold Series) ที่ซื้อก่อนวันที่ 17 พ.ค.60

โสภณ เปิดเผยอีกว่า ระหว่างที่รอคำพิพากษาของการฟ้องร้องเป็นคดีแบบกลุ่มในคดีโคเรีย คิง โฆษณาเกินจริงนั้น บริษัทฯ กลับแจ้งความดำเนินคดีกับนางกัลยทรรศน์ ติ้งหวัง หนึ่งในกลุ่มผู้เสียหายจากการซื้อกระทะยี่ห้อโคเรีย คิง ข้อหาเบิกความเท็จเพื่อปิดปาก (SLAPP Law) และทำให้ผู้บริโภคหวาดกลัว โดยบริษัทฯ ระบุว่า นางกัลยทรรศน์ไม่ได้เป็นผู้เสียหายในการซื้อกระทะโคเรียคิงจึงไม่มีสิทธิ์ในการฟ้องร้อง

แต่เมื่อ 14 ก.ย.2566 ศาลอาญา (รัชดา) ได้พิพากษายกฟ้องผู้บริโภครายนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่านางกัลยทรรศน์ก็ยังเป็นสมาชิกกลุ่ม มีสิทธิ์ฟ้องและร้องขอให้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม ซึ่งการเบิกความของผู้บริโภคไม่ใช่ประเด็นแพ้ชนะในคดี รวมทั้งยังเป็นการเบิกความตามข้อเท็จจริง ดังนั้นจึงไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จ ซึ่งสภาผู้บริโภคได้ให้ความช่วยเหลือด้านทนายความในการต่อสู้คดี เนื่องจากเป็นกรณีการถูกฟ้องจากการใช้สิทธิในฐานะผู้บริโภค

คดีดังกล่าวนับว่าเป็นคดีแบบกลุ่มที่มีกระบวนการยาวนานกว่าคดีแบบกลุ่มคดีอื่น ๆ หรือใช้เวลารอคำพิพากษากว่า 6 ปีที่ผู้บริโภคเข้ามาฟ้องร้องและพึ่งพิงศาล บางรายถอดใจ เพราะอาจมองว่ากระบวนการมีระยะเวลาที่ยาวนาน เกิดคำถามว่าคุ้มค่าและเป็นธรรมหรือไม่กับการรอคอย ขณะที่บางรายถูกผู้ประกอบการฟ้องกลับ

ทั้งนี้ ศาลแพ่งได้สืบพยานเรียบร้อยแล้ว และในวันพุธที่ 15 พ.ย.66 ศาลได้นัดตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายจากการซื้อกระทะโคเรียคิงและทนายความที่รับผิดชอบคดี ฟังคำพิพากษาที่ศาลแพ่งรัชดา เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

สคบ.ให้ 3 หน่วยงานตรวจสอบกระทะ "Korea king" รู้ผลเร็วสุด 15 พ.ค. 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง