สอบปากคำ "แพทย์หญิง" ร้องถูกต่างชาติทำร้ายขณะนั่งที่บันไดวิลลาริมหาด

สังคม
29 ก.พ. 67
07:51
3,621
Logo Thai PBS
สอบปากคำ "แพทย์หญิง" ร้องถูกต่างชาติทำร้ายขณะนั่งที่บันไดวิลลาริมหาด
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ตำรวจ สภ.ถลาง ภูเก็ต นัดสอบปากคำ "แพทย์หญิง" หลังแจ้งความดำเนินคดีชายต่างชาติ อ้างถูกทำร้ายร่างกายขณะนั่งบนบันไดวิลลาหรูติดชายหาด พร้อมเรียกร้องหน่วยงานตรวจสอบว่าบันไดรุกที่สาธารณะหรือไม่

จากกรณีเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งโพสต์ข้อความว่า เรื่องเล่าจากแพทย์หญิงไทยถูกชายต่างชาติชาวสวิสทำร้ายบนผืนดินไทย พร้อมนำข้อความจากลูกสาวตนเองที่เป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่ภูเก็ตมาเผยแพร่ โดยแพทย์คนดังกล่าวถูกชาวต่างชาติที่เป็นเจ้าของศูนย์อนุรักษ์ช้างทำร้ายร่างกาย เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลา 19.30 น.

หลังไปกินข้าวพร้อมกับเพื่อนผู้หญิงที่เป็นแพทย์ด้วยกัน จากนั้นเดินไปเที่ยวหาดสาธารณะใกล้บ้าน เพราะรู้จักค่อนข้างปลอดภัย ตั้งใจเดินไปดูดวงจันทร์บนชายหาด เมื่อรู้สึกเมื่อยและอยากนั่งพัก จึงเดินไปนั่งตรงบันไดที่ปลูกลงมาบริเวณชายหาดที่ต่อลงมาจากวิลล่า หมายเลข 23 เพราะคิดว่าเป็นบันไดของชายหาด โดยที่เท้ายังจุ่มอยู่บนพื้นทราย

ขณะที่นั่งอยู่รู้สึกเหมือนมีคนเดินมาข้างหลัง และรู้ตัวอีกทีก็ถูกชายต่างชาติเตะกลางหลัง และต่อว่าตนเองและเพื่อน ตนเองจึงเดินไปหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยพบว่ามีภรรยาคนไทยของชาวต่างชาติยืนอยู่ด้วยและต่อว่าตนเองซ้ำ รวมทั้งดูหมิ่น ระบุว่าบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวและรู้จักกับนายตำรวจใหญ่

จากนั้นได้มีตำรวจ 2 นาย เข้ามาเจรจา แต่ไม่เป็นผล ตนเองไปแจ้งความที่ สภ.ถลาง พร้อมเรียกร้องให้ตรวจสอบการใช้ประโยชน์พื้นที่ดังกล่าว และการทำบันไดรุกที่สาธารณะหรือไม่

ต่อมาแพทย์หญิงคนดังกล่าว ได้โพสต์คลิปเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมขอความเป็นธรรม เนื่องจากภรรยาชาวต่างชาติ อ้างว่า มีลูกชายเป็นตำรวจและรู้จักนายตำรวจใหญ่ของ จ.ภูเก็ต กังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ขณะที่ความคืบหน้าทางคดี ตำรวจ สภ.ถลาง ได้นัดสอบคำในวันนี้ (29 ก.พ.)

ด้านนายเกษม พ่อของแพทย์หญิงคนดัง กล่าวว่า ลูกสาวยืนยันจะดำเนินคดีถูกทำร้ายร่างกาย และต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรี ไม่ต้องการให้คนไทย หรือผู้ที่มา จ.ภูเก็ต ประสบเหตุการณ์เช่นตนเอ และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลคนไทยด้วย ส่วนกรณีที่ชาวต่างชาติคู่กรณีระบุว่า ไม่ได้ทำร้าย แต่ล้มใส่นั้น ตั้งคำถามว่าหากเป็นอุบัติเหตุล้มจริง เหตุใดจึงต่อว่าลูกสาวของตนและเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง