"หมอกฤตไท" อาจารย์อนาคตไกล สู่เพจ สู้ดิวะ กับการต่อสู้มะเร็งปอด

สังคม
5 ธ.ค. 66
13:55
20,525
Logo Thai PBS
"หมอกฤตไท" อาจารย์อนาคตไกล สู่เพจ สู้ดิวะ กับการต่อสู้มะเร็งปอด
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"หมอกฤตไท ธนสมบัติกุล" เจ้าของเพจสู้ดิวะ อาจารย์แพทย์อนาคตไกล กับการต่อสู้กับมะเร็งปอดระยะสุดท้าย

วันนี้ (5 ธ.ค.2566) กับการสูญเสียบุคลากรทางแพทย์หนุ่มอนาคตไกล หมอกฤตไท ธนสมบัติกุล อายุ 29 ปี อาจารย์ประจำศูนย์ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่ต้องเจอกับมรสุมชีวิตด้วยการป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย จนนำไปสู่การเปิดเพจเฟซบุ๊ก "สู้ดิวะ" เพื่อแชร์ประสบการณ์ของการป่วยของตัวเอง ซึ่งมีชาวเน็ตให้กำลังใจจำนวนมาก 

และหมอกฤตไท ได้จากไปอย่างสงบในเวลา 10.59 น.วันนี้ หลังต่อสู่กับมะเร็งปอดระยะสุดท้าย 1 ปี

อ่านข่าว : "หมอกฤตไท" เจ้าของเพจ สู้ดิวะ เสียชีวิตแล้ว หลังป่วยมะเร็งปอด

ประวัติ "หมอกฤตไท"

สำหรับ นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล จบมัธยมจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (OSK 131) ก่อนสอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รุ่น 56 เรียนจบ 6 ปี ก็ต่อเฉพาะทางถึง 2 สาขา คือ เวชศาสตร์ครอบครัว และระบาดวิทยาคลินิก พ่วงด้วยการต่อ ปริญญาโท ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์สาขา Data science

ได้บรรจุเป็นอาจารย์ประจำศูนย์ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำงานได้ 2 เดือนแล้ว กำลังสร้างทีมกัน สร้างทีม CE (clinical epidemiology) เชียงใหม่ กับสุดยอดอาจารย์แห่งยุคและทีมงานคุณภาพ

ส่วนของการใช้ชีวิตส่วนตัว ชอบออกกำลังกาย เป็นนักกีฬา เข้ายิมดูแลสุขภาพดีมาก ๆ ให้ความสำคัญกับอาหารและการนอน ชอบอ่านหนังสือ ฟัง podcast

นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล

นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล

นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล

ตรวจพบป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ทั้งที่ชอบออกกำลังกาย

นพ.กฤตไท ได้โพสต์ Krittai Tanasombatkul บอกเล่าถึงการตรวจพบว่าตัวเองป่วยมะเร็ง โดยเมื่อวันที่ 10 พ.ย.2565 ระบุว่า สวัสดีครับผมเป็นมะเร็งปอดครับ 

มันจะเรียกว่า ระยะสุดท้ายก็ได้ครับ ระยะลุกลาม ระยะที่เรียกได้ว่าไม่สามารถผ่าตัดเอาก้อนออกแล้วก็หายขาดได้อย่างแน่นอนครับ

นพ.กฤตไท เล่าด้วยว่า เขากำลังบรรจุเป็นอาจารย์แพทย์ได้ 2 เดือน ก็ได้ตั๋วเลื่อนขั้นเป็นอาจารย์ใหญ่เฉยเลย ทั้งที่ตนเองมั่นใจในสุขภาพร่างกายตัวเองมาก เข้ายิมสม่ำเสมอ เล่นกีฬา กินอาหารคลีน ไม่สูบบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็น้อยมาก ๆ ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เครียด นอน 4 ทุ่ม ตื่น 6 โมงเช้า อ่านหนังสือ ทำวิจัย สอนนักศึกษา ไม่ได้เข้าเวรอดนอนอะไรเลย การงานอาชีพที่เรียกได้ว่ากำลังไปได้สวย เพิ่งเรียนแพทย์เฉพาะทางจบ พร้อมกับปริญญาโทวิทยาการข้อมูลอีกใบ เพื่อมาทำงานเป็นอาจารย์แพทย์ตามที่ฝันไว้

ภาพ : เพจสู้ดิวะ

ภาพ : เพจสู้ดิวะ

ภาพ : เพจสู้ดิวะ

แล้วผมก็เริ่มไอ ไอมีเสมหะบ้าง ไอแห้งบ้าง ตรวจโควิดแล้วก็ไม่เจอ ตอนนั้นไปรักษาไปทางกรดไหลย้อนก่อน ผ่านไป 2 เดือน ระหว่างนี้ผมสามารถเล่นกีฬาได้ตามปกติ ทำงาน ใช้ชีวิตได้ตามปกติเลยจริง ๆ มีแค่เรื่องไอที่ไม่หายสักที จึงตัดสินใจไปตรวจจริงจัง วันที่ 3 ต.ค.2565 เป็นวันที่ไม่มีตารางงานเลย จึงถือโอกาสไปตรวจสุขภาพ

ชีวิตที่ไม่เหมือนเดิม

ผลเอกซเรย์ บอกผมว่า ชีวิตผมจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ปอดข้างขวาผมเหลืออยู่ครึ่งเดียว ลักษณะเหมือนมีก้อนกับน้ำอยู่ในปอดด้านขวา และปอดด้านซ้ายก็มีก้อนเล็ก ๆ เต็มไปหมด หลังจากผ่านการตรวจทุกอย่างมาแล้ว ทั้งเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อมาตรวจ ตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่สมอง ผลมันก็คือผมเป็นมะเร็งปอดจริง แถมเป็นระยะสุดท้ายด้วย ตัวก้อนหลักขนาดเกือบ 8 ซม. ที่ปอดด้านขวา

นอกจากนี้ ตัวมะเร็งยังมีการกระจายไปที่เยื่อหุ้มปอด และปอดข้างซ้ายอีกหลายจุด ที่สำคัญคือ มันกระจายไปที่สมองถึง 6 ก้อนด้วยกัน แต่ละก้อนก็ใหญ่ซะด้วย โชคดีที่ผมไม่มีอาการทางสมองอะไร ทั้งที่ตำแหน่งที่มันกระจายไป สามารถทำให้ แขนขาอ่อนแรง ชา เดินไม่ตรง ทรงตัวไม่ได้ หรือแม้แต่เสียการมองเห็นไปเลย

อ่านข่าว : "หมอกฤตไท" ตั้งคำถามปัญหาฝุ่น PM2.5 "ต้องซื้ออากาศหายใจจริงๆ เหรอ"

อย่างไรก็ตาม ได้รับการรักษาที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้แล้ว ขอบพระคุณอาจารย์ทุกท่านจากใจจริงครับที่ให้ความช่วยเหลือทั้งการผ่าตัด การได้รับ chemotherapy Immunotherapy และได้รับการฉายแสงที่ศรีษะทันทีที่เจอก้อน ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ยอดเยี่ยมและรวดเร็วแบบนี้อาจจะไม่สามารถมานั่งเขียนสเตตัสนี้แล้วก็ได้ ขอบคุณครับ ขอบคุณจริง ๆ รวมถึงประกันด้วย ผมโชคดีที่ได้ทำประกันสุขภาพโรคร้ายแรงไว้

สำหรับคนที่ยังไม่มีประกันสุขภาพ แนะนำถ้าคนแบบผมเป็นมะเร็งได้ ทุกคนมีโอกาสเป็นได้ โลกเราตอนนี้มันไม่ปกติ ทั้งมลภาวะ อากาศ น้ำ รังสีต่าง ๆ ยีนส์เรามันพร้อมกลายพันธ์

ภาพ : เพจสู้ดิวะ

ภาพ : เพจสู้ดิวะ

ภาพ : เพจสู้ดิวะ

นพ.กฤตไท ระบุอีกว่า ผมจั่วได้การ์ด ที่ชื่อว่า มะเร็งระยะสุดท้าย การ์ดที่ถึงจะไม่อยากได้ แต่ก็มีมันอยู่ในมือ เป็นวันที่ตระหนักว่าจริง ๆ แล้ว มนุษย์เรามันโคตรเปราะบางเลย

เหมือนโลกทั้งใบของเราแตกสลายลงไปต่อหน้าเลย แผนชีวิตที่วางมาทั้งหมด พังลง ต่อหน้าต่อตาเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ตอนที่ได้ chemo หรือได้ยาอะไรเข้าไปแล้วร่างกายจะเป็นยังไง ฉายแสงที่หัวด้วยรังสีเข้มข้น จะเกิดผลข้างเคียงอะไรจะมองเห็นอยู่ไหม จะกินข้าวได้อยู่ไหม จะยังจำทุกคนได้ไหม จะยังเป็นตัวของตัวเองแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน

เวลาจำกัดแค่ไหนเหรอก็อาจจะหลักเดือน 6 เดือน 1 ปี 2 ปี โชคดีก็อาจจะ 5 ปี ซึ่งไม่รู้จริง ๆ ว่าโลกจะให้เวลาเท่าไร ไม่สามารถพยายามอะไรได้เลย ทำได้แค่ภาวนาให้ยาตอบสนอง ให้โรคสงบ ให้ไม่มีผลข้างเคียงอะไรเกิดขึ้น ภาวนา ให้มีชีวิตอยู่อย่างปกติไปได้อีกสักวัน หรืออีกสักเดือน

ภาพ : เพจสู้ดิวะ

ภาพ : เพจสู้ดิวะ

ภาพ : เพจสู้ดิวะ

นอกจากนี้ นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล ตั้งคำถาม ผ่านเพจ สู้ดิวะ ถึงสถานการณ์ ฝุ่น PM 2.5 คือมันเป็นความรับผิดชอบของประชาชนจริงหรือไม่ ที่ต้องแบกรับค่าหน้ากาก ค่าเครื่องฟอก ประชาชนหลายอาชีพเองก็ไม่ได้สะดวกพอที่จะหลีกเลี่ยงฝุ่นอันตรายนี้ ไม่ได้มีเงินมากพอที่จะติดตั้งเครื่องมือที่จะเพิ่มคุณภาพอากาศที่พวกเขาต้องหายใจเข้าไปทุกวันนี้

โดยตอนหนึ่ง หมอกฤตไท ได้บอกว่า ชีวิตในวัย 28 ปี หลังจากผ่านการลงทุนในตัวเองมาอย่างหนักหน่วง ผมได้เริ่มวิ่งตามความฝันอย่างเต็มที่ เดินตามแผนที่วางไว้ได้อย่างงดงามผมกำลังจะแต่งงาน กำลังจะซื้อบ้าน

ทั้งนี้ หมอกฤตไทได้เข้าพิธีแต่งงานกับคุณพีม แฟนสาว เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา

"หมอกฤตไท" อัปเดตอาการล่าสุด

และเมื่อวันที่ 2 พ.ย. คุณหมอกฤตไท ได้โพสต์อัปเดตอาการ ผมคงอยู่ได้อีกไม่นานแล้วครับ ใครมีอะไรอยากพูดอยากบอกผมเชิญได้เลยครับ

ผมน่าจะไปช่วงกลางเดือนหน้าจากนั้นไว้เจอกันใหม่นะครับ ณ ตอนนี้ผมพิมพ์ได้เท่านี้ก็เอาละครับ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างตลอดช่วง 30 ที่ผ่านมาครับ ขอโทษถ้าผมทำให้ใครไม่พอใจครับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

ส่งกำลังใจ "หมอไท" สู้ดิวะ อัปเดตอาการป่วยมะเร็งปอด

เช็กสัญญาณเตือน "มะเร็งปอด" แนะตรวจคัดกรองทุกปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง