DSI กล่าวหา "2 อดีต รมต.-2 ขรก.แรงงาน" หักหัวคิวส่ง "แรงงานไทย" ไปฟินแลนด์

อาชญากรรม
11 ม.ค. 67
09:57
6,300
Logo Thai PBS
DSI กล่าวหา "2 อดีต รมต.-2 ขรก.แรงงาน" หักหัวคิวส่ง "แรงงานไทย" ไปฟินแลนด์
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
DSI เตรียมส่งสำนวน "2 อดีต รมต.แรงงาน - 2 ข้าราชการระดับสูง" ให้ ป.ป.ช.สอบต่อ หลังพบหลักฐานโยงขบวนการค้ามนุษย์ หักค่าหัวคิวส่งแรงงานไทย 12,000 คนไปฟินแลนด์ รวม 36 ล้านบาท

วันนี้ (10 ม.ค.2567) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ นำโดยกองคดีการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะพนักงานอัยการที่อัยการสูงสุด มอบหมายให้ร่วมสอบสวน มีมติร่วมกันให้กล่าวหากับอดีตข้าราชการฝ่ายการเมืองระดับรัฐมนตรี 2 คน และผู้บริหารระดับสูง กระทรวงแรงงาน 2 คน รวมทั้งหมด 4 คน ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 86

อ่านข่าว : เปิด "เบื้องหลัง-เบื้องลึก" แรงงานไทย เก็บเบอรี่ในฟินแลนด์

ทั้งนี้ จะเร่งสรุปสำนวนการสอบสวนส่งสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ต่อไป

กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากดีเอสไอ โดยกองคดีการค้ามนุษย์ ได้สืบสวนสอบสวนคดีพิเศษที่ 81/2566 เนื่องจากดีเอสไอได้รับหนังสือจากกระทรวงการต่างประเทศ เรื่องแรงงานไทย เป็นเหยื่อค้ามนุษย์ในสาธารณรัฐฟินแลนด์ โดยกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ ได้ให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยในสาธารณรัฐฟินแลนด์ที่เดินทางไปทำงานเก็บผลไม้ป่าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ในการเดินทางกลับประเทศไทย

อ่านข่าว : สมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ พบ 4 สาเหตุทาวน์เฮาส์ทรุด จ.สมุทรปราการ

คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พบว่า เป็นคดีความผิดที่ส่วนหนึ่งเกิดนอกราชอาณาจักร จึงเสนอสำนวนการสอบสวนไปยังอัยการสูงสุด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 และอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษทำการสอบสวนต่อไป และอัยการสูงสุดได้มอบหมายพนักงานอัยการมาร่วมสอบสวน ซึ่งมีการขอความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญาเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานจากสาธารณรัฐฟินแลนด์ในความผิดฐานค้ามนุษย์ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

ต่อมาทางการสาธารณรัฐฟินแลนด์ได้ส่งพยานหลักฐานสำคัญตามที่ทางการไทยร้องขอให้ดีเอสไอ โดยจากการสอบสวนของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด และพยานหลักฐานที่ได้จากความร่วมมือระหว่างประเทศกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสาธารณรัฐฟินแลนด์

อ่านข่าว : จ่อฟ้องดีเอสไอ ปัดเรียกเก็บค่าหัวคิวส่งแรงงานไทยไปฟินแลนด์

ปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีขบวนการสมคบระหว่างนักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐ และบุคคลธรรมดา ร่วมกันเรียกรับผลประโยชน์จากบริษัทผู้ประสานงานฝั่งไทยที่ทำหน้าที่ประสานงานกับบริษัทที่จะนำเข้าแรงงานของสาธารณรัฐฟินแลนด์ เป็นค่า "หัวคิว" หรือค่าดำเนินการเฉลี่ยรายละ 3,000 บาท โดยไม่มีสิทธิเรียกเก็บตามกฎหมาย ซึ่งบริษัทประสานงานฝั่งไทยได้นำมาเรียกเก็บจากคนงานที่ไปทำงานอีกชั้นหนึ่ง นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายตามจริง

ในปี 2563- 2566 ซึ่งเป็นช่วงดำเนินคดี มีผู้อยู่ในข่ายต้องเสียค่าใช้จ่ายดังกล่าว รวมประมาณ 12,000 คน คิดเป็นเงินรวมประมาณ 36 ล้านบาท

คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการ ได้มีมติกล่าวหาบุคคลดังกล่าวรวม 4 คน และจะนำส่งสำนวนคดีพิเศษดังกล่าว ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

อ่านข่าวอื่น
"เศรษฐา" หวังคนไทยได้ชมสด "เอเชียน คัพ"

โควิด-19 JN.1 สายพันธุ์หลักระบาดในไทย พบ อาการคล้ายหวัด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง