7 จุดห้ามพลาด "ภูกระดึง" ขุนเขา "รูปหัวใจ" แห่งเมืองเลย

ไลฟ์สไตล์
4 ธ.ค. 66
16:37
6,742
Logo Thai PBS
7 จุดห้ามพลาด "ภูกระดึง" ขุนเขา "รูปหัวใจ" แห่งเมืองเลย
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
7 จุดเช็กอินยอดฮิตบน "ภูกระดึง" หนึ่งลิสต์แหล่งท่องเที่ยวหน้าหนาว จ.เลย ที่ครั้งหนึ่งต้องไปพิชิตให้ได้

ธรรมชาติที่สวยงามและความอุดมสมบูรณ์ของป่าที่ "ภูกระดึง" กลายเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปพิชิตสักครั้งในชีวิต และในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวนับหมื่นคนเดินทางมาเยือน หลายคนเคยขึ้นภูกระดึงมาแล้วมากกว่า 1 ครั้ง แล้วอะไรคือ เสน่ห์ของภูกระดึง ที่ยังคงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวรุ่นแล้วรุ่นเหล่าไม่เสื่อมคลาย

อ่านข่าว : เปิดหนังสือขอศึกษา "กระเช้าภูกระดึง" 2 ปีสิ้นสุดปี'68

หนึ่งในลิสต์ท่องเที่ยวฮิต คู่นักเที่ยวสายธรรมชาติ

"ภูกระดึง" สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นหนึ่งในลิสต์ของนักท่องเที่ยวสายเดินป่า ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย ซึ่งได้รับการประกาศเป็น อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทย เมื่อปี 2502 มีลักษณะเป็น "ภูเขาหินทรายยอดตัด" ที่หากมองจากภาพถ่ายดาวเทียมจะมีลักษณะคล้าย "รูปหัวใจ" ครอบคลุมพื้นที่ 348.13 ตารางกิโลเมตร มีที่ราบบนยอดภูประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร

ภาพจาก GISTDA (เผยแพร่เมื่อ 29 พฤษภาคม 2019)  อุทยานแห่งชาติภูกระดึง

ภาพจาก GISTDA (เผยแพร่เมื่อ 29 พฤษภาคม 2019) อุทยานแห่งชาติภูกระดึง

บนยอดเขากว้างใหญ่สลับกับเนินเตี้ย ๆ ยอดสูงสุดคือ ภูกุ่มข้าว สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,350 เมตร เป็นแหล่งกำเนิดของลำน้ำพอง ซึ่งหล่อเลี้ยงเขื่อนอุบลรัตน์และเขื่อนหนองหวาย ใน จ.ขอนแก่น

คำว่า "ภูกระดึง" มาจากคำว่า "ภู" แปลว่า "ภูเขา" และ "กระดึง" แปลว่า "กระดิ่ง" เป็นภาษาถิ่นของ จ.เลย ภูกระดึง จึงแปลได้ว่า "ระฆังใหญ่" มาถึงตรงนี้ "ภูกระดึง" ยังมีตำนานที่เล่าขานกันมาว่า

"มีพรานตามล่ากระทิง" ขึ้นไปจนถึงบนยอดเขาในเขต ต.ศรีฐาน และได้กับพื้นที่บนยอดเขาที่เป็นที่ราบเรียบและกว้างใหญ่ เป็นทุ่งหญ้าสลับกับป่าสน และเต็มไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด เช่น ช้างป่า ฝูงกระทิง เก้ง กวาง "ภูกระดึง" ซึ่งถูกว้อนเร้นมานานก็ถูกเปิดเผยให้คนได้รู้จักแต่นั้นมา

"ภูกระดึง" เป็นป่า ที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดป่าหนึ่ง มีทั้งป่าผลัดใบ และป่าดงดิบ ที่ระดับความสูงต่างๆ จำแนกออกได้เป็น

  • ป่าเต็งรัง พบบนที่ราบเชิงเขาและบนที่ลาดชันจนถึงระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 600 เมตร ประกอบด้วยพันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ เต็ง รัง เหียง พลวง กราด รกฟ้า อ้อยช้าง เป็นต้น
  • ป่าเบญจพรรณ พบตั้งแต่บนพื้นที่ราบเชิงเขาและที่ลาดชันตามไหล่เขารอบภูกระดึง จนถึงระดับความสูงจากน้ำทะเลประมาณ 950 เมตร พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ แดง ประดู่ป่า กระบก เป็นต้น
  • ป่าดิบแล้ง พบตามฝั่งลำธารของหุบเขาที่ชุ่มชื้นทางทิศตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือ และทิศตะวันตก ตั้งแต่เชิงเขาจนถึงระดับความสูงประมาณ 950 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีพันธุ์ไม้สำคัญ คือ ก่อ ตะเคียนทอง ยางแดง ยมหอม เป็นต้น
  • ป่าดิบเขา พบตั้งแต่ระดับ 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลขึ้นไป ทางทิศเหนือและทิศตะวันตกเฉียงเหนือ พันธุ์ไม้ที่สำคัญ อาทิ ก่วมแดง ทะโล้ สนสามพันปี พะอง จำปีป่า กุหลาบแดง มือพระนารายณ์ เป็นต้น
  • ป่าสนเขา พบเฉพาะบนที่ราบยอดภูกระดึงที่ระดับความสูงประมาณ 1,200-1,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล พันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ สนสองใบ ก่อเตี้ย ทะโล้ สารภีดอย มะเขื่อเถื่อน เป็นต้น

ไม่เพียงเท่านี้ ภูกระดึง ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งที่มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างชุกชุม เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศประกอบไปด้วยป่าไม้ ทุ่งหญ้าและลำธาร ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่าภูกระดึงมีหลายชนิดที่พบเห็นทั่วไป อาทิ ช้างป่า เก้ง กวางป่า หมูป่า ลิงกัง พังพอน อีเห็น

นอกจากนี้ยังมี นกเขาเปล้า นกเขาใหญ่ นกกระปูดใหญ่ นกเค้ากู่ ปาดแคระ และมีเต่าชนิดหนึ่งซึ่งหาได้ยาก คือ เต่าปูลู หรือ "เต่าหาง" เป็นเต่าที่หางยาว อาศัยอยู่ตามลำธารในป่าเขาระดับสูงของประเทศไทย กัมพูชา และลาว

ความสมบูรณ์ของธรรมชาติ รวมถึงสภาพภูมิอากาศ ในช่วงเดือน ธ.ค. - ม.ค. อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยระหว่าง 0-10 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยระหว่าง 21-24 องศาเซลเซียส ทำให้ "ภูกระดึง" มีความน่าสนใจมากขึ้น ทำให้แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวไปเยือนสัมผัสธรรมชาติ ทั้งไปเป็นกลุ่ม เพื่อน คู่รัก ครอบครัว เรียกได้ว่าเป็นความท้าทายทั้งกายและใจ ใครจะไปต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมที่สุด

และหากพูดถึงนักท่องเที่ยว ภาพที่อยู่คู่กับการพิชิตยอดภูกระดึง คือ "กลุ่มลูกหาบ" ที่กลายเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับผู้คนในพื้นที่ ในแต่ละปีไม่น้อยบางครอบครัวสืบทอดอาชีพลูกหาบมาตั้งแต่รุ่นพ่อ กับภารกิจในการแบกสัมภาระข้าวของเครื่องใช้ ของนักท่องเที่ยวขึ้นภูที่มีความสูง 1,316 เมตร

อ่านข่าว : "ลูกหาบภูกระดึง" ในวันเปิดประเทศ รายได้บนความเสี่ยง

เตรียมพร้อมร่างกายให้พร้อม ก่อนเริ่มเดินทางขึ้นไปพิชิดภูกระดึง เส้นทางเดินทางวัดใจที่นักท่องเที่ยวต้องผ่าน ไล่เรียงไปตั้งแต่ซำแฮก ซำบอน ซำกกกอก ซำกกหว้า ซำกกไผ่ ซำกกโดน ซำแคร่ และช่วงสุดท้ายที่จะผ่านขึ้นไปยังหลังแป จุดนี้อาจเป็นจุดที่เหนื่อยที่สุด เพราะจะต้องปีนป่ายขึ้นโขดหิน ระหว่างทางสามารถแวะพักดื่มน้ำ หาอาหารกินกันได้ นั่งพักให้หายเหนื่อยแล้วค่อยเดินทางต่อ 

เมื่อเดินถึงหลังแป ทุกคนที่เดินทางมาถึงจุดนี้ต้องแวะถ่ายภาพ ณ จุดนี้เพื่อเป็นที่ระลึก "ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือ ผู้พิชิตภูกระดึง" จากนั้นต้องเดินต่อไปอีกศูนย์ฯ วังกวาง 3.5 กิโลเมตร มาถึงบนยอดภูกระดึงทั้งทีต้องหาที่เที่ยวธรรมชาติ กินหมูกระทะท่ามกลางอากาศเย็น และชมกวางที่เดินเล่นใกล้ชิดนักท่องเที่ยว วันนี้จะพาไปเช็กอิน 7 จุด ที่ไม่ควรพลาด ที่กรมอุทยานฯ แนะนำไว้

7 จุดต้องแวะเช็กอิน 

หลังแป

จุดแรกที่นักท่องเที่ยวขึ้นมาถึงบนยอดภูกระดึง ความเหนื่อยล้าถูกเปลี่ยนเป็นความประทับใจที่มาถึงยอดภู หยุดพักเช็กอินถ่ายภาพกับป้าย "ครั้งหนึ่งเราคือผู้พิชิตภูกระดึง" ก่อนจะเดินอีก 3.5 กิโลเมตรไปยังศูนย์บริการวังกวาง ระหว่างทางมีต้นสนโดดเด่นอยู่กึ่งกลางทางเดิน ให้นักท่องเที่ยวได้แวะถ่ายภาพอีกหนึ่งจุด

ผานกแอ่น

อยู่ห่างจากที่ทำการศูนย์ฯวังกวางราว 2 กิโลเมตร และห่างจากหลังแป 2.5 กิโลเมตร  ผานกแอ่นเป็นลานหินเล็กๆ มีสนขึ้นโดดเด่นริมหน้าผาต้นหนึ่ง เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น อากาศก็สดชื่นเย็นสบาย มองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่าง ซึ่งเป็นท้องทุ่งและเทือกเขา เห็นผานกเค้าได้ชัดเจน ริมทางเดินใกล้ผานกแอ่นเป็นสวนหินมีดอกกุหลาบป่าขึ้นอยู่เป็นดงใหญ่ จะบานสะพรั่งเต็มต้นในเดือน มี.ค. - เม.ย.

ผานกแอ่น

ผานกแอ่น

ผานกแอ่น

ผาหล่มสัก

อยู่ห่างจากที่ทำการราว 8 กิโลเมตร เป็นลานหินกว้างและมีสนต้นหนึ่งขึ้นชิดริมผาใกล้กับชะง่อนหินที่ยื่นออกไปในอากาศทางทิศใต้ บริเวณผาหล่มสักนี้มองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาสลับซับซ้อนในเขต จ.เพชรบูรณ์ และเป็นจุดหนึ่งที่จะชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างชัดเจนที่สุด คนจึงนิยมไปถ่ายภาพ ณ จุดนี้เพราะยามตะวันตกดินจะเกิดทัศนียภาพสวยงาม

สระอโนดาด

เป็นสระน้ำขนาดใหญ่ที่มีต้นสนขึ้นเป็นแนวแน่นขนัดตามริมสระ ตอนปากธารน้ำไหลมีลานหินโผล่ขึ้นมายามน้ำน้อย จากบริเวณสระอโนดาด ยังมีทางเดินไปต่อบรรจบกับเส้นทางสู่ถ้ำสอและถ้ำน้ำได้

อ่านข่าว : ปัดฝุ่น! "กระเช้าภูกระดึง" ชงของบ 28 ล้าน-ขอเข้าพื้นที่ศึกษา สวล.

น้ำตกเพ็ญพบใหม่

เกิดจากลำธารวังกวาง น้ำตกผ่านผาหินรูปโค้งในหน้าหนาวใบเมเปิลมาจากบริเวณริมน้ำตก จะร่วงหล่นลอยไปตามผิวน้ำ ยามแดดสาดส่องผ่านลงมาจะเป็นสีแดงจัดตัดกับสีเขียวขจีของตะไคร่น้ำตามโขดหิน

นอกจากนี้ ลำธารวังกวางยังเป็นต้นกำเนิด "น้ำตกโผนพบ" ตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ "โผน กิ่งเพชร" นักชกแชมเปียนโลกคนแรกของคนไทยในฐานะเป็นผู้ค้นพบคนแรก เมื่อครั้งที่ขึ้นไปซ้อมมวยให้ชินกับอากาศหนาวก่อนเดินทางไปชกในต่างประเทศ

ลานพระศรีนครินทร์ หรือ องค์พระพุทธเมตตา

พระพุทธรูปปางมารวิชัย ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่นักท่องเที่ยวต่างพากันมากราบไหว้สักการะและขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล จุดนี้อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง 500 เมตร

ผาเหยียบเมฆ 

เป็นจุดชมทิวทัศน์ และนั่งพัก เมื่อยืนอยู่บริเวณหน้าผาจะมองเห็นเมฆ หมอกลอยปกคลุมทั่วหุบเขา ทำให้รู้สึกเหมือนยืนอยู่เป็นก้อนเมฆ ลักษณะโดยรอบเป็นหินทรายมีลานหินตะปุ่มตะป่ำ คล้ายก้อนเมฆ โดยรอบเป็นป่าสน หน้าผามีความสูงและมีความลาดชัน 30-35 องศา

ใครอยากไปเที่ยว "ภูกระดึง" ต้องรู้ก่อนคือ ภูกระดึง มีช่วงเปิดและปิดการท่องเที่ยว โดยในวันที่ 1 ตุลาคม ของทุก ๆ ปี ไปจนถึง 31 พ.ค. และจะปิดการท่องเที่ยวในวันที่ 1 มิ.ย. - 30 พ.ค. ของทุกปี นั้นเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝน ให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัวเป็นสถานที่ที่หลายคนบอกว่า "ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือ ผู้พิชิตภูกระดึง"

อ่านข่าวอื่น ๆ

รัฐใจป้ำ "ตัดอ้อยสด" จ่ายตันละ 120 บาทเป็นของขวัญปีใหม่

ภูเขาไฟ "มาราปี" ปะทุ นักปีนเขาตาย 11 สูญหายอีก 12 คน

เที่ยว "กัลยาณิวัฒนา" อำเภอลำดับที่ 25 ของเชียงใหม่ 878 ของไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง