"ส้มสายน้ำผึ้งฝาง" ผลไม้มงคลจากธารน้ำพุร้อน GI เชียงใหม่

ภูมิภาค
1 ธ.ค. 66
11:12
1,316
Logo Thai PBS
"ส้มสายน้ำผึ้งฝาง" ผลไม้มงคลจากธารน้ำพุร้อน GI เชียงใหม่
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
จังหวัดเชียงใหม่เสนอ “ส้มสายน้ำผึ้งฝาง” ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา หวังส่งเสริมการตลาดผลผลิตส้มใน อ.ฝาง อ.แม่อาย และ อ.ไชยปราการ สร้างมูลค่าเพิ่มแหล่งปลูกส้มใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

สวมส้มหลายร้อยไร่ใน ต.โป่งน้ำร้อน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ คือ แปลงปลูกส้มของกลุ่มแปลงใหญ่ส้มสายน้ำผึ้ง ต.โป่งน้ำร้อน ที่มีการบริหารจัดการแบบครบวงจรพัฒนาคุณภาพมาตรฐานผลผลิตจนเป็นที่รู้จักของผู้บริโภค และ ได้รับมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี หรือ GAP

นายคเณศ หน่อราช ประธานกลุ่มแปลงใหญ่ส้มสายน้ำผึ้งตำบลโป่งน้ำร้อน บอกว่า สมาชิกของกลุ่มส่วนใหญ่เป็นทายาทของเกษตรกรที่กลับคืนถิ่นเพื่อสานต่อการทำสวนส้มจากพ่อแม่ เริ่มรวมกลุ่มกันเมื่อ 3 ปีก่อน

นอกจากจะขยายช่องทางการจำหน่าย เชื่อมโยงตลาดให้กว้างขึ้น จนสามารถส่งส้มไปขายในหลายจังหวัดภาคใต้ อาทิ จ.ชุมพร และ จ.สุราษฎร์ธานี ก็ยังให้ความสำคัญกับองค์ความรู้ใหม่ เพื่อให้ส้มสายน้ำผึ้งมีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น

เราขอคำปรึกษาจากอาจารย์จากสถาบันต่างๆ ในเรื่องของการบำรุงดิน ทำยังไงให้พืชดึงปุ๋ยขึ้นมาใช้แบบเต็มประสิทธิภาพมากกว่าการอัดปุ๋ยเข้าไปอย่างเดียว ส่วนในเรื่องแมลงศัตรูพืชเราก็พยายามควบคุมมากกว่าที่จะไปกำจัด ใช้สารเคมีให้ถูกต้องและพอเหมาะ ทำให้ต้นทุนลดลงได้

สำหรับส้มสายน้ำผึ้งในพื้นที่ อ.ฝาง อ.แม่อาย และ อ.ไชยปราการ ถือเป็นส้มที่มีลักษณะเฉพาะถิ่น คือ เปลือกบางล่อน ทรงผลกลมแป้น เมื่อสุกมีสีเหลืองอมส้ม รสชาติหวานอมเปรี้ยว ชานในนิ่ม กลิ่นหอม เปลือกบางล่อน มีต่อมน้ำมันบริเวณผิวเด่นชัด ผิวเรียบเป็นมันเงา

ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพภูมิประเทศเป็นที่สูงอุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืนแตกต่างกันมากกว่า 10 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดการพัฒนาของสารสีแคโรทีนอยด์ เป็นสารสีส้ม อีกทั้งในพื้นที่ ยังมีธารน้ำพุร้อนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ ทำให้รสชาติหอมหวาน ล่าสุดจึงมีการขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI กับกรมทรัพย์สินทางปัญญาในนาม “ส้มสายน้ำผึ้งฝาง”

นายเจริญ พิมพ์ขาล เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า จังหวัดเชียงใหม่มีพื้นที่ปลูกส้มมากที่สุดในในประเทศไทย และ ผลผลิตส้มสายน้ำผึ้งก็มีความโดดเด่นเป็นอัตลักษณ์จึงสนับสนุนให้ส้มสายน้ำผึ้งได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ของจังหวัด ถัดจากผ้าตีนจกแม่แจ่ม ศิลาดลเชียงใหม่ และ กาแฟเทพเสด็จ

ทั้งนี้ การขึ้นทะเบียนส้มสายน้ำผึ้งฝางเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ จะเกิดประโยชน์กับเกษตรกรในเรื่องของการควบคุมคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการผลิต การใช้ยาสารเคมี รวมถึงระยะเวลาการเก็บเกี่ยว และ การบำรุง จะมีการควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน ขณะนี้มีเกษตรกรให้ความการสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการค่อนข้างเยอะ ซึ่งจะต้องมาคัดดูว่าผ่านเกณฑ์หรือไม่"

สำหรับส้มเกรดพรีเมียม หรือส้มขนาดผลใหญ่มาก เบอร์ 6 และ เบอร์ 7 ส่วนใหญ่ก็จะไปต่างประเทศอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย หรือ สิงคโปร์ เมื่อส้มสายน้ำผึ้งฝางได้ขึ้นทะเบียนเป็นพืช GI เชื่อว่าตลาดต่างประเทศจะมีความต้องการมากขึ้น พี่น้องเกษตรกรก็จะมีการพัฒนาตัวเองเพื่อผลิตส้มให้มีคุณภาพเพื่อการส่งออกต่อไป

จังหวัดเชียงใหม่มีพื้นที่ปลูกส้มกว่า 34,000 ไร่ ในปีการผลิตที่ผ่านมา สามารถสร้างมูลค่าแก่จังหวัดได้กว่า 4,300 ล้านบาท ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีผลผลิตส้มออกสู่ตลาด 130,000 ตัน

โดยจะให้ผลผลิตมากที่สุดในเดือน ธ.ค. ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาเทศกาลปีใหม่ ผู้บริโภคที่สนใจนำ ส้มสายน้ำผึ้งฝาง เป็นของขวัญของฝากที่มีความหมายมงคล และ มีประโยชน์แก่ผู้ที่ได้รับ สามารถสอบถามได้ที่ นายคเณศ หน่อราช กลุ่มแปลงใหญ่ส้มสายน้ำผึ้งตำบลโป่งน้ำร้อน หมายเลขโทรศัพท์ 084-378-1900

พยุงศักดิ์ ศรีวิชัย ผู้สื่อข่าวอาวุโสไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคเหนือ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง