เปิดหลักฐาน "เส้นผม" น้องชมพู่ มีรอยตัดตรงกับบนเขา-รถลุงพล

ความคืบหน้ากรณีศาลจังหวัดมุกดาหาร มีคำพิพากษาจำคุก นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล จำเลยคดีน้องชมพู่จำคุก 20 ปีและได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว 

วันนี้ (21 ธ.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนามัย วงศ์ศรีชา และนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา พ่อและแม่น้องชมพู่ พร้อมกับทนายความ  และพ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รองผบก.ป.บช.ก. ตำรวจผู้ทำคดีน้องชมพู่ มาร่วมรายการโหนกระแส ของนายกรรชัย กำเนิดพลอย

นางสาวิตรี กล่าวว่า ดีใจและหวังว่าความยุติธรรมมีจริง อะไรที่ซ่อนอยู่และคนภายอกประณามเรา วยอมรับว่าวันแรกที่ฝากลุงพลมาผ่าพิสูจน์ และไม่ได้สงสัยในช่วงแรก แต่ไปพาดพิงบุคคลอื่นใกล้บ้านหลังจากมาออกรายการ ทำให้ตำหนิลุงพล

แต่รู้สึกว่าลุงโกรธมากมาเก็บของที่มาร่วมใช้พิธีงานน้อง มองว่าไม่สมเหตุสมผล ทำไมถึงไม่ให้เกียรติผู้ตายและเคืองใจในตอนนั้น และสิ่งเริ่มสงสัยว่าคนใกล้ชิด และพูดทำนองว่าน้องยังมีใจอาฆาต 

นอกจากนี้ยังมีคำถามว่ามีใครที่อุ้มน้องชมพู่ได้บ้าง ซึ่งน้องชมพู่ จะไม่ค่อยให้แตะตัวได้ แม้แต่ตา ยาย 

เทียบเส้นผมในคดีน้องชมพู่ (ภาพจากรายการโหนกระแส)

ถอดรหัสผม 1 เส้นไขคดีน้องชมพู่

ขณะที่หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ถูกถามคือหลักฐาน "เส้นผม" ของน้องชมพู่ ซึ่งตำรวจพบเส้นผมน้องชมพู่ ตกอยู่ใกล้ๆ กับศพ จำนวนหลายเส้น และมีเพียง 1 เส้นที่พบบนรถของลุงพล และถือเป็นหลักฐานสำคัญในคดีที่ทำให้นายไชย์พล  ถูกตัดสินจำคุก 20 ปีใน 2 ข้อหา 

พ.ต.อ.เผด็จ อธิบายถึงเส้นผมที่เป็นหลักฐานในคดีดังกล่าวว่า เชื่อว่าคนที่ทำอาจมีความเชื่อทางไสยศาสตร์ มีการตัดไปกระจุกหนึ่ง ซึ่งตำรวจได้เก็บผมที่พบบนภูเขามาได้ 50 เส้น พบมีรอยตัดจากการใช้มีด วิธีการเขาใช้การสับ ครั้งแรกไม่ขาด จึงต้องสับ และสิ่งนี้เป็นเอกลักษณ์

ทั้งนี้ ผมคนหลุดร่วงได้ แต่ไปพบในรถของนายไชย์พล ซึ่งตามที่ศาลแถลงมี 16 เส้น มีทั้งที่หลุดร่วงตามธรรมชาติ ที่มีรอยมีดตัด และพบรอยที่ถูกตัดตรงกันพบว่าเส้นผมบนร ถและบนเขาและถูกตัดในครั้งเดียวกันก้วยอาวุธเดียวกัน

ตรวจจากรอยตัด ใช้การตรวจจุลทรรศก์กำลังสูง จนได้ภาพเส้นผม โดยนำทั้งหมดไปตรวจสอบ ผมไม่ได้เป็นเส้นเดียวกัน แต่มีรอยตีดเหมือนกัน แต่ตำรวจพิสูจน์จากสภาพ ร่องรอย และวัตถุที่ใช้ในการตัด ซึ่งตรงกัน ตำรวจเลยเชื่อว่าเส้นผมที่พบในรถเป็นเส้นที่ถูกตัดจากบนเขา

พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป. บช.ก. (ภาพจากรายการโหนกระแส)

เปิดรายวิจัยเส้นผมคดีน้องชมพู่

สอดคล้องกับข้อมูลอของเพจ Drama-addict  ระบุโดยอ้างรายงาน งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยในคดีน้องชมพู่ โดยทางตำรวจสอบสวนกลางและมีการเผยแพร่งานวิจัยนี้ลงวารสารนิติเวชที่สหรัฐอเมริกา

เป้าหมายคือ การศึกษาสภาพเส้นผมในที่เกิดเหตุ ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด (SEM) เพื่อศึกษาว่าสามารถใช้เส้นผมในที่เกิดเหตุ ซึ่งถูกตัดด้วยของมีคม ในการยืนยันว่าเส้นผมเหล่านั้นเป็นของบุคคลคนเดียวกันได้หรือไม่

อ่านข่าว "ผู้การแต้ม" ฟันธง "ลุงพล" ถูกมัดด้วยเส้นผม "น้องชมพู่"

การวิจัยใช้ นำเส้นผม (ซึ่งเลือกเส้นผมที่มีขนาดและความยืดหยุ่นใกล้เคียงกับเคสน้องชมพู่) มาตัดด้วยของมีคมพร้อมๆ กันแล้วใช้ SEM ส่องเทียบดู
ซึ่งเมื่อนำ ไปส่องดูพบว่า รอยตัดเส้นผมจากมีด จะมีเอกลักษณ์ คือ ตรงกลางมันจะเรียบ แต่ขอบมันจะบิ่นเล็กน้อย เพราะเส้นผมมันจะยืดออกเล็กน้อยเวลาถูกตัดเพราะ elasticity ของเส้นผม

พบว่าเส้นผมที่ถูกตัดออกมาในเวลาเดียวกัน ด้วยของมีคมชนิดเดียวกัน เมื่อนำมาเทียบองศาของรอยตัด รอยบิ่น สภาพองศาของแต่ละชั้นของเส้นผมที่ถูกตัดออก มันตรงกันแทบทุกกระเบียดนิ้ว

จึงสรุปว่า เป็นไปได้ที่จะใช้เส้นผมที่ถูกตัดด้วยของมีคม ที่พบคนละตำแหน่ง มาเทียบกันว่าเป็นเส้นผมของคนๆเดียวกัน ที่ถูกตัดด้วยของมีคมชนิดเดียวกัน ณ เวลาเดียวกัน ถ้าเทียบแล้วองศาของรอยตัดเมื่อส่องด้วย SEM ตรงกันทุกกระเบียดนิ้ว เช่นนี้

ในงานวิจัยนี้ ไม่มีการเผยแพร่ข้อมูลของคดีน้องชมพู่ เป็นเคสจำลองที่เอาเส้น ผมมาทดลอง แล้วทำผลไปใช้กับคดีน้องชมพู่อีกที ส่วนรายละเอียดองศาของเส้นผมน้องชมพู่ อยู่ในสำนวน ต้องรอดูคำพิพากษาตัวเต็ม
รายละเอียดงานวิจัย  https://thescipub.com/abst.../10.3844/ajassp.2021.199.206..

อ่านข่าว

ศาลให้ประกัน "ลุงพล" 780,000 บาท-อุทธรณ์ภายใน 30 วัน

หน้าตัดเส้นผม "น้องชมพู่" กุญแจไขคดีฆาตกรรม มัด "ลุงพล"