จับข้าราชการ ซี 7 ร่วมลูกสาว-ลูกเขย ทำเอกสารทิพย์เบิกงบฯ เสียหาย 28 ล้าน

อาชญากรรม
7 ธ.ค. 66
13:05
8,674
Logo Thai PBS
จับข้าราชการ ซี 7 ร่วมลูกสาว-ลูกเขย ทำเอกสารทิพย์เบิกงบฯ เสียหาย 28 ล้าน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ป.ป.ท.บุกจับข้าราชการ ซี 7 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อม ลูกสาว-ลูกเขย ร่วมกันทำเอกสารทิพย์ เบิกงบประมาณ เสียหาย 28 ล้านบาท

วันนี้ (7 ธ.ค.2566) เจ้าหน้าที่ ปปป. ,ป.ป.ช. , ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในสถาบันชีววิทยาทางการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อจับกุม นักวิชาการพัสดุ C7 หลังได้รับการร้องเรียน ว่ามีเจ้าหน้าที่มีพฤติกรรมทุจริตในการปลอมแปลงเอกสารเบิกจ่ายงบประมาณจัดซื้อจัดจ้าง

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ปปป. พบว่าผู้ต้องหากระทำผิดตามข้อร้องเรียน และมีลูกสาว และลูกเขย ร่วมกระทำผิดด้วย โดยเจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 รวม 3 คน ในข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่ง โดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐฯ ตาม ป.อาญา ม.141 ,157

พร้อมหมายค้นพื้นที่เป้าหมาย รวม 6 จุด ใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย จ.นนทบุรี ,สมุทรปราการ ,กรุงเทพฯ และ อยุธยา จากการตรวจค้นพบทรัพย์สินและเอกสารเบิกจ่ายทิพย์จำนวนมาก

จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ตั้งแต่ 1 ม.ค.2566 จนถึงปัจจุบัน พบความเสียหายกว่า 4,000,000 บาท

ด้านอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้สั่งตรวจสอบย้อนหลัง 3 ปี พบความเสียหายรวม 28 ล้านบาท

นายภูมิวิศาล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า เบื้องต้น ผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในตำแหน่งดังกล่าวกว่า 30 ปี ได้มีการวางแผนนำลูกสาวเข้ามารับราชการอีกตำแหน่งหนึ่งในองค์กรเดียวกัน เพื่อรองรับการเบิกจ่าย โดยจะมีลูกเขย ตั้งบริษัทเอกชน เพื่อทำหน้าที่จัดหาวัสดุตามใบเบิกจ่าย โดยนางจรรยา จะสร้างเอกสารเท็จขึ้นมา และปลอมลายมือชื่อผู้ตรวจรับพัสดุ

จากนั้นจะส่งให้ไปฝ่ายที่ลูกสาวทำงานรับช่วงต่อ ซึ่งขบวนการนี้ไม่มีบุคคลอื่นในองค์กรเกี่ยวข้อง โดยทำในรูปแบบของครอบครัว ซึ่งพบว่าทำมานานกว่า 3 ปี มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท

จากการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย พบทรัพย์สินเป็นอสังหาริมทรัพย์รวม 11 แปลง ,เงินสด 5,000,000 บาท ,รถจักรยานยนต์ 1 คัน และรถยนต์ 1 คัน เจ้าหน้าที่จึงทำการยึดอายัดเพื่อตรวจสอบว่าเป็นทรัพย์สินที่กระทำความผิดเกี่ยวเนื่องกันหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงิน และตรวจสอบการเบิกย้อนหลัง 5 ปี พร้อมทั้งขยายผลผู้ร่วมขบวนการ หากพบมีผู้กระทำความผิด จะลงโทษโดยไม่ละเว้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คาดว่า ความเสียหายต่อรัฐฯ จากการกระทำของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน อาจจะสูงกว่า 40 ล้านบาท

อ่านข่าวอื่น ๆ : 

DSI ค้นห้องเย็น จ.นครปฐม พบโอน 220 ล้านให้ผู้ต้องหาคดีหมูเถื่อน

ผบ.ตร.สั่งจับแก๊งทวงหนี้บุกพังร้านส้มตำ เหตุไม่พอใจลูกหนี้ลงทะเบียนแก้หนี้

ผู้ช่วยเลขาฯ สภาผู้บริโภค ระบุรถทัวร์ชน อาจเกิดจากสภาพรถ-สภาพแวดล้อม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง