ส่ง “รอย อิงคโรจน์” สู่ สมช. ดัน “ประจวบ วงศ์สุข” ชิง ผบ.ตร.คนใหม่

อาชญากรรม
8 ม.ค. 67
19:01
23,816
Logo Thai PBS
ส่ง “รอย อิงคโรจน์” สู่ สมช. ดัน “ประจวบ วงศ์สุข” ชิง ผบ.ตร.คนใหม่
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

จัดทัพลงตัวครบทุกตำแหน่ง หลังจากยื้อมานาน ในที่สุด ช่องทางก็เปิดให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานบอร์ดสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ขอโอนรับ “บิ๊กรอย” พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ให้ดำรงตำแหน่งเลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างดำเนินการทางเอกสารของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อทำหนังสือตอบรับไปยัง สมช.

พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ว่าที่เลขาฯสมช.คนใหม่

พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ว่าที่เลขาฯสมช.คนใหม่

พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ว่าที่เลขาฯสมช.คนใหม่

“บิ๊กรอย” หรือ พล.ต.อ.รอย เกิดวันที่ 6 สิงหาคม 2507 แม้จะมีลำดับอาวุโสอันดับ 1 ในตำแหน่งรอง ผบ.ตร. ที่เป็นคู่ชิงของ “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เมื่อปลายปีที่แล้ว โดยบิ๊กต่อได้ได้นั่งแท่นเจ้ากรมปทุมวันไปที่สุด

ขณะที่ “บิ๊กรอย”พล.ต.อ.รอย ได้เก้าอี้เลขา สมช. ปลอบแทน ในตำแหน่งทางราชการถือว่า “ไม่ขี้เหร่และไม่ธรรมดา” เทียบเท่ากับข้าราชการระดับ 11 หรือตำแหน่งปลัดกระทรวง แม้จะมีวาระรับราชการอีกเพียงอีก 1 ปี และครบอายุเกษียณอายุราชการในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 นี้

การที่ข้าราชการะดับสูง หรือข้าราชการประจำถูกโยกข้ามห้วยให้ไปรับตำแหน่งอื่น ในหน่วยงานราชการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการโยก “บิ๊กหลวง” พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผช.ผบ.ตร. ไปดำรงตำแหน่งเลขาฯ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)

ไม่ต่างจากการโยกข้ามห้วยของ พล.ต.อ.รอย ให้ไปดำรงตำแหน่งเลขาฯ สมช. ต่างเพียงครั้งนี้ เป็นข้าราชการตำรวจ ทั้งนี้ที่ผ่านมามีนายตำรวจ 2 นาย ที่ถูกเปลี่ยนไลน์มาหน่วยงานแห่งนี้ 2 นาย คือ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี และพล.ต.อ.รอย

ขณะที่การโยกทหารไปเป็นข้าราชการพลเรือน โดยฝ่ายการเมือง เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง คนแรกในยุครัฐบาลไทยรักไทย ภายใต้การนำของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ล่วงลับไปแล้ว เมื่อปี 2551 ซึ่งมีการโอนย้าย พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา เลขาธิการ สมช.ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ

และโอนย้าย “เสธแมว” พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชประจำ และเป็นที่น่าสังเกตว่า  พล.ท.ภราดร คือ หลานชายของ นายปรีดา พัฒนถาบุตร ซึ่งมีความใกล้ชิดกับทักษิณ ชินวัตร มาเป็นรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยสลับให้ สมเกียรติ บุญชู รองเลขาธิการ สมช.ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ

ในปี 2552 ได้ข้าราชพลเรือนเต็มตัว ลูกหม้อ สมช. คือ “ถวิล เปลี่ยนศรี” เป็นเลขาฯ สมช. แต่ก็ดำรงตำแหน่งได้เพียง 2 ปี รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มีคำสั่งโยกข้ามห้วยให้ “ถวิล” ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ จนเป็นสาเหตุให้ถวิล ยื่นฟ้อง “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ต่อศาลปกครองสูงสุด ศาลรัฐธรรมนูญและศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่าถูกย้ายไม่เป็นธรรม

โดยฝ่ายการเมืองในขณะนั้น ต้องการเปิดทางให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่ชาย คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ขยับขึ้นเป็น ผบ.ตร.และสไลด์ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่มีอาวุโสอันดับ 1 ที่จ่อเก้าอี้ ผบ.ตร.มาเป็นเลขาฯ สมช.

แต่ปรากฏว่า พล.ต.อ.วิเชียร นั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ได้เพียงเดือนกว่าก็ถูกย้ายไปเป็นปลัดกระทรวงคมนาคม

และสลับให้ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร มานั่งเป็นเลขาฯ สมช.อยู่ยาวถึง 2 ปีระหว่างปี 2555-2557 เมื่อการเมืองเปลี่ยน “เสธแมว” ถูกโยกให้เป็นที่ปรึกษานายกฯฝ่ายข้าราชการประจำ

ต่อมาเกิดเหตุการณ์รัฐประหารในปี 2557 ปรากฏการณ์ “สิงห์คืนถ้ำ” มีคำสั่งยกเลิกประกาศคำสั่งย้ายถวิล เปลี่ยนศรี จากที่ปรึกษานายกฯ ให้มาดำรงตำแหน่งเดิมจนเกษียณอายุราชการ

พ้นจากฝ่ายการเมืองแทรกแซง “อนุดิษฐ์ คุณากร” ลูกหม้อของ สมช.ได้ขยับเป็น เลขา สมช.แต่ดำรงตำแหน่งได้เพียง 1 ปี

จะเห็นได้ว่าในยุครัฐบาล คสช.จนถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากไล่เลียงตำแหน่งเลขาฯ สมช.พบว่า นอกจากนายถวิลแล้ว ประตู สมช.ได้เปิดรับนายทหาร ให้เข้ามานั่งในตำแหน่งนี้ถึง 5 คน คือ

2558- 2560 พล.อ.ทวีป เนตรนิยม อดีตผู้บัญชาการทหารพัฒนา ข้ามมาเป็นข้าราชพลเรือนในตำแหน่งเลขาฯ สมช.

2560-2562 พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ อดีตผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม มาเป็นเลขาฯ สมช. และมีบทบาทสำคัญในขณะนั้นโดยเป็นหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุข

2562-2563 พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา หรือ “บิ๊กอั๋น” อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม

2563-2564 พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือ “บิ๊กเล็ก” ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษา นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม

2564-2566 พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม อดีตเสนาธิการทหาร ที่นั่งในตำแหน่งนี้ยาวจนเกษียณอายุราชการ

ก่อนจะทาบทามให้ “บิ๊กรอย” พล.ต.อ.รอย ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง เลขาฯ สมช.คนที่ 24 อย่างไร้ปัญหา ขณะที่ “ฉัตรชัย บางชวด” รองเลขาฯ สมช.ลูกหม้อเก่าของสภาความมั่นคงแห่งชาติยังคงต้องร้องเพลงรอไปก่อน

มีคำถามว่า การย้ายข้ามห้วยของ “บิ๊กรอย” พล.ต.อ.รอย มีนัยทางการเมืองหรือไม่ เนื่องจากมีวาระดำรงตำแหน่งเพียงปีเดียวเท่านั้น

หากย้อนกลับไปดูวงรอบทำเนียบเจ้ากรมปทุมวัน หรือว่าที่ “ผบ.ตร.” คนใหม่ ที่จะเกิดขึ้นหลังจาก “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ จะเกษียณอายุราชการเดือนวันที่ 30 ก.ย.2567 จะพบคู่ท้าชิงเดิม 3 ราย คือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก”, พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ หรือ “บิ๊กต่าย” และ พล.ต.อ ธนา ชูวงศ์

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบ.ตร.

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบ.ตร.

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบ.ตร.

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รองผบ.ตร.

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รองผบ.ตร.

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รองผบ.ตร.

พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผบ.ตร.

พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผบ.ตร.

พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผบ.ตร.

ส่วนคู่ท้าชิงคนใหม่ “พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข” ผู้ช่วย ผบ.ตร คนปัจจุบันที่กำลังจะจ่อขึ้นมาเป็นแคนดิเดตคนสำคัญก็มองข้ามไม่ได้ เนื่องจากมีสายสัมพันธ์แน่นปึ้ก กับตระกูลชินวัตร โดยได้รับความไว้วางใจให้ดูแลแผนอารักขาความปลอดภัยและแผนจราจรช่วงรับตัว “ทักษิณ ชินวัตร” บินกลับไทยเมื่อวันที่ 22 ส.ค.2566

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร

นอกจากนี้ พล.ต.ท.ประจวบ ถือว่ามีประวัติการทำงานที่ไม่ธรรมดา เป็น นรต.รุ่น 39 จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

แม้เส้นทางการเติบโตชีวิตรับราชการจะเริ่มต้นในเขตพื้นที่ภูธร วนเวียนอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ ในตำแหน่ง รอง สว.-รอง ผกก.จ.เชียงใหม่ ลำพูน พะเยา

ก้าวหน้าตามลำดับเป็น ผบก.ภ.จว.พะเยา ถัดมา 1 ปี ขยับเป็นรอง ผบช.ภ.6 , รอง ผบช.ภ.5 นั่ง ผบช.ภ.5 และ ผช.ผบ.ตร.ในปี 2564  ส่วนอายุราชการนั้น ยังเหลือเวลาอีกเกือบ 2 ปี เนื่องจาก พล.ต.ท.ประจวบ เกิด 13 พ.ย.2509 ปัจจุบันอายุ 59

เป็นวงรอบที่น่าติดตามอย่างยิ่งบนฐานการช่วงชิงอำนาจของกรมปทุมวัน ในยามที่เพื่อไทยเป็นรัฐบาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

เปิดประวัติ ว่าที่ เลขาฯ สมช. คนใหม่ "พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง