เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2567 หลังผู้ใช้เฟซบุ๊กแชร์ภาพแบตเตอร์รี่สำรอง หรือ พาวเวอร์แบงก์ ไฟลุกบนเครื่องบิน สร้างความตื่นตกใจให้กับผู้โดยสารจำนวนมาก ซึ่งต่อมาท่าอากาศยานไทย ชี้แจงว่า สาเหตุอาจมาจากพาวเวอร์แบงก์ไม่ได้มาตรฐาน เป็นเหตุทำให้เกิดการลุกไหม้ จึงให้คำแนะนำผู้โดยสารควรเลือกใช้พาวเวอร์แบงก์ ที่มีมาตรฐานรองรับ
การเลือกซื้อพาวเวอร์แบงก์ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. แนะนำว่า ให้ผู้บริโภคสังเกตที่สัญลักษณ์เครื่องหมาย มอก. บนกล่อง Power Bank และกล่องจะต้องถูกซีล ไม่มีการแกะใช้มาก่อน มีชื่อบริษัทผู้ผลิตชัดเจน และราคาไม่ควรต่ำกว่า 300 บาท เพื่อให้มั่นใจว่าเป็น พาวเวอร์แบงก์ที่ได้มาตรฐาน มอก.
อ่าน : ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ "พาวเวอร์แบงก์" ต้องพกขึ้นเครื่องเท่านั้น
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการ สมอ. ระบุว่า พาวเวอร์แบงก์ ถือเป็นสินค้าควบคุมที่จะต้องได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ซึ่งจะผลิตหรือนำเข้าต้องได้รับอนุญาตก่อน และจะต้องผ่านการทดสอบ ในห้องปฏิบัติการ 20 รายการ
เช่น ทดสอบการเกิดความร้อน เมื่อวางไว้ในรถยนต์ที่จอดตากแดดต้องไม่เกิดระเบิด รวมทั้งการทดสอบการใช้งานในภาวะความดันต่ำ เช่น การใช้งานบนเครื่องบินจะต้องไม่ติดไฟขึ้นมาเอง และการทดสอบเมื่อถูกแรงบีบอัด ซึ่งจะต่างจากพาวเวอร์แบงก์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจจะไม่ผ่านการทดสอบ
ปัจจุบันในประเทศมีโรงงานผลิต พาวเวอร์แบงก์ 10 ราย และนำเข้าอีก 20 ราย แต่ยอมรับว่าสินค้าจากจีนที่ทะลักเข้าไทยจำนวนมาก ทำให้ต้องเข้มงวดตรวจสอบ เพราะมีทั้งสินค้าที่ได้มาตรฐานและที่ลักลอบนำเข้า ซึ่งราคาถูกมาก ประมาณ 100 บาท นอกจากพาวเวอร์แบงก์ ยังมีสินค้าประเภท ปลั๊กพ่วง สายชาร์จ ที่ไม่ได้มาตรฐาน มอก.
ที่ผ่านมา สมอ. ได้ตรวจสอบประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน พบว่า ในรอบ 5 เดือนปีนี้ สามารถจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ที่ทำผิดกฎหมาย มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ซึ่งมีพาวเวอร์แบงก์ รวมอยู่ในนี้ด้วย
อ่าน : แอร์เอเชีย ชี้แจง พาวเวอร์แบงก์ มีควัน ไฟลุกไหม้ บนเครื่องบิน