ชมทะเลหมอก "สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง" จ.ยะลา

ไลฟ์สไตล์
17 พ.ย. 66
07:39
783
Logo Thai PBS
ชมทะเลหมอก "สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง" จ.ยะลา
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
อากาศเย็นมาแล้ว นักท่องเที่ยวหลายคนน่าจะเตรียมแพ็คของใส่กระเป๋า เดินทางไปสัมผัสอากาศเย็น และดูทะเลหมอกยามเช้า เชื่อว่า ส่วนใหญ่น่าจะไปไม่ภาคเหนือ ก็ภาคอีสาน แต่ใครที่อยู่ภาคใต้ก็สามารถดูทะเลหมอกและสัมผัสกับอากาศเย็นได้เช่นกัน ที่สกายวอล์คทะเลหมอกอัยเยอร์เ

บรรยากาศการท่องเที่ยวสกายวอล์คทะเลหมอกอัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา เริ่มกลับมาคึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ต่างสวมเสื้อกันหนาวและหมวกไหมพรมคลุมศีรษะ เดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้ามืด บางรายก็ไปนอนพักค้างคืนอยู่ตามรีสอร์ตใกล้ๆ สกายวอล์ค เพื่อที่จะได้ขึ้นไปชมแสงแรกของวัน ชมพระอาทิตย์ยามเช้า และชมความงดงามของทะเลหมอก ซึ่งสามารถมองเห็นหมอกขาวโพลนที่ลอยอยู่ตรงหน้า สามารถชมวิวทะเลหมอกในมุมสูงเหมือนกำลังยืนเหนือทะเลหมอก ที่ปกคลุมเต็มท้องฟ้าในยามเช้า ในบรรยากาศลมเย็น อุณหภูมิ 20-21 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวต่างต้องการถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ที่สวยงามไม่แพ้ภาคอื่นๆ ของไทย

และพอช่วงสายหลังจากที่หมอกเริ่มจางจะมองเห็นวิวทิวทัศน์ของผืนป่าฮาลา-บาลา ทั้ง 360 องศา มีขุนเขาเขียวที่เรียงรายสลับซับซ้อน ซึ่งเป็นต้นน้ำทะเลสาบเขื่อนบางลาง ดังคำพูดที่ว่า ถ้ามาเมืองเบตง ไม่ได้กินไก่สับตง ถือว่ามาไม่ถึงเบตง มาเที่ยวเบตง แต่ไม่เดินบนสกายวอล์ก ชมทะเลหมอก ก็ถือว่ามาไม่ถึงเบตงเช่นกัน

นายสรธร เพชรแก้วเพชร หัวหน้าป่านันทนาการทะเลหมอกอัยเยอร์เวง กล่าวว่า สกายวอล์คทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอเบตง ประมาณ 40 กิโลเมตร ในพื้นที่ของเขาไมโครเวฟ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,038 เมตร โดยช่วงเวลามาชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ที่นี่ขึ้นประมาณ 06.00-07.30 น. แต่หลังจากพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ทะเลหมอกยังคงอยู่ไปจนถึงเกือบ 08.00 น.

เมื่อมาถึงสกายวอลค์ เข้าไปข้างในเพื่อชำระเงินค่ารองเท้าผ้า สำหรับเดินบนพื้นกระจก คู่ละ 30 บาท หรือหากไม่รับรองเท้าผ้าสามารถถอดรองเท้าฝากไว้ในล็อคเกอร์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แล้วเดินเท้าเปล่าไม่อนุญาตให้ใส่รองเท้าเข้าไป จากนั้นกดลิฟท์ไปยังชั้นต่างๆ ได้เลย มีรถเข็นให้บริการสำหรับผู้สูงอายุด้วย

โดยสกายวอล์คเป็นหอคอยสูง มีทั้งหมด 6 ชั้น เริ่มตั้งแต่ชั้น 3 ซึ่งเป็นชั้นที่มีทางเดินทอดยาวไปยังระเบียงวงกลม ส่วนชั้น 4-6 เป็นจุดชมวิวแบบสี่เหลี่ยมที่มีที่กระจกยกสูงเป็นระเบียงชมวิวสำหรับกันไม่ให้ตกลงไป จะเลือกไปยังชั้นไหนก็ได้ แต่แนะนำให้ขึ้นมาชั้น 6 ก่อน เพราะเป็นจุดชมวิวสูงสุด มองลงมาจะเห็นทางเดินสกายวอล์คพื้นกระจกอยู่ข้างล่างได้แบบชัดเจนที่สุด

ในภาพถ่ายจากจุดชมวิวชั้น 6 เรามาถึงประมาณเกือบ 07.00 น. ซึ่งพระอาทิตย์ขึ้นสูงไปพอสมควร แต่ความอลังการของทะเลหมอกยังคงอยู่ และได้ความสดใสของท้องฟ้าสีฟ้าเข้ามาช่วยเสริมให้สวยงามยิ่งขึ้น จากชั้น 6 กดลิฟท์ลงมาชั้นสาม โดยปกติชั้น 3 หากวันไหนนักท่องเที่ยวเยอะจะจำกัดคนจำนวนคนเข้าชมในแต่ละรอบ รอบละ 10 นาที แต่ถ้ามาในวันที่นักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก สามารถเดินเข้าไปชมได้เลย

สำหรับการเดินทาง เมื่อมาถึงจุดชมวิว รถทุกชนิดต้องจอดไว้บริเวณลานจอดรถ ไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวขึ้นไปบริเวณสกายวอล์คเพราะมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด จากนั้นใช้บริการรถมอเตอร์ไซต์รับจ้าง หรือรถสองแถวขึ้นไปยังสกายวอล์ค ราคาคนละ 30 บาท แล้วแต่จะเลือกว่าจะโดยสารรถแบบไหน รถสองแถวรอคนเต็มถึงจะออก ถ้ามาเป็นหมู่คณะรถสองแถวจะเหมาะกว่า แต่ถ้ามาจำนวนไม่เยอะมอเตอร์ไซต์จะรวดเร็วเพราะไม่ต้องรอให้คนเต็ม ราคา 30 บาทเท่ากัน ซึ่งลานจอดรถ จะนั่งรถขึ้นไปใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที

อ่านข่าวอื่นๆ :

"ภูชี้ฟ้า" 2566 เริ่มคึกคัก นทท.แห่ชมทะเลหมอก สัมผัสอากาศหนาว

"ดอยอินทนนท์" พร้อมรับนักท่องเที่ยว "หน้าหนาว"

หนาวนี้เที่ยว "ทุ่งดอกบัวตอง 2566" บนดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน

ขึ้นเหนือรับลมหนาว หย่อนใจในหุบเขา บ้านแม่สามแลบ จ.แม่ฮ่องสอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง