“ขอนแก่น” พร้อมรับสงกรานต์ หวังเขื่อน-ประปา จัดสรรน้ำสมดุล-เพียงพอ

ภูมิภาค
15 มี.ค. 67
09:30
736
Logo Thai PBS
“ขอนแก่น” พร้อมรับสงกรานต์ หวังเขื่อน-ประปา จัดสรรน้ำสมดุล-เพียงพอ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สงกรานต์เมืองหมอแคน ดินแดนดอกคูณ ปีนี้จัดใหญ่จัดเต็ม กิจกรรม ระหว่างวันที่ 1-21 เม.ย.2567 หวังกระตุ้นการท่องเที่ยว และสร้างการรับรู้ให้กับชาวต่างชาติ ว่า ขอนแก่นเป็นศูนย์กลางภาคอีสาน มี “ถนนข้าวเหนียว” ที่เป็นเอกลักษณ์ และเป็นที่รับรู้ของคนอีสาน

ภพพล เกษมสันต์ ณ อยุธยา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ขอนแก่น เปิดเผยคอนเซ็ปต์การจัดงานในปีนี้ว่า จะต้องการสร้างการรับรู้ว่า ถ้ามาที่ภาคอีสานจะเล่นน้ำสงกรานต์ได้ที่ไหน ทำไมชาวต่างชาติจึงรู้ว่าถ้าไปที่กรุงเทพฯ ต้องเล่นน้ำที่ถนนข้าวสาร ไปที่เชียงใหม่ ต้องไปที่คูเมือง หรือประตูท่าแพ

ส่วนขอนแก่น ก็ต้องมาที่ถนนข้าวเหนียว หรือถนนศรีจันทร์ ซึ่งที่ผ่านมา มีการจัดกิจกรรม การเล่นคลื่นมนุษย์ หรือ Human Wave บันทึกในสถิติโลกกับการเล่นคลื่นมนุษย์ที่ยาวที่สุด และลงบันทึกใน กินเนสส์บุ๊ก เวิลด์ เรคคอร์ด มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเอกลักษณ์นี้จำเป็นที่ต้องประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้งจากรัสเซีย ยุโรป และชาวจีน เพื่อดึงเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวมายังขอนแก่น

สำหรับการจัดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จะชูจุดเด่นในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวมีความหมายและสามารถเชื่อมโยงกันได้ โดยตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.จะเริ่มเปิดเทศกาลสงกรานต์ ที่ ถ.ต้นคูณ ตั้งแต่บริเวณถ.มะลิวัลย์ และถ.กัลปพฤกษ์ หน้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งมีต้นคูณหลายร้อยต้น ผลิดอกสีเหลืองอร่ามสวยงามตลอดทั้งสาย

ส่วนวันที่ 11 เม.ย.จะมีการอัญเชิญพระพุทธพระลับ พระคู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดขอนแก่น จากหน้าศาลากลางจังหวัด แห่ไปยังวัดธาตุ พระอารามหลวง โดยตลอดเส้นทาง จะให้ประชาชนได้ร่วมสรงน้ำ

และในวันที่ 12-15 เม.ย.จะมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของชาว จ.ขอนแก่น ที่เฮือนโบราณ ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัด ไฮไลท์สำคัญของที่นี่ ก็คือ ปีนี้จะให้ชาวขอนแก่นทั้ง 26 อำเภอ นำต้นดอกไม้ คอนเซ็ปต์คือคล้ายบุญเดือน 5 เช่น นำดอกสะแบงมาประดับประดาตามเฮือน แต่ละหลัง คาดว่าน่าจะมีต้นดอกไม้เงินไม่น้อยกว่า 800-900 ต้นมาตั้ง

นอกจากนี้ ที่เฮือนโบราณ ยังเป็นจุดจำหน่ายอาหารอีสานและเครื่องดื่ม ใครจะกินส้มตำ ไก่ย่างเขาสวนกวาง หรืออาหารตามฤดูกาล ก็สามารถมาชิมมาช้อปได้ที่นี่ แล้วก็จอดรถไว้ที่ข้างศาลากลาง ก่อนจะเดินไปเล่นน้ำสงกรานต์ที่ ถ.ข้าวเหนียว ซึ่งระยะทางไม่ไกลมากนัก นี่ก็เป็นรูทเส้นทางการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของขอนแก่น

ส่วนการจองโรงแรมที่พัก ที่ขึ้นทะเบียนกับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ขอนแก่น โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครขอนแก่น มีประมาณ 2,800 ห้อง เป็นอย่างไร ภพพลกล่าวว่า คงไม่เต็มครับ เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นคนอีสาน มาเที่ยวถนนข้าวเหนียว แล้วก็เดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งอยู่ในขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง แต่ก็จะมีนักท่องเที่ยวภาคอื่น ๆ ที่จองเข้ามา คาดว่าในห้วงวันที่ 12-15 เม.ย.ห้องพักน่าจะถูกจองราว ๆ 2,000 ห้อง หรือประมาณร้อยละ 70

ค่าใช้จ่ายสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวถนนข้าวเหนียวในช่วง 3-4 วัน คาดว่าน่าจะเฉลี่ยคนละประมาณ 7,000-8,000 บาท ซึ่งอานิสงส์จะตกอยู่ที่โรงแรม ร้านอาหาร เครื่องดื่มเป็นหลัก เพราะมีการพบปะสังสรรค์ ระหว่างครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูงตามสไตล์ของไทอีสาน

เมื่อถามว่า ปีนี้รัฐบาลต้องการกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ Soft Power จากเทศกาลสงกรานต์ เปิดให้เล่นน้ำสงกรานต์ได้ถึง 21 วัน แล้วจะเกิดปัญหาการแย่งน้ำระหว่างภาคการท่องเที่ยวกับน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคหรือไม่

นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ขอนแก่น ระบุว่า ต้องแยกว่า การเล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนข้าวเหนียว ใช้น้ำไม่เยอะ ส่วนใหญ่เป็นปาร์ตี้โฟม ใช้ปืนฉีดน้ำ แต่ถ้าหากเป็นการเล่นน้ำแบบมีถังหรือโอ่งใส่ท้ายกระบะ ก็จะเป็นชาวบ้านในพื้นที่รอบนอก ที่ขับรถเข้ามาเล่นน้ำที่ถนนหน้าเมือง ส่วนถนนข้าวเหนียวไม่อนุญาตให้นำรถเข้าไป การสาดน้ำจึงไม่มีให้เห็น

ที่น่าห่วงก็คือ การใช้น้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งอากาศร้อนระอุและภัยแล้ง การประปาจะต้องผลิตน้ำให้ทัน และเพียงพอต่อความต้องการ เพราะการเล่นน้ำในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จะเปิดก๊อกน้ำโดยตรง ดังนั้นการประปาต้องวางแผนการผลิตน้ำให้เพียงพอ

สิ่งสำคัญทางจังหวัดก็จะต้องเน้นย้ำ และขอความร่วมมือประชาชนและนักท่องเที่ยว ให้ใช้น้ำอย่างประหยัด เพราะขณะนี้เขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณการกักเก็บอยู่ที่ 1,480 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 60 ของความจุอ่าง แต่น้ำใช้การได้เหลือเพียงร้อยละ 48

น้ำมีความสำคัญกับภาคธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร เพราะแต่ละวันใช้น้ำค่อนข้างเยอะ ถ้าเกิดน้ำไม่ไหลสัก 2 วัน ก็เดือดร้อนแล้ว เพราะแทงก์น้ำสำรองก็จะหมดไป ก็ต้องซื้อรถน้ำคันละ 700-800 บาท มาเติม ซึ่งเมื่อปี 2563 เขื่อนอุบลรัตน์ มีน้ำค่อนข้างน้อย จนต้องนำน้ำก้นอ่าง มาผลิตน้ำอุปโภคบริโภคให้กับคนเมือง

“ปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่นักวิชาการคาดการณ์ว่า น่าจะลากไปอีก 2-3 เดือน แต่ถ้าหากภาวะภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง ลากยาวไปอีก ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำในปีหน้า ซึ่งจังหวัดขอนแก่น จะต้องวางแผนบริหารจัดการให้ดี เพื่อไม่ให้กระทบกับภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจการบริการ ระบบนิเวศน์ เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม” ภพพพล กล่าว

เรียบเรียง - มยุรี อัครบาล ผู้สื่อข่าวอาวุโส ศูนย์ข่าวภาคอีสาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง