ปังไม่หยุด! นิตยสารไทม์ ยกให้ "เทย์เลอร์ สวิฟต์" บุคคลแห่งปี 2023

Logo Thai PBS
ปังไม่หยุด! นิตยสารไทม์ ยกให้ "เทย์เลอร์ สวิฟต์" บุคคลแห่งปี 2023
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ปีนี้เรียกว่าเป็นปีทองของ นักร้องสาวชื่อดังระดับโลก "เทย์เลอร์ สวิฟต์" เมื่อล่าสุดนิตยสารไทม์ ยกย่องเป็น "บุคคลแห่งปี 2023"

วันนี้ (7 ธ.ค.2566) นิตยสารไทม์ ยกย่องให้ "เทย์เลอร์ สวิฟต์" นักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดังระดับโลก เจ้าของรางวัลแกรมมี 12 รางวัล และอเมริกันมิวสิกอวอร์ดอีก 40 รางวัล หลังจากเพิ่งได้รับยกย่องให้เป็นศิลปินที่ถูกสตรีมมากที่สุดบนแพลตฟอร์ม Spotify และผลงานตลอดปีของเธอ โดยเฉพาะคอนเสิร์ต The Eras Tour ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลก

เทย์เลอร์ สวิฟต์ กล่าวหลังได้รับเลือกเป็นบุคคลแห่งปีว่า "รู้สึกภูมิใจและมีความสุขที่สุดเท่าที่เคยมีมา"

นักร้องสาวยังให้สัมภาษณ์กับไทม์ ด้วยว่า คอนเสิร์ต The Eras Tour แต่ละรอบมีความยาว 180 นาที ทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยล้าทางกายอย่างหนัก หลังจากการแสดงจบลง ฉันไม่ลุกจากเตียงเลย นอกจากเพื่อไปหาอาหาร และพามันกลับมาที่เตียงและทานมันที่นั่น นอกจากนี้ฉันแทบพูดไม่ได้ เพราะต้องร้องเพลง 3 โชว์ติดต่อกัน 

สำหรับผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อในปีนี้ มีทั้ง ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน, ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย และยังมีนักแสดงและนักเขียนฮอลลีวูด แต่ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ก็กลายเป็นบุคคลที่คว้ารางวัลนี้ไปครอง

ป๊อปสตาร์-ไอคอนดนตรีโลก

ไทม์บอกว่า ปี 2023 เป็นปีที่น่าทึ่งของสวิฟต์ โดยเฉพาะคอนเสิร์ต The Eras Tour ที่ทำรายได้ประมาณ 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการขายตั๋วในอเมริกาเหนือเพียงอย่างเดียว ตามข้อมูลจากบริษัทวิจัย QuestionPro นอกจากนี้ เมื่อวันพุธที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา StubHub ยังเผยแพร่รายงาน "Year in Live Experiences" ประจำปี 2023 โดยเปิดเผยว่า "The Eras Tour" เป็นการทัวร์ครั้งใหญ่ที่สุด

สวิฟต์ไม่เพียงแต่ครองสนามกีฬาขนาดเท่าซูเปอร์โบวล์เท่านั้น แต่ยังครองโรงภาพยนตร์อีกด้วย เธอมีผลงานภาพยนตร์คอนเสิร์ต "Taylor Swift : The Eras Tour" ซึ่งกวาดรายได้ไปประมาณ 96 ล้านเหรียญสหรัฐ ในบ็อกซ์ออฟฟิศ ของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ทำให้เป็นภาพยนตร์คอนเสิร์ตที่ทำรายได้สูงสุดในประเทศในช่วงสุดสัปดาห์ที่เปิดตัว 

เหนือสิ่งอื่นใดป๊อปสตาร์สาวคนนี้ ยังทำลายสถิติ Spotify ของตัวเธอเอง ด้วยการเป็นศิลปินที่มียอดสตรีมมากที่สุดในวันเดียวในประวัติศาสตร์ของสตรีมเมอร์ ในขณะที่ "1989 (Taylor's Version)" กลายเป็นอัลบั้มที่มียอดสตรีมมากที่สุดของ Spotify ในวันเดียวในปีนี้ 

ไม่เฉพาะ ปี 2023 เท่านั้นที่เป็นปีสุดปังของเธอ ตั้งแต่เริ่มเข้าวงการดนตรี สวิฟต์ คว้ารางวัลการันตีผลงานตัวเองไว้อีกมากมาย เช่น 

เทย์เลอร์ สวิฟต์ ขณะรับรางวัลการันตีฝีมือ

เทย์เลอร์ สวิฟต์ ขณะรับรางวัลการันตีฝีมือ

เทย์เลอร์ สวิฟต์ ขณะรับรางวัลการันตีฝีมือ

  • รางวัลแกรมมี : อัลบั้มแห่งปี Fearless และ 1989
  • รางวัล Best Country Album, Best Pop Vocal Album, Best Music Video 
  • รางวัลเพลงอเมริกัน : American Music Awards หลายรางวัล, ศิลปินหญิงแนวป๊อป/ร็อคแห่งปี, ศิลปินหญิงแนวคันทรียอดนิยม
  • Billboard Music Awards : Top Artist และ Top Female Artist
  • MTV วิดีโอมิวสิกอวอร์ด : รับรางวัล MTV VMA, วิดีโอหญิงยอดเยี่ยม, วิดีโอแห่งปี
  • Brit Awards : รางวัล International Female Solo Artist และ Global Icon awards
  • รางวัลเอ็มมี : "AMEX Unstaged : Taylor Swift Experience"
  • รางวัลการแต่งเพลง: ได้รางวัลจาก Nashville Songwriters Association และ Songwriters Hall of Fame
  • รางวัลด้านมนุษยธรรม: รางวัล Ripple of Hope Award จากศูนย์ความยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนของโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี

เส้นทาง ป๊อปสตาร์-ไอคอนดนตรีโลก

เทย์เลอร์ อลิสัน สวิฟต์ เกิดเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.1989 ในเมืองเรดดิง รัฐเพนซิลวาเนีย เธอเข้าสู่วงการดนตรีตั้งแต่อายุ 14 ปี โดยเริ่มแสดงในงานเทศกาลท้องถิ่น เมื่ออายุ 16 ปี เธอได้เซ็นสัญญาเพลงครั้งแรก และนั่นคือจุดเริ่มต้นอาชีพและการเดินทางที่ไม่ธรรมดาของเธอ

รางวัลบุคคลแห่งปี 2023 น่าจะเป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดของปีที่ 34 ในชีวิตเทย์เลอร์ สวิฟต์

เริ่มแรกเธอเป็นศิลปินแนวเพลงคันทรี หรือ แนวเพลงลูกทุ่งของอเมริกา แต่พอปี 2014 ก็เปลี่ยนมาทำเพลงป๊อป และเปิดตัวด้วยอัลบั้ม "1989" มีซิงเกิลฮิตอย่าง "Shake It Off" และ "Blank Space" ที่ทำให้เธอโด่งดังไปทั่วโลกและยังมีอีกหลายซิงเกิลที่ติดชาร์ตอันดับ 1 ในสหรัฐฯ และทั่วโลก อาทิ You Belong with Me, Love Story, Mean, We Are Never Ever Getting Back Together, I knew You Were Trouble, Bad Blood เป็นต้น

เหล่าสวิฟตี้ หรือผู้ที่ชื่นชอบในตัว สวิฟต์ จะคุ้นเคยกับ การเป็นคนยิ้มง่าย มีอารมณ์ขัน เข้าถึงง่าย คุยเก่ง ของศิลปินสาวผู้นี้ ส่วนหนึ่งมาจากการชื่นชมผลงานและทักษะการแต่งเพลง ที่สร้างสรรค์เนื้อเพลงที่จริงใจและโดนใจแฟนๆ ทุกวัย มักเป็นที่รู้กันว่า สวิฟต์มักใช้เรื่องราวความรักที่ไม่สมหวังของเธอมาเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนเพลง เช่น 

  • Love Story และ Forever and always : มาจากเรื่องราวความรักของ เทย์เลอร์ และ โจ โจนัส ศิลปินหนุ่มจากวง Jonas Brothers ซึ่งต้องเลิกรากันไป สาเหตุจากพ่อของฝ่ายสาวไม่ถูกใจฝ่ายชาย 
    โจ โจนัส ศิลปินหนุ่มจากวง Jonas Brothers

    โจ โจนัส ศิลปินหนุ่มจากวง Jonas Brothers

    โจ โจนัส ศิลปินหนุ่มจากวง Jonas Brothers


    That you were Romeo, you were throwin' pebble. And my daddy said, "Stay away from Juliet" And I was cryin' on the staircase Beggin' you, "Please don't go ... 
  • Back to December : เรื่องราวความสัมพันธ์ของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ และ นักแสดงหนุ่ม เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์ มีรายละเอียดที่พูดถึงเลาต์เนอร์อย่างเช่นท่อน "I miss your tan skin" และ เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์ ก็ออกมาคอนเฟิร์มว่า เพลงนี้เป็นเรื่องราวของเขาเอง 
    เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์ นักแสดงหนุ่มผู้เคยเป็นคนรักของ สวิฟต์

    เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์ นักแสดงหนุ่มผู้เคยเป็นคนรักของ สวิฟต์

    เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์ นักแสดงหนุ่มผู้เคยเป็นคนรักของ สวิฟต์



  • We are never ever getting back together : ด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับความชอบเพลงอินดี้ของชายหนุ่มในเนื้อเพลง และ พร็อปหลายชิ้นของมิวสิก วิดีโอ หลายคนมองว่าเพลงนี้ถูกเขียนขึ้นให้ เจค จิลเลนฮาล นักแสดงหนุ่มรุ่นพี่ผู้เคยเป็นคนรักของ สวิฟต์ และยังถือว่าเป็นเพลงเปลี่ยนชีวิต สวิฟต์ อีกด้วยเพราะเป็นเพลงแรกของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่ได้ขึ้นอันดับ 1 ชาร์ตบิลบอร์ด ฮอต 100 
    เจค จิลเลนฮาล นักแสดงหนุ่มรุ่นพี่ผู้เคยเป็นคนรักของ สวิฟต์

    เจค จิลเลนฮาล นักแสดงหนุ่มรุ่นพี่ผู้เคยเป็นคนรักของ สวิฟต์

    เจค จิลเลนฮาล นักแสดงหนุ่มรุ่นพี่ผู้เคยเป็นคนรักของ สวิฟต์

Taylor Swift Economy

เป็นคำใหม่ที่นิยมพูดกันมาในช่วงปี 2023 เมื่อ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ไปจัดทัวร์คอนเสิร์ต นอกจากจะมีแฟนๆ ทั่วโลก รอจองบัตรคอนเสิร์ตที่ขายเกลี้ยงภายในไม่กี่วินาที เธอยังทำให้เศรษฐกิจโดยรอบคึกคักขึ้นมากตั้งแต่ธุรกิจโรงแรม การบิน หรือ เศรษฐกิจท้องถิ่น 

Bloomberg ระบุว่า บนถนนสายดนตรีเกือบ 2 ทศวรรษส่งให้ "เทย์เลอร์ สวิฟต์" กลายเป็น "มหาเศรษฐีพันล้าน" หรือ Billionair ที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกันเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็น 1 ในศิลปินไม่กี่คน ที่สร้างรายได้มหาศาลจากการทำงานเพลงเพียงอย่างเดียว Bloomberg Economics ประมาณการเม็ดเงินจากการแสดงคอนเสิร์ตของสวิฟต์กว่า 53 ครั้งในสหรัฐฯ ในปีนี้ว่า มีมูลค่าเทียบเท่า GDP ของประเทศขนาดเล็กเลยทีเดียว 

ระบบเศรษฐกิจ Taylor Swift Economy

ระบบเศรษฐกิจ Taylor Swift Economy

ระบบเศรษฐกิจ Taylor Swift Economy

ที่มา BBC, CNN, Bloomberg

อ่านข่าวอื่น ๆ

เมื่อ "เทย์เลอร์ สวิฟต์" คือผู้สะท้อน การเมือง เศรษฐกิจ สังคม

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง