เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2566 ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษา คดีนายชัยภูมิ ป่าแส เยาวชนนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ชาวลาหู่ ซึ่งฆาตกรรมโดยทหาร บริเวณด่านตรวจบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อปี 2560 หลังครอบครัวเป็นโจทก์ยื่นฟ้องเรียกร้องขอเสียหาย ตาม พ.ร.บ.ความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ.2539
ซึ่งศาลฎีกาได้พิพากษาสั่งให้กองทัพบก ชดใช้ค่าเสียหายให้กับครอบครัวนายชัยภูมิ จำนวน 2,072,400 บาท เป็นค่าปลงศพ 120,000 บาท, ค่าอุปการะแม่ 1,952,400 บาท และค่าทนายความ 5 หมื่นบาท
นายรัษฎา มนูรัษฎา ที่ปรึกษาสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน บอกว่า คำพิพากษาถือว่าคืนความเป็นธรรมให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต หลังจากนี้อยากให้กองทัพบกหาตัวผู้กระทำผิดมารับผิดชอบ รวมถึงทบทวนการให้อาวุธกับทหารผู้ปฏิบัติงาน เพราะคดีลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในประเทศไทย ซึ่งผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่สามารถนำผู้กระทำผิดมาลงโทษได้
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มี.ค.2560 ทหารที่ประจำอยู่ที่ด่านตรวจบ้านรินหลวง ตรวจค้นรถยนต์นายชัยภูมิ ที่เดินทางมากับเพื่อนอีกหนึ่งคน ก่อนที่นายชัยภูมิ จะถูกทหารประจำด่านตรวจใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต
ทหารที่ก่อเหตุอ้างว่า พบยาบ้าจำนวน 2,800 เม็ด ซุกซ่อนในรถที่ชัยภูมิขับ และชัยภูมิ ขัดขืนการจับกุมควักระเบิดจะขว้างใส่เจ้าหน้าที่ จึงจำเป็นต้องยิงตอบโต้เพื่อป้องกันตัว
ต่อมาปี 2562 นางนาปอย ป่าแส มารดาของนายชัยภูมิ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายตาม พ.ร.บ.ความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ.2539 แม้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ จะพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าการกระทำของทหารกระทำไปโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ครอบครัวได้ยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกา จนวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้กองทัพบกชดใช้ค่าเสียหายให้ครอบครัวนายชัยภูมิ
เกษม แซ่กือ ผู้สื่อข่าวอาวุโสไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคเหนือ