ทองคำฉุดไม่อยู่พุ่ง 250 บาท คาดปี 67 ปรับขึ้น แนะนักลงทุนช้อนซื้อ

เศรษฐกิจ
4 ธ.ค. 66
10:45
28,632
Logo Thai PBS
ทองคำฉุดไม่อยู่พุ่ง 250 บาท คาดปี 67 ปรับขึ้น แนะนักลงทุนช้อนซื้อ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ราคาทองขยับ 2 รอบ พุ่ง 250 บาท ทองคำปรับขึ้น ชี้แรงหนุนธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง -เฟดยุติขึ้นดอกเบี้ย คาดราคาสูงเป็นประวัติการณ์ 6 เดือนแรกปี 67 แนะช่วงปรับลงระยะสั้นให้นักลงทุนหาจังหวะเข้าซื้อ

วันนี้ (4 ธ.ค.2566) เว็บไซต์ "ฮั่วเซ่งเฮง" รายงานสถานการณ์ทองคำ ราคาทองคำปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 โดยได้รับแรงหนุนจากภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น

จากสงครามยูเครน-รัสเซีย สงครามอิสราเอล-ฮามาสธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง คาดว่าเฟดจะยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ก็มีสัญญาที่ราคาทองอาจจะปรับตัวลดลงจากความต้องการทองคำจากจีนลดลงเช่นกัน

อ่านข่าว:

พุ่งแรง ! ทองขึ้น 100 บาท คาดแรงหนุนดอลลาร์อ่อนตัวทองคำทำนิวไฮราคาพุ่งอีกครั้งปี 66

อย่างไรก็ตามราคาทองคำทำระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ที่ 2,078 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในปีนี้ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวขึ้นกว่า 68.6 ดอลลาร์จากสัปดาห์ก่อน

ปัจจัยหนุนมาจากดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง และ Bond yield สหรัฐลดลง จากการคาดว่าเฟดจะยุติการขึ้นดอกเบี้ย และมีแนวโน้มว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยภายในกลางปีหน้า

สำหรับเดือนธันวาคม จากข้อมูลสถิติของราคาทองคำ พบว่า เดือนธ.ค.ส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนที่เป็นบวก ทองคำจึงยังคงน่าสนใจ จากปัจจัยเดิม คือคาดว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก

โดยจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุดเฟดที่กำลังจะมาถึงวันที่ 12-13 ธ.ค. เช่นกัน ซึ่งปัจจัยนี้อาจเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำต่อไป แต่ระยะสั้นอาจมีแรงเทขายออกมาเล็กน้อย หลังจากราคาทองคำปรับขึ้นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

แนะนักลงทุนหาจังหวะเข้าซื้อ

อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจหนุนราคาทองคำ ซึ่งคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีหน้าเร็วขึ้นกว่าเดิม จากที่ก่อนหน้านั้นคาดว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงที่ยาวนาน

ราคาทองคำเป็นการปรับลงระยะสั้น นักลงทุนควรให้หาจังหวะเข้าซื้อ เพราะคาดว่าในปีหน้าราคาทองคำอาจทำระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ภายในครึ่งปีแรกของปี 2567 

นักลงทุนมั่นใจ “เฟด”ลดดอกเบี้ยมี.ค.67

เว็บไซต์ "ฮั่วเซ่งเฮง" ระบุอีกว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไป (ซอฟต์แลนดิ้ง) และอัตราเงินเฟ้อสหรัฐก็ไม่ได้พุ่งไปสูงมาก การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดจึงเร็วขึ้น
ทั้งนี้ข้อมูล CME GROUP

พบว่า นักลงทุนคาดว่ามีโอกาสถึงร้อย 60 ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2567 ที่อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 มาสู่ระดับร้อยละ 5.00-5.25 และคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งหมด 5 ครั้งในปี 2567 ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว ทำให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดลงเหลือระดับร้อยละ 4.00-4.25 ในสิ้นปี 2567

อีกปัจจัย คือ สงคราม ไม่ว่าจะเป็น สงครามรัสเซีย-ยูเครน แม้ว่าจะไม่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์อยู่ เพราะสงครามยังคงดำเนินต่อไป จึงอาจยังเป็นแรงกดดันที่อาจส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก

ส่วนสงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาสเช่นกันยังคงดำเนินต่อแต่อาจมีความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์เช่นกัน แต่คาดว่าจะอยู่ในวงจำกัด แต่การสนับสนุนด้านงบประมาณที่ให้การช่วยเหลือในการทำสงครามในยูเครนและอิสราเอลจากสหรัฐ ซึ่งอาจกระทบต่องบประมาณสหรัฐ

ซึ่งขณะนี้สหรัฐยังคงเผชิญกับการขาดดุลงบประมาณ และหนี้สาธารณะพุ่งชนเพดานหลายครั้ง ทำให้ฟิทซ์ เรตติ้งส์ ได้มีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงสู่ระดับ AA+ จาก AAA

“มูดี้ส์” ปรับระดับความน่าเชื่อถือสหรัฐสู่เชิงลบ

ขณะที่มูดี้ส์ได้ประกาศการปรับแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐสู่ “เชิงลบ” จาก “มีเสถียรภาพ” มูดี้ส์ คาดว่าการขาดดุลการคลังของสหรัฐจะยังคงอยู่ในระดับสูงมาก และจะทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ลดลงอย่างมาก

ปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลต่อการลดสัดส่วนการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐในฐานะเงินทุนสำรองลง และอาจมีผลต่อการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำในระยะยาว

อย่างไรก็ตามแนวโน้มราคาทองคำคาดเป็นขาขึ้น แต่ก็อาจมีแรงเทขายระยะสั้น หากราคาทองคำปรับขึ้นทะลุ All-time high ที่ 2,078 ดอลลาร์ สัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงาน

ได้แก่ การจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนพ.ย. ของ ADP การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย. ค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงเดือนพ.ย. และอัตราการว่างงานเดือนพ.ย.

เกาะติดราคาทองคาดยังพุ่งต่อเนื่อง

ส่วนสัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 2,050 ดอลลาร์ และ 2,040 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,150 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,160 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 34,200 บาท และ 34,000 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 34,600 บาท และ 34,700 บา

สำหรับราคาทองวันนี้บวกเพิ่ม 200 บาท(ครั้งแรก) ต่อมาช่วงสายราคาทองปรับขึ้นมาอีก 50บาท(ครั้งที่2) โดยราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 34,350 บาท และราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ34,250 บาท

ราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 34,850บาทและราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 33,640.04บาท ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 2,087.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 34.82 บาทต่อดอลลาร์

 อ่านข่าว:

รูดม่าน "Zipmex " บันทึกผู้เสียหาย ในวันไร้หวังได้เงินคืน

สัญญาณเตือน ? นทท.จีนเมินเที่ยวไทย "ฟรีวีซา" สิ้นมนต์ขลัง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง