สัตวแพทย์ชันสูตร "พลายเดือน" พบระบบทางเดินอาหารผิดปกติ

Logo Thai PBS
สัตวแพทย์ชันสูตร "พลายเดือน" พบระบบทางเดินอาหารผิดปกติ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สัตวแพทย์พิสูจน์ซากลูกช้างป่า "พลายเดือน" พบระบบทางเดินอาหารผิดปกติ อักเสบ มีจุดเลือดออกทั้งภายใน-ภายนอกทางเดินอาหาร แต่ยังไม่ระบุสาเหตุที่ทำให้ลูกช้างป่าตาย เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อส่งตรวจเพิ่ม

วันนี้ (7 ธ.ค.2566) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยผลการชันสูตรซากลูกช้างป่า "พลายเดือน" หลังทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ได้รักษาและอนุบาลลูกช้างป่าอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. ซึ่งลูกช่างป่ามีอาการขาหลังหักทั้ง 2 ข้าง ร่วมกับมีอาการท้องเสียหลังเข้าเฝือก ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา

กระทั่งวันที่ 6 ธ.ค. ลูกช้างเริ่มหายใจช้าลง มีภาวะหัวใจหยุดเต้น สัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ได้ทำ CPR เพื่อกระตุ้นการหายใจ ลูกช้างป่าไม่มีการตอบสนองต่อการช่วยชีวิตและตายในเวลาต่อมา

ทีมสัตวแพทย์พิสูจน์ซากลูกช้างเพื่อหาสาเหตุการตาย เริ่มจากเอ็กซเรย์ขาหลังทั้ง 2 ข้างที่รักษาด้วยการเข้าเฝือกมานานเกือบ 1 เดือน ก่อนผ่าพิสูจน์อวัยวะต่างๆ ในร่างกายอย่างละเอียด

ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

การผ่าชันสูตรซากพบความผิดปกติ โดยพบว่าผิวหนังลำตัวไม่พบร่องรอยบาดแผลหรือได้รับบาดเจ็บใดๆ พบรูที่สะดือมีก้อนหนองอยู่ภายใน ขาหนีบขาหลังมีแผลกดทับและแผลฉีกขาดถึงระดับกล้ามเนื้อ ภายในช่องปากและลิ้นมีสีปกติ เยื่อบุตามีสีแดง ปอดมีการคั่งของเลือด เนื้อปอดมีสีแดง หัวใจมีการบวมน้ำของผนังเยื่อหุ้มหัวใจ ตับมีลักษณะบวม (ขอบตับมน) มีการคั่งของเลือด ม้ามพบจุดจ้ำเลือด ไตเยื่อหุ้มไตลอกออกยาก ลำไส้มีการบวมน้ำเล็กน้อย

นอกจากนี้ยังพบการอักเสบเกือบตลอดทางเดินอาหาร มีจุดเลือดออกทั้งภายในและภายนอกทางเดินอาหาร ไม่มีน้ำในช่องท้อง กล้ามเนื้อขาลีบ พบถุงหนองบริเวณจุดที่หักของกระดูกขาข้างซ้าย พบก้อนหนองบริเวณจุดที่หักของกระดูกขาข้างขวา พื้นเท้าขาหลังเปื่อยทั้ง 2 ข้าง เมื่อเปิดผ่าด้านในพบการอักเสบของกล้ามเนื้อ

ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ทั้งนี้ สัตวแพทย์ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุที่ทำให้ลูกช้างป่าตายได้อย่างชัดเจน จึงเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อของอวัยวะส่วนต่างๆ กลับไปตรวจพิสูจน์ที่ห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แน่ชัด เนื่องจากซากลูกช้างป่าไม่สามารถเก็บรักษาไว้ได้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ทำพิธีทางศาสนาก่อนฝังกลบซากลูกช้างป่า พร้อมทั้งโรยปูนขาวเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรค

สำหรับ "พลายเดือน" เป็นลูกช้างป่าเพศผู้ พลัดหลงจากโขลง ซึ่งชาวบ้านพบที่ไร่มันสำปะหลังท้ายหมู่บ้านตลิ่งชัน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นทีมสัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติฯ ตรวจพบว่าขาหลังได้รับบาดเจ็บกระดูกหักทั้ง 2 ข้าง จนต้องนำตัวไปรักษาที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทับลาน ที่ ทล.08 (ตลิ่งชัน) เป็นเวลาเกือบ 1 เดือน โดยมีทีมสัตว์แพทย์ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน และกลุ่มจิตอาสา ช่วยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สุดยื้อ "เดือน" ลูกช้างป่าใจสู้ ทับลาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง