วันนี้ (21 ธ.ค.2566) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข เปิดตัวแคมเปญ 3 D “Drink Don’t Drive” ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ ว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 (29 ธ.ค.2565 – 4 ม.ค.2566) ที่ผ่านมา สถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 7 วันอันตราย มีจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุถึง 2,440 ครั้ง จำนวนผู้บาดเจ็บ 2,437 คน และผู้เสียชีวิต 317 คน ที่น่าตกใจ คือ ในจำนวนคดีที่เกิดอุบัติเหตุมากกว่า ร้อยละ 96 หรือประมาณ 8,567 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา
ทั้งนี้ในเทศกาลปีใหม่ มีการใช้รถใช้ถนนจำนวนมากและพบว่า มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูง อีกทั้งปีนี้รัฐบาลมีนโยบายขยายเวลาปิดผับตี 4 ในพื้นที่นำร่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะวันที่ 31 ธ.ค.2566 เป็นวันเคาท์ดาวน์ เปิดให้ดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึง 6 โมงเช้า โอกาสเกิดอุบัติเหตุก็จะมีมากขึ้น จึงมีมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุ โดยให้อสม.ทำงานร่วมกับหน่วยงานปกครองในการตั้งด่านสกัดคนเมา
ส่วนการตั้งเป้าลดอุบัติเหตุให้ได้ร้อยละ 5 จากสถิติปี 2566 นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ ต้องมีความรับผิดชอบ ซึ่งในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา หรือเกาหลีจะเข้มข้นมาก หากมีการดื่มแล้วขับถึงขั้นให้ออกจากราชการแต่ของไทยไม่ถึงขั้นนั้น และไม่มีการนำร่องว่าจะมีการลงโทษทางวินัย หรือลงโทษอย่างอื่นเพิ่มเติม
นพ.โอภาส กล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานและโรงพยาบาลในสังกัดเตรียมความพร้อม สนับสนุนการทำงานของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ทั้งส่วนกลางและจังหวัด เป็นศูนย์ประสานและสนับสนุนการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เตรียมความพร้อมศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ ทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทั้งภาครัฐและเครือข่ายเอกชนทุกระดับ หน่วยปฏิบัติการทางอากาศ ทางเรือ จัดหน่วยกู้ชีพประจำเส้นทางถนนสายหลักที่มีจุดตรวจ/ จุดบริการอยู่ห่างกันมาก กรณีบาดเจ็บ/เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต สามารถรับบริการที่โรงพยาบาลใกล้ที่สุด โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายภายใน 72 ชั่วโมงแรก ตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สสจ.เพชรบุรี แจงปมสาว 25 ปีเสียชีวิตหลังถอนฟัน เหตุป่วยมะเร็ง
พ.ต.ต.วีรพัฒน์ ศิวะแพทย์ รองผบช.สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ
พ.ต.ต.วีรพัฒน์ ศิวะแพทย์ รองผบช.สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ
พ.ต.ต.วีรพัฒน์ ศิวะแพทย์ รองผบช.สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกล่าวว่า ขณะนี้มีการเตรียมพร้อมเครื่องมือต่าง ๆ เช่นเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ การประสานผู้นำชุมชน อสม. และฝ่ายสาธารณสุขทำงานร่วมกัน และตรวจจุดเสี่ยง สถานที่เสี่ยง บุคคลเสี่ยงเรื่องเมาแล้วขับ โดยจะให้ผู้นำชุมชนไปตักเตือน
ทั้งนี้มีการเพิ่มโทษกรณีเมาแล้วขับ หากทำผิดซ้ำ จะเสนอ อัยการเพื่อฟ้องต่อศาลเพิ่มโทษ กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือต่ำกว่า 20 ปี เมาแล้วขับขยายผลเอาผิดไปที่ร้านค้าด้วย ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ข้อหาดำเนินการชักจูงให้เด็กดื่มสุรา นอกจากนี้ยังจัดชุดสายตรวจออกตรวจที่รพ.เป็นระยะ ๆ เพื่อป้องกันการก่อเหตุความรุนแรงในรพ.