ยืนยัน! รัฐบาลนิการากัวสั่งห้าม "เจ้าของสิทธิมิสนิการากัว" กลับประเทศ

ต่างประเทศ
6 ธ.ค. 66
16:14
3,215
Logo Thai PBS
ยืนยัน! รัฐบาลนิการากัวสั่งห้าม "เจ้าของสิทธิมิสนิการากัว" กลับประเทศ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
การรับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สของ เชย์นิส ปาลาซิออส ในฐานะนางงามจักรวาลคนแรกจากนิการากัว และจากอเมริกากลาง ควรเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองของผู้คนในนิการากัว แต่กลับถูกนำไปเชื่อมโยงกับการเมือง อย่างเลี่ยงไม่ได้

เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2566 สำนักข่าว CNN รายงานว่า ตำรวจนิการากัวตั้งข้อหา "คาเรน เซเลเวอร์ติ" เจ้าของสิทธิการประกวดมิสนิการากัว ใน 4 ข้อหา ได้แก่ สมรู้ร่วมคิด ทรยศหักหลัง ฟอกเงิน และเผยแพร่ข่าวปลอม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการโค่นล้มรัฐบาล ความเคลื่อนไหวที่น่าตกใจนี้ เกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์หลังจากชัยชนะครั้งแรกของประเทศในการประกวด Miss Universe 2023 ที่จัดขึ้นที่ประเทศเอลซัลวาดอร์ เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 19 พ.ย.2566 ตามเวลาประเทศไทย   

มิสนิการากัว ขณะเก็บตัวในกองประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2023

มิสนิการากัว ขณะเก็บตัวในกองประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2023

มิสนิการากัว ขณะเก็บตัวในกองประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2023

คาเรน เซเลเบอร์ติ และ สมาชิกครอบครัวอีก 2 คน ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมใน "ปฏิบัติการก่อการร้ายจากความพยายามรัฐประหารที่ล้มเหลว" ในปี 2561 เมื่อชาวนิการากัวประท้วงต่อต้านรัฐบาลของ "ปธน.ดาเนียล ออร์เตกา" ตำรวจกล่าวว่า เซเลเบอร์ติใช้ "เวทีนางงาม" เพื่อเชื่อมโยงกับการเมือง โดยได้รับทุนสนับสนุนจากตัวแทนต่างประเทศ ตำรวจระบุว่า

พบหลักฐานเกี่ยวกับข้อหาสมรู้ร่วมคิดและอื่นๆ ที่ครอบครัวเซเลเวอร์ติกระทำ
ซึ่งพบในโทรศัพท์ของผู้ถูกสั่งห้ามเข้าประเทศ 
คาเรน เซเลเบอร์ติ และ ครอบครัว

คาเรน เซเลเบอร์ติ และ ครอบครัว

คาเรน เซเลเบอร์ติ และ ครอบครัว

สื่อหลายสำนักรายงานตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า "คาเรน เซเลเวอร์ติ" เจ้าของสิทธิการประกวดมิสนิการากัว และลูกสาว ถูกคุมตัวขณะเดินทางถึงสนามบินที่นิการากัว ก่อนจะถูกส่งขึ้นเครื่องไปยังเม็กซิโก และห้ามเข้าประเทศ หลายฝ่ายคาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของฝ่ายค้าน และประชาชนบางส่วนหลังจากที่ ปาลาซิออส ได้รับมงกุฎ

ก่อนหน้าการประกาศผลมีรายงานว่า แดเนียล ออร์เตกา ประธานาธิบดี และ โรซาริโอ มูริลโญ รองประธานาธิบดี และสตรีหมายเลข 1 นิการากัว มีคำสั่งห้าม ปาลาซิออส นางงามจักรวาลเดินทางกลับประเทศ ก่อนที่จะยกเลิกไปในภายหลัง

เชย์นีส ปาลาซิออส ขณะร่วมลงขบวนประท้วงรัฐบาลปี 2018

เชย์นีส ปาลาซิออส ขณะร่วมลงขบวนประท้วงรัฐบาลปี 2018

เชย์นีส ปาลาซิออส ขณะร่วมลงขบวนประท้วงรัฐบาลปี 2018

ภาพมิสยูนิเวิร์สคนล่าสุด ถือธงนิการากัวสีฟ้าขาว ร่วมประท้วงต่อต้านรัฐบาลของออร์เตกาเมื่อปี 2561 และการที่เธอจบการศึกษา จาก Central American University สถาบันที่ถูกรัฐบาลกล่าวหาว่าเป็นศูนย์กลางองค์กรก่อการร้าย ทำให้ปาลาซิออสกลายเป็น "สัญลักษณ์แห่งต่อต้านรัฐบาลออร์เตกา"

โรซาริโอ มูริลโญ รอง ปธน.และสตรีหมายเลข 1 ของนิการากัว ออกมาประณามการออกรวมตัวเฉลิมฉลอง ว่าเป็นความพยายามก่อรัฐประหาร

ในช่วงเวลานี้ เราได้เห็นการใช้ช่องทางการสื่อสาร ที่หยาบคายของกลุ่มก่อการร้าย
รอง ปธน. ระบุถึงประชาชนที่ออกมายินดีกับมงแรกของประเทศว่าเป็นเรื่องหยาบคาย

รอง ปธน. ระบุถึงประชาชนที่ออกมายินดีกับมงแรกของประเทศว่าเป็นเรื่องหยาบคาย

รอง ปธน. ระบุถึงประชาชนที่ออกมายินดีกับมงแรกของประเทศว่าเป็นเรื่องหยาบคาย

ด้านกองประกวดมิสยูนิเวิร์ส แถลงต่อสำนักข่าว AFP เรียกร้องให้รัฐบาลนิการากัว ยืนยันความปลอดภัยของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับกองประกวด

ถ้อยแถลงขององค์กรมิสยูนิเวิร์ส 2023

ถ้อยแถลงขององค์กรมิสยูนิเวิร์ส 2023

ถ้อยแถลงขององค์กรมิสยูนิเวิร์ส 2023

4 ทศวรรษระบอบออร์เตกา-มูริลโญ

"นิการากัว" อยู่ภายใต้การนำของ 2 สามีภรรยา ปธน.ดาเนียล ออร์เตกา และ รอง ปธน.โรซาริโอ มูริลโญ หรือ ระบอบออร์เตกา-มูริลโญ ร่วม 4 ทศวรรษ ตั้งแต่ออร์เตกาล้ม รัฐบาลของตระกูลโซโมซา ที่สหรัฐฯ ให้ความสนับสนุน เมื่อปี 2522 และเป็นไม้เบื่อไม้เมากับรัฐบาลวอชิงตันมาอย่างต่อเนื่อง เหตุปราบปรามผู้ประท้วงอย่างหนัก ในปี 2561 มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 350 คน และมากกว่า 100,000 คนต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ ทำให้องค์กรระหว่างประเทศออกมาประณามรัฐบาลนิการากัวอย่างมาก

คู่รักเผด็จการระบอบ ออร์เตกา-มูริลโญ

คู่รักเผด็จการระบอบ ออร์เตกา-มูริลโญ

คู่รักเผด็จการระบอบ ออร์เตกา-มูริลโญ

หลังการประกาศชื่อ สาวงามจากนิการากัวคว้ามงสำเร็จเป็นคนแรกของประวัติศาสตร์นิการากัวและอเมริกากลาง ชัยชนะของ ปาลาซิออส กลายเป็นการจุดประกายการเฉลิมฉลองในหมู่ชาวนิการากัวที่อาศัยอยู่ภายในประเทศและผู้ที่ถูกเนรเทศ ในเมืองมานากัว ผู้คนมารวมตัวกันบนถนนสายหลัก โบกธงสีน้ำเงินและสีขาว ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลเผด็จการไม่อนุญาตมาตั้งแต่ปี 2561 

เสียงร้องเพลงจากทุกมุมและนอกขอบเขต ท้องถนนมีชีวิตชีวาและมีผู้พบเห็นธงสีน้ำเงิน
และสีขาวโบกสะบัดอย่างไม่เกรงกลัว

การแย่งชิงอำนาจ เพื่อแย่งชิงสิทธิ "มิสนิการากัว"

สื่อท้องถิ่นนิการากัวระบุว่า ท่ามกลางข่าวการสั่งห้าม คาเรน เซเลเบอร์ติ และครอบครัว กลับประเทศ "ซิโอมารา บลันดิโน" ลูกสะใภ้ของออร์เตกาและมูริลโญ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ การคัดเลือกตัวแทนประเทศเข้าชิงมงระดับโลกของ เซเลเบอร์ติ โดยเธอระบุ 1 วันก่อนการประกวดรอบสุดท้ายจะเริ่มขึ้นว่า

ตัวแทนจากนิการากัวควรถูกเปลี่ยนตัว องค์กรมิสนิการากัว เป็นองค์กรที่ค่อนข้างปิดและมีระเบียบที่เข้มงวดเพื่อคัดสรรสาวงามตัวแทนประเทศ เขาไม่ควรให้โอกาสกับคนทั่วไป พวกเขาควรเลือกให้มากกว่านี้ 

บลันดิโน ซึ่งเคยเป็นมิสนิการากัวในปี 2550 ต่อมาเธอแต่งงานกับ "ฮวน คาร์ลอส ออร์เตกา มูริลโล" ลูกชายของ ปธน.และสุภาพสตรีหมายเลข 1 และ เธอยังเป็นเจ้าของสิทธิการประกวดมิสทีน นิการากัว อีกด้วย

ความบาดหมางระหว่าง บลันดิโน กับ เซเลเบอร์ติ ถูกวิจารณ์โดยนักวิจารณ์ เกี่ยวกับระบอบการปกครองของออร์เตกาว่าเป็นความพยายามของรัฐบาลที่จะเข้ายึดครองแฟรนไชส์มิสยูนิเวิร์ส ​​เพื่อเลือกคนที่ตนเองต้องการส่งเข้าประกวด 

ไม่ใช่ครั้งแรกที่การเมืองแทรกแซง "มิสนิการากัว"

ในปี 2522 ปีแรกของคู่รักเผด็จการ พวกเขาขัดขวางไม่ให้ มิสนิการากัว เข้าร่วมการประกวด มิสยูนิเวิร์ส 

"แพทริเซีย ปิเนดา ชามอร์โร" ตัวแทนสาวงามนิการากัวในปีนั้น ต้องเดินทางออกจากซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 1979 (พ.ศ.2522) รอบสุดท้าย เนื่องจากพ่อแม่ของเธอถูกขู่ฆ่า โดยกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลที่ชื่อ ซานดินิสตาส์ ประกาศว่า หาก แพทริเซีย ยังยืนอยู่บนเวทีการประกวด ครอบครัวของพวกเราจะถูกทำร้าย 

ซึ่งในการประกวดครั้งนั้น แพทริเซีย เลือกชุดราตรียาวชุดสีน้ำเงินขาวสำหรับการเดินรอบชุดประจำชาติอีกด้วย และเธอพาตัวเองเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายเป็นคนท้ายๆ แต่เธอกลับเป็นคนแรกที่ต้องเดินออกจากการประกวดเพราะการแทรกแซงจากกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลนิการากัว 

มิสนิการากัว ขณะเก็บตัวในกองประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2023

มิสนิการากัว ขณะเก็บตัวในกองประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2023

มิสนิการากัว ขณะเก็บตัวในกองประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2023

กลับมาที่ เชย์นิส ที่ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าเธออยู่ในรายชื่อคนที่ห้ามเดินทางเข้านิการากัวหรือไม่ และปัจจุบันเธอยังคงอยู่ที่นิวยอร์ก สหรัฐฯ ปฏิบัติหน้าที่มิสยูนิเวิร์ส และทางองค์กรมิสยูนิเวิร์ส ยังไม่มีคำแถลงใดๆ เกี่ยวกับความเหมาะสมของการครองมงกุฎของมิสนิการากัว กับการเมืองในประเทศที่มีรายได้น้อยเป็นอันดับ 2 ของอเมริกากลาง 

ที่ผ่านมา เวทีนางงาม มักถูกนำไปโยงกับการเมืองระหว่างประเทศอย่างเลี่ยงไม่ได้ และนี่อาจจะเป็นอีกครั้งที่ประเด็นการเมือง ทั้งในและระหว่างประเทศ ถูกโยงเข้าไปเกี่ยวข้องกับเวทีประกวดสาวงามอีกครั้ง 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง