โยก “บิ๊กรอย” เป็นเลขาฯ สมช. นับหนึ่ง “เกมกระชับอำนาจ” ของเพื่อไทย

การเมือง
5 ม.ค. 67
15:53
430
Logo Thai PBS
โยก “บิ๊กรอย” เป็นเลขาฯ สมช. นับหนึ่ง “เกมกระชับอำนาจ” ของเพื่อไทย
มีความพยายามจากฝ่ายการเมือง ต้องการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสอันดับ 1 ข้ามห้วยไปนั่ง “เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ” หรือสมช. มาก่อนหน้านี้

เพื่อเปิดทางสะดวกให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะกฎหมายใหม่ของตำรวจ ให้พิจารณาจากอาวุโสเป็นหลัก

กระทั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ชนะคดีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนสี จากตำแหน่งเลขาธิการ สมช. และเพิกถอนหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2566

เรื่องขยับ พล.ต.อ.รอยไปเป็นเลขาธิการ สมช.จึงกลับมาอีกครั้ง และเป็นจริงมากชัดเจน เมื่อ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ออกมาพูดย้ำเรื่องนี้

เพราะ พล.ต.อ.รอย จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.2567 ที่จะถึงนี้อยู่แล้ว การไปนั่งเป็นเบอร์หนึ่งในสมช. น่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับตัวเอง และวงศ์ตระกูลมากกว่า

เพียงแต่นัยที่มีการวิเคราะห์และพูดกันวงใน คือเป็นการเปิด “หลุมตำรวจ” ในการขยับผู้ช่วยผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข นรต.39 ขึ้นเป็นรอง ผบ.ตร. จ่อคิวขึ้น ผบ.ตร.คนใหม่ ต่อจาก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ที่จะเกษียณอายุเดือนกันยายน 2567 เช่นกัน

สำหรับ พล.ต.ท.ประจวบ ปัจจุบันก็แทบจะเป็นเงาติดตาม ผบ.ตร.ในภารกิจสำคัญ ๆ อยู่แล้ว และถูกมองว่าเป็นนายตำรวจที่ได้แรงส่งสนับสนุนจากฝ่ายการเมือง พรรคเพื่อไทย โดยระดับผู้มีอำนาจตัวจริงเสียงจริงด้วย

เพราะในวันที่ 22 ส.ค.2566 ที่นายทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับประเทศไทย นายตำรวจที่ทำหน้าที่ประสานและรับตัวนายทักษิณ ตั้งแต่ดอนเมือง ไปศาล และเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ก็คือ พล.ต.ท.ประจวบ คนนี้

ทั้งยังเป็นคนเปิดเผยกับสื่อ ถึงเรื่องโรคประจำตัวของทักษิณ ว่ามีหลายโรค เช่น โรคหัวใจและโรคปอด ซึ่งหากกรมราชทัณฑ์มีความประสงค์ จะส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ตำรวจ ก็มีความพร้อม เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เครื่องมือและบุคลากรทางการแพทย์ครบครัน

หากเป็นไปตามโผนี้ เท่ากับว่า พล.ต.ท.ประจวบ จะปาดหน้าไปนั่งเก้าอี้เบอร์ 1 แวดวงตำรวจ แซง “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.อีกคน เหมือนกับที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เคยแซงปาดหน้ามาแล้ว

แต่ทั้งนี้ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับรัฐบาลและฝ่ายการเมือง ที่จะเลือกคนที่ไว้วางใจ ไปทำหน้าที่สำคัญในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ซึ่งเป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือสตช. ในรัฐบาลชุดที่ผ่านๆ มา ก็จะใช้เกณฑ์ลักษณะนี้ไม่ต่างกัน

การจัดวางคนหรือที่เรียกเป็นศัพท์เฉพาะว่า “การกระชับอำนาจ” อย่างไรก็ต้องเกิดขึ้น หลังจากพรรคเพื่อไทย กลับมามีอำนาจทางการเมืองอีกครั้ง

และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา คนในระบอบทักษิณถูกจับวางไว้ ถูกสับเปลี่ยนในองค์กรต่าง ๆ จนไม่มีเหลือ ต้องเริ่มต้นจัดวางกันใหม่

หน่วยงานหนึ่งที่ถูกจับตาเป็นพิเศษขณะนี้ คือกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ที่ถือเป็นอาวุธลับอย่างหนึ่งของฝ่ายการเมือง เพราะมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ โดยตำแหน่งอยู่แล้ว

ตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอยังว่างอยู่ หลังอธิบดีคนก่อนโดนพิษ “หมูเถื่อน” ถูกโยกออกไป ส่วนรักษาการและคนจ่อคิวรออยู่ขณะนี้ คือ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ ที่เคยรับผิดชอบคดีคนเสื้อแดง 99 ศพ คดีทุจริตโกงหุ้น สตาร์ค (STARK) มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท และเป็นผู้ดูแลคดีหมูเถื่อน 161 ตู้

ที่สำคัญยังเคยเป็นหน้าห้อง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เมื่อครั้งเป็นอธิบดีดีเอสไอ หากฝ่ายการเมืองไม่มีตัวเลือกอื่น น่าจะขยับขึ้นเป็นอธิบดีดีเอสไอเต็มตัว

ส่วนที่สมช. ซึ่ง พล.ต.อ.รอย จะเข้าไปเป็นเลขาฯ คนใหม่ ก็มีการขยับนายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการ สมช.ที่อาวุโสระดับต้นๆ ไปเป็นหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นพลเรือนคนแรกในรอบสิบปี ที่ได้ตำแหน่งนี้ มีนัยว่าเป็นการทดแทนที่ไม่ได้นั่งเก้าอี้เบอร์ 1 ในสมช.

ก่อนหน้านี้ เก้าอี้สำคัญในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ คือ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือเลขาฯ ศอ.บต. ได้มีการโยก พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ จากอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม ไปนั่งอยู่ก่อนแล้ว

พ.ต.ท.วรรณพงษ์ เป็นบุตรชายของ พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรักษ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และอดีตผู้บังคับการปราบปราม ซึ่งเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในขณะนี้

และขอโอนมาอยู่กรมสอบสวนคดีพิเศษพร้อมกัน ก่อนที่ในปี 2554 พ.ต.อ.ทวี จะได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการ ศอ.บต. คนที่ 2 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ นั่งอยู่ในปัจจุบัน

เป็นการจัดวางและกระชับอำนาจไปในตัวพร้อม ๆ กันของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย หลังจากพ้นอำนาจทางการเมืองมายาวนานถึง 9 ปี

อ่านข่าว

นายกฯย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญประมูล e-bidding โปร่งใส

วิปรัฐบาลมั่นใจโหวตงบฯ เสียงไม่แตก ตั้ง กมธ.คืนนี้ คาดทูลเกล้าฯ 17 ม.ค.

เงินเฟ้อไทยลดต่อเนื่อง 3 เดือน อานิสงส์ "พลังงาน-ค่าครองชีพ"ต่ำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง