จับกระแสการเมือง : วันที่ 25 ม.ค.2567 "ทิม พิธา" come back "ไออุ่นที่คุ้นเคย" ลุ้นต่อคดี ม.112

การเมือง
25 ม.ค. 67
16:58
554
Logo Thai PBS
จับกระแสการเมือง : วันที่ 25 ม.ค.2567  "ทิม พิธา" come back "ไออุ่นที่คุ้นเคย" ลุ้นต่อคดี ม.112
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

นับจาก 19 ก.ค.2566 วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้รับคำร้อง "ทิม" พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คดีถือหุ้นไอทีวี ไว้พิจารณา ตรงกับวันที่มีการประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ครั้งที่ 2 

จนถึงปัจจุบัน ครบ 190 วัน และในวันนี้ ( 25 ม.ค.2567) "ทิม" พิธา กลับเข้าทำหน้าที่ สส.ในสภาผู้แทนราษฎร วันแรก หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 8:1 วินิจฉัย ว่า ความเป็น สส.ของพิธา ไม่ได้สิ้นสุดลง เนื่องจาก บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ไม่ได้ประกอบกิจการหรือมีรายได้จากกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ

อ่านข่าว : "พิธา" รอด! ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน สมาชิกภาพ สส.ไม่สิ้นสุด ชี้ไอทีวีไม่ใช่สื่อ

การปรากฏตัวในสภารอบ 6 เดือน ของ "ทิม" พิธา ด้วยเนคไทสีฟ้าเส้นเดียวกับที่ใส่เมื่อครั้งถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ สีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับโบกมือให้ สส.และโค้งคำนับประธานสภาผู้แทนราษฎร วันมูหะมัดนอร์ มะทา ท่ามกลางการแสดงความยินดีของบรรดา สส. อย่างนายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ที่โผสวมกอด

"เรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ผมกลับมาแล้วครับท่านประธาน" พิธากล่าวในการประชุมสภา ก่อนลุกขึ้นอภิปรายญัตติสำคัญการมีส่วนร่วมของเยาวชนในประเทศไทย สิ่งที่รัฐสภาได้ทำอะไรตลอดที่เรียกว่าต้นกล้ารัฐสภา ซึ่งหากตนเองได้ย้อนไปอายุเท่าเยาวชนก็ สามารถอภิปรายตั้งกระทู้ดีได้เท่ากับเยาวชน หวังว่าเยาวชนคนหนุ่มสาวมาจากที่ใดขอให้คิดว่าพื้นที่นี้ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะออกเสียง ในฐานะหุ้นส่วนประชาธิปไตย หุ้นส่วนประเทศไทย

เป็นไออุ่นที่คุ้นเคย รวมเวลาตั้งแต่เดือน ก.ค.2566 เป็น 6 เดือน ที่ไม่ได้มีโอกาสแถลงข่าวต่อสื่อและประชาชนที่สภา ยังรู้สึกว่าสภาเป็นพื้นที่รวมตัวของประชาชน คิดถึงบรรยากาศอย่างนี้
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

ส่วนตั้งใจใส่เนคไทมาเป็นลูกเล่นใช่หรือไม่ "คงไม่ใช่กิมมิคอะไรพิเศษ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ออกไปด้วยแบบไหน ก็กลับมาแบบนั้น" พิธา กล่าวกับสื่อก่อนเข้าห้องประชุม

ช่วงระยะ 6 เดือนที่หายไป สิ่งที่พิธาเสียดาย คือ ไม่มีโอกาสในการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 

โดยพรุ่งนี้ (26 ม.ค.) พรรคก้าวไกล นำโดยหัวหน้าพรรค "ต๋อม" ชัยธวัช ตุลาธน และพิธา เตรียมแถลงกางไทม์ไลน์ทางการเมือง ว่าจะเดินเกมรุกแบบไหน และแน่นอนว่า ต้องวางเส้นทางให้พิธา โดยน่าจะเริ่มจากกำหนดการเรียกประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ครั้งที่ 1 เพื่อลงมติเลือกพิธา ให้กลับเข้าสู่ตำแหน่งผู้นำพรรค ในเดือนเมษายนนี้ด้วย แม้ว่าเจ้าตัวเองจะบอกว่าไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งก็ตามที

อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจะเน้นเรื่องเกี่ยวกับความประพฤติมิชอบ เรื่องเกี่ยวกับปัญหาคอร์รัปชันและความล้มเหลวในการใช้งบประมาณแผ่นดิน ขณะนี้ยังคงเตรียมพร้อมข้อมูลและพิจารณาดูจังหวะที่เหมาะสม ที่เรียกว่าจะใช้แบบบาซูก้า หรือรบแบบ 151 หรือ 152 ก็จะพิจารณาดูอีกครั้งนึง โดยยืนยันว่าการทำงานไม่ได้ต้องการที่จะล้มล้างรัฐบาลอย่างเดียวแต่จะต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ

ส่วนการเข้าสภาครั้งนี้แล้ว ไม่มีออกใช่หรือไม่ นายพิธา ตอบว่า “รอไปทำเนียบอย่างเดียว”

อ่านข่าวเพิ่ม : “พิธา” กลับเข้าสภาฯ ในรอบครึ่งปี บอกคิดถึงไออุ่นที่คุ้นเคย

เมื่อถามถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดฟังคำวินิจฉัยในคดีนโยบายแก้ มาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล มีความกังวลบ้างหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า เหมือนตอนคดีความรู้สึกเหมือนตอนคดีไอทีวี แยกแยะได้ว่าอะไรควบคุมได้หรือไม่ได้ ส่วนที่ควบคุมได้ก็ได้ทำเต็มที่

สำหรับอนาคตของพรรคก้าวไกล น่าจะต้องรอลุ้นคำวินิจฉัย ในอีก 1 สัปดาห์ ที่มีผู้ร้องกรณีการหาเสียงแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล เป็นการกระทำเข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่

ผศ.ศร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ผศ.ศร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ผศ.ศร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สำหรับประเด็นนี้ ผศ.ศร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองว่าคำวินิจฉัย จะออกมาใน 3 แนวทาง

1. ศาลวินิจฉัยว่าไม่เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีคำสั่งยกคำร้อง
2. ศาลวินิจฉัยว่าไม่เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สั่งให้หยุดการกระทำ
3.ศาลวินิจฉัยว่าเข้าข่ายล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และสั่งให้ยุบพรรค

ซึ่งส่วนตัวมองว่าแนวทางทางที่ 3 ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะไปไกลเกินคำร้อง เพราะคำร้องไม่ได้ขอในประเด็นนี้

แต่สำหรับความรู้สึก พิธา แล้วเมื่อผ่านวันวานมาได้ คงไม่กังวลเท่าไหร่นัก และพร้อมจะไปฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเอง ในวันที่ 31 ม.ค.นี้

อ่านข่าว : "อ.ปริญญา" เผย 3 แนวทางตัดสินคดี "พิธา-ก้าวไกล" หาเสียงยกเลิก ม.112

อีกอีเว้นท์สำคัญสำหรับค่ำคืนนี้ เมื่อ นายกฯนิด "เศรษฐา ทวีสิน" และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล มีนัดดินเนอร์ ที่ร้านอาหารชื่อดังในย่านจ.ปทุมธานี เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และฟังเสียงสะท้อนจากพรรคร่วม และอาจจะแฝงนัยทางการเมือง ที่คงต้องพูดคุยกันถึงเงื่อนไขต่างๆ โดยงานนี้ เป็นคิว มท.หนู "อนุทิน ชาญวีรกูล "หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นเจ้าภาพ

ท่ามกลางข่าวลือสะพัดว่า อาจมีการปรับคณะรัฐมนตรี โดยปรับระดับไซส์ S ไม่ใช่ปรับตำแหน่งใหญ่หรือตำแหน่งขนาดกลาง มีรัฐมนตรี 5 ตำแหน่ง หรืออาจจะถึง 10 ตำแหน่งในรัฐบาลเศรษฐา 1 แต่อาจจะปรับใหญ่ที่ยังหมายถึงการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีด้วย

ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์

ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์

ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์

แม้รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ "เสี่ยอ้วน" ภูมิธรรม เวชยชัย จะเสียงแข็งว่า ดินเนอร์ค่ำนี้เป็นการรับประทานอาหารร่วมกันตามปกติ ไม่มีการหารือเรื่องปรับ ครม. และยังไม่มีการสัญญาณส่งมาจากนายกรัฐมนตรี เพราะแม้จะมีโควตารัฐมนตรีว่างอีก 2 ตำแหน่ง ก็ไม่ใช่สาระ เพราะขณะนี้การทำงานได้ ส่วนเรื่องจะปรับหรือไม่ เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี

การเมืองยกแรกผ่านไป "ทิม" พิธา เดินกลับเข้าสู่สภาฉลุย และวันที่ 31 ม.ค.นี้ แฟนคลับด้อมส้มจะต้องลุ้นอีกรอบว่า จะผ่านตลอดหรือไม่ และกระแสนี้จะนำมากลบข่าวของอดีตนายกฯ "ทักษิณ" ที่ยังนอนอยู่บนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ได้อีกระยะหนึ่งหรือไม่

อ่านข่าวอื่นๆ : 

พิธากลับสภาฯ "ก้าวไกล" เปิดเกมรุก "เพื่อไทย"

"ภูมิธรรม" ยินดี "พิธา" หวน สส. - ดินเนอร์พรรคร่วมปัดคุยปรับ ครม.

เลขาธิการสภาฯ ยัน "พิธา" กลับเข้าสภาได้ทันที-รับเงินเดือนย้อนหลัง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง