หุ่นยนต์สุนัขพูดได้ เหมือนเสียงคนจริง ๆ ด้วยฟีเชอร์ใหม่ ChatGPT

Logo Thai PBS
หุ่นยนต์สุนัขพูดได้ เหมือนเสียงคนจริง ๆ ด้วยฟีเชอร์ใหม่ ChatGPT
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ยกระดับไปอีกขั้นด้วยการเพิ่มฟีเชอร์ใหม่ให้กับหุ่นยนต์สุนัขมากความสามารถ นอกจากการดมกลิ่น เต้นเป็นเพื่อนเล่นได้แล้ว ยังพูดได้ แถมเสียงพูดยังเหมือนคนจริง ด้วยการใช้ ChatGPT

ตั้งแต่ ChatGPT เป็นที่รู้จักและมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี ก็ยิ่งพบกับเรื่องน่าทึ่งมากยิ่งขึ้นในทุกวัน ล่าสุดบริษัทวิศวกรรมหุ่นยนต์ Boston Dynamics ได้เพิ่มฟีเชอร์ใหม่ให้กับหุ่นยนต์สุนัขมากความสามารถให้สามารถตอบโต้ได้โดยใช้โมเดลภาษาจาก ChatGPT มาเป็นตัวช่วย ทำให้หุ่นยนต์มีบุคลิกที่หลากหลาย สามารถพูดได้เหมือนเสียงคนจริง ๆ ด้วยสำเนียงทั้งบริติชและอเมริกัน ขึ้นอยู่กับระบบภาษาที่ผู้ใช้เลือกเอาไว้

ในวิดีโอตัวใหม่ที่บริษัทวิศวกรรมเผยแพร่ออกมาได้แสดงให้เห็นความสามารถใหม่ของหุ่นยนต์สุนัขที่พัฒนาขึ้น ในการตอบคำถามและเล่าเรื่องตลกโดยใช้สำเนียงที่หลากหลาย รวมถึงบุคลิกที่แตกต่างกัน หุ่นยนต์สุนัขจะขยับปากเหมือนกำลังพูดอยู่จริง และเสียงที่พูดออกมาก็ไม่ใช่เสียงที่แหบแห้งเหมือนเสียงหุ่นยนต์ทั่วไป แต่ได้อรรถรสเหมือนฟังเสียงคนจริง ๆ กำลังพูดโต้ตอบ รวมถึงการมองหรือสบตาผู้คนขณะพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับมีสิ่งมีชีวิต

บริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์สุนัขตัวนี้ได้พัฒนาหุ่นยนต์โดยการใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์แบบปลั๊กอินหลายตัว เพื่อช่วยอธิบายสภาพแวดล้อม หุ่นยนต์จะได้รับแผนที่ 3 มิติของอาคารพร้อมคำอธิบายสั้น ๆ และป้ายกำกับสถานที่สำคัญ รวมถึงใช้ ChatGPT ในการเติมช่องว่างระหว่างการสนทนา โดยโมเดลมีความสามารถในการเติมอัลกอริทึมอัตโนมัติ ซึ่งเมื่อโมเดลรับกระแสข้อความ จะสามารถคาดเดาประโยคถัดไปของข้อความแม้ว่าจะไม่สมบูรณ์ได้ด้วย

หุ่นยนต์สุนัขได้รับการทดสอบโดยให้รับบทเป็นไกด์นำเที่ยวในโรงงานแห่งหนึ่ง ChatGPT ที่ซ่อนอยู่ในหุ่นยนต์จะทำหน้าที่บรรยายสิ่งที่มองเห็นจากกล้องที่กระจายอยู่รอบ ๆ ตัว จากนั้นจะรันข้อมูลผ่านโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่ตอบคำถามด้วยภาพเพื่อรับบริบทเพิ่มเติมก่อนจะสร้างบทสนทนาเพื่อบรรยายสิ่งที่เห็นหรือตอบกลับ

เป้าหมายในการพัฒนาหุ่นยนต์สุนัขพูดได้ของบริษัทผู้ผลิต คือ การทำให้หุ่นยนต์สามารถมอบความบันเทิงและดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยเป็นการเปิดโอกาสในการคิดนอกกรอบ และยังสามารถทำให้หุ่นยนต์แก้ปัญหาได้ดีขึ้นอีกด้วย

ที่มาข้อมูล: designboom, dailymail, theverge, bostondynamics
ที่มาภาพ: bostondynamics
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

ข่าวที่เกี่ยวข้อง