“ก้าวไกล” โดนคดีล้มล้างการปกครอง การเมืองสู่โหมดเข้มข้น-เลือกขั้ว

การเมือง
1 ก.พ. 67
14:10
3,601
Logo Thai PBS
“ก้าวไกล” โดนคดีล้มล้างการปกครอง การเมืองสู่โหมดเข้มข้น-เลือกขั้ว
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เพราะคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันทุกองค์กร คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีมติเอกฉันท์ 9-0 เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2567 จึงเป็นสิ่งที่ทุกองค์กรต้องเคารพและต้องปฏิบัติตาม

ไม่ว่าจะเป็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องทั้งคู่ ที่ศาลสั่งการให้เลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น เพื่อให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และจะรวมถึงเป็นบรรทัดฐานสำหรับบุคคลและพรรคการเมืองอื่น ๆ ด้วย

อ่านข่าว : "สนธิญา" เช็กบิลยื่นฟ้อง 44 สส.ก้าวไกลปม ม.112

ขณะที่กรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. ต้องพร้อมเรื่องดำเนินการเอาผิด ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมืองปัจจุบัน มาตรา 92 ที่ระบุว่า เมื่อ กกต.มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า มีพรรคการเมืองใดกระทำการตาม (1) ล้มล้างการปกครอง และ (2) อาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น อาจเป็นต้นเรื่องเอง หรือมีคนยื่นเรื่องต่อ กกต.ก็ได้

ซึ่งปรากฏชื่อ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้ยื่นเรื่องให้ยุบพรรคก้าวไกล ทันที ในวันถัดมา

อ่านข่าว : "เรืองไกร" ยื่น กกต.ยุบ "ก้าวไกล" หลังศร.ชี้ใช้แก้ ม. 112 หาเสียงเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง

นอกจากถูกยื่นยุบพรรคแล้ว ยังอาจโดน “ดาบ 3” มีคนไปยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.เพื่อดำเนินการความผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงของนายพิธา ยังไม่นับรวม ส.ส.ที่อาจไปร่วมกิจกรรมทางการเมือง หรือปราศรัยหาเสียง มาตรา 112 หรือเป็นนายประกัน ให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ต้องคดี ม.112 ทำให้พรรคก้าวไกลจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

การขยับตัวจากนี้ ยิ่งจะถูกจับตายิ่งขึ้น รวมทั้งการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 เดือน เม.ย.นี้ จะมีการจับวางตัวบุคลากรของพรรคอย่างไร เพื่อเตรียมรับมือกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นตามมา เช่นเดียวกับประเด็นมาตรา 112 หนึ่งในนโยบายเรือธงของพรรค แม้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะไม่ถึงขั้นปิดช่องทางการแก้ไขมาตรา 112 แต่ต้องตามกระบวนการนิติบัญญัติที่ถูกต้อง รวมทั้งเรื่องการจัดเตรียมพรรคสำรอง

แต่หากมองในจุดแข็งของพรรคก้าวไกล และจากคำพูดของแกนนำในพรรค ยืนยันการเดินหน้าไม่ยึดติดตัวบุคคล เห็นได้ชัดจากเมื่อครั้งพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ มีแกนนำรุ่น 2 เข้ามารับหน้าทีได้ไร้รอยต่อ และนายพิธาได้กลายเป็นคนโดดเด่นทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ

อ่านข่าว : จับกระแสการเมือง:วันที่ 31 ม.ค.2567 ถอดรหัสคำแถลง "พิธา -ก้าวไกล" ยอมปรองดอง ฤาชักธงรบรอบใหม่

ยิ่งบริบททางการเมืองปัจจุบัน แตกต่างไปจากการเมืองในอดีต ที่มักยึดติดกับตัวบุคคลหรือ “บ้านใหญ่” จะเปลี่ยนย้ายไปพรรคการเมืองไหน ก็รับประกันได้เป็น สส.แน่ ๆ แต่การเลือกตั้ง 2 ครั้งหลังที่ผ่านมา บ้านใหญ่ตระกูลดัง สังกัดพรรคใหญ่แค่ไหน ต่างสอบตกกันระนาว

สอดคล้องกับกูรูทางการเมือง ที่ได้คาดการณ์ก่อนหน้านี้แล้วว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคก้าวไกลจะเป็น “เต็งหนึ่ง” คู่แข่งสำคัญของพรรคการเมืองในขั้วอนุรักษ์นิยม ที่จะพยายามรวมตัวกันสู้ โดยมีพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำ

จึงได้เห็นความพยายามสร้างผลงาน ช่วงที่กลับมามีอำนาจเป็นรัฐบาลอีกครั้ง รวมทั้งผลักดันนโยบายประชานิยมแบบโดนใจประชาชน เช่น ดิจิทัลวอลเล็ต ค่าแรง 600 บาท ปี 2570 เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท โครงการแลนด์บริดจ์

และที่ถูกคาดหวังอันดับถัดไป คือเรื่องซอฟท์เพาเวอร์ ที่มีทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นคนขับเคลื่อน โดยหวังประเดิมจากงานสงกรานต์ระดับโลก ตลอดทั้งเดือน เม.ย.นี้

ที่มองข้ามไปไม่ได้ คือตัวช่วยสำคัญ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เชื่อว่าจะพ้นโทษจากเรือนจำในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

ในจังหวะเวลาที่พรรคอื่น ๆ รวมทั้งพรรคร่วมรัฐบาล ต่างกำลังเผชิญกับมรสุม จนอาการเสียรังวัดไปตามๆกัน ไม่ว่าจะเป็น พรรคภูมิใจไทย จากกรณีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ต้องพ้นตำแหน่งรัฐมนตรี กรณีมีคนถือหุ้นนอมินี

พรรครวมไทยสร้างชาติ เพิ่งโดนเรื่องคนของพรรค ถูกกล่าวหาเรื่องร่วมกันตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว พรรคพลังประชารัฐ ก็โดดเด่นเป็นข่าวเฉพาะ ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า ซึ่งไม่แน่นักว่า จะยังอยู่กับพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่

จน “บิ๊กป้อม” ต้องหอบสังขารกลับมาลุยงานเอง พรรคชาติไทยพัฒนา มีระดับแกนนำ ป.ปลา ถูกโยงแก๊งนายศรีสุวรรณ จรรยา เท่ากับมีภารกิจต้องเคลียร์ปัดกวาดบ้านตัวเองไปตามๆ กัน

อ่านข่าว : "ก้าวไกล" ชี้คำวินิจฉัยศาล รธน.กระทบการเมือง-สิทธิเสรีภาพ

เพื่อประคองตัวให้รอด จึงต้องเกาะกลุ่มรวมตัวหลวมๆ ในกลุ่มพรรคอนุรักษ์นิยมด้วยกัน รวมทั้งชูและเน้นนโยบายปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นสำคัญ เพื่อรับมือกับพรรคก้าวไกลที่เพิ่งจะโดนข้อล้มล้างการปกครอง

2 ขั้ว 2 ฝ่าย เสรีนิยมกับอนุรักษ์นิยม จึงยิ่งทวีความชัดเจนตั้งแต่ขณะนี้

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง