นายกฯ เยี่ยมมัสยิดกรือเซะ ชาวบ้านร้องแก้เศรษฐกิจ-การค้า

การเมือง
27 ก.พ. 67
17:23
302
Logo Thai PBS
นายกฯ เยี่ยมมัสยิดกรือเซะ ชาวบ้านร้องแก้เศรษฐกิจ-การค้า
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
นายกฯ​ นำคณะ​สวมเสื้อสีเขียวลายพระราชทาน​ "ชบาปัตตานี" สักการะศาลหลักเมือง จ.ปัตตานี และพบปะชาวบ้านที่มัสยิดกรือเซะ ด้านชาวบ้านอยากให้เร่งพัฒนาเศรษฐกิจ-การค้าของจังหวัดชายแดนภาคใต้

วันนี้ (27 ก.พ.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ​ รมว.คลัง ลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระหว่างวันที่ 27-29 ก.พ.นี้ โดยนายกฯ และคณะ สวมเสื้อผ้าที่ตัดจากผ้าปาเต๊ะ​สีเขียว​ ลายผ้าพระราชทาน​ "ชบาปัตตานี"

จุดแรกในการเดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายกฯ ได้เดินทางไปศาลหลักเมือง จ.ปัตตานี และเดินทางไปมัสยิดกรือเซะ ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม แม้การดูแลความปลอดภัยจะเข้มงวด แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซียที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่มัสยิดกรือเซะและสุสานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวที่อยู่ติดกันได้ตามปกติ เพราะไม่อยากให้การเดินทางมาของนายกฯ รบกวนการท่องเที่ยวจนเกินไป

ขณะที่ชาวบ้านในชุมชนตันหยงลุโละ ซึ่งเป็นที่ตั้งของมัสยิดกรือเซะ กล่าวว่า ในช่วง 19 ปีของความรุนแรงทำให้การค้าขายและการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างมาก คนในพื้นที่ยากจนลง จนกลายเป็นจังหวัดที่มีคนยากจนมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ

อ่านข่าว : "เศรษฐา" บินลงใต้ หวังดันเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว 3 จว.ชายแดน

"มัสยิดกรือเซะ" เคยหนึ่งในสถานที่เชิงสัญลักษณ์ของความขัดแย้ง เพราะเมื่อวันที่ 28 เม.ย.2547 เกิดเหตุปะทะรุนแรงระหว่างกลุ่มผู้คิดต่างกับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเข้าโจมตีพร้อมกันนับ 10 จุด ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คน และมัสยิดกรือแซะเป็นที่สุดท้ายที่มีการปะทะกันยาวนาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตในมัสยิดกว่า 30 คน

ปัจจุบันมัสยิดถูกบูรณะใหม่จากความเสียหายในการปะทะครั้งนั้น และหลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย การท่องเที่ยวก็เริ่มกลับมา เพราะมัสยิดกรือแซะถือเป็นศาสนสถานสำคัญ เป็นศูนย์รวมความศรัทธาและยังเป็นมัสยิดเก่าแก่หลายร้อยปี จึงอยากให้รัฐส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ให้มากขึ้น เเละเห็นด้วยกับมาตรการยกเลิกด่านตรวจ เพราะจะอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ชาวบ้านเเละนักท่องเที่ยว

นายกฯ ยังทักทายคนชาวไทยเชื้อสายจีนที่มาขายของในตลาดกือดาจือนอ อ.เมืองปัตตานี หลังเยี่ยมบ้านขุนพิทักษ์รายา เเละสักการะศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ซึ่งตลาดเเห่งนี้อยู่ระหว่างการจัดงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ทำให้มีนักท่องเทียวทั้งไทยและมาเลเซียเข้ามาเที่ยวในงานจำนวนมาก โรงแรมหลายแห่งในพื้นที่เมืองปัตตานีถูกจองเต็มเกือบทั้งหมด

ระหว่างการเดินตลาด นายกฯ ได้ซื้อเกี้ยวหามเจ้าเเม่จำลองเเละเเวะชิมอาหาร เครื่องดื่มของคนไทยเชื้อสายจีนที่มีรสชาติเเละลักษณะเฉพาะ อีกทั้งยังทดลองทำขนมเบื้องที่จะทำขายเฉพาะงานสมโภชเจ้าเเม่ลิ้มกอเหนี่ยวเท่านั้น พร้อมถ่ายรูปเซลฟี่กับชาวบ้านที่มารอต้อนรับ

ส่วนที่ อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ซึ่งนายกฯ จะเดินทางไปวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.) เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว "เที่ยวใต้สุดใจ" เจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมดูแลความปลอดภัย โดยเฉพาะบริเวณศาลหลักเมืองยะลาและอุทยานการเรียนรู้ยะลา หรือ TK Park รวมถึงในเส้นทางเข้าสู่ตัวเมืองยะลา

ขณะที่ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นจังหวัดสุดท้ายที่นายกฯ จะเดินทางไปเยือน มีการเตรียมความพร้อมเช่นกัน โดยเฉพาะที่พิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรม ต.ละหาร อ.ยี่งอ ซึ่งที่นี้เป็นศูนย์กลางการรวบรวมพระคัมภีร์อัลกุรอานโบราณที่คัดด้วยลายมือ ถือเป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอิสลามที่ตกทอดจากอดีตถึงปัจจุบัน อายุตั้งแต่ 150-1,100 ปี กว่า 100 เล่ม โดยเฉพาะพระคัมภีร์อัลกุรอานที่ลงลวดลายอักษรในหนังแพะอายุเก่าแก่ถึง 1,030 ปี และพระคัมภีร์อัลกุรอานที่ลงอักษรในเปลือกไม้ที่มีอายุกว่า 300 ปี ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญใน จ.นราธิวาส

อ่านข่าวอื่นๆ

ผบ.ตร.ร่วมดื่มกาแฟ "บิ๊กตำรวจ" ยันไม่ใช่นัดเคลียร์ใจ

อสส.รับฟ้อง "สมยศ" พวกรวม 8 คน คดีช่วย "บอส อยู่วิทยา"

"เจ๋ง ดอกจิก-ตูน" เข้าพบ ปปป.ยันบริสุทธิ์ไม่เกี่ยวขบวนการรีดเงิน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง