ทนาย "บิ๊กโจ๊ก" ยันทำบุญ 2 แสน เงินส่วนตัว อ้างเส้นทางเงินเว็บพนันโยงบิ๊ก ตร.

อาชญากรรม
19 มี.ค. 67
10:45
2,405
Logo Thai PBS
ทนาย "บิ๊กโจ๊ก" ยันทำบุญ 2 แสน เงินส่วนตัว อ้างเส้นทางเงินเว็บพนันโยงบิ๊ก ตร.
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ทนายความ "พล.ต.อ.สุรเชษฐ์" ตั้งโต๊ะแถลง กรณีใบอนุโมทนาบัตร งานกฐิน วัดใน จ.อยุธยา ยืนยันใช้เงินส่วนตัว ถามกลับชุดจับกุม เอกสารหลุดไปได้อย่างไร อ้างมีตำรวจหลายกลุ่มเกี่ยวข้องเว็บพนัน

วันนี้ (19 มี.ค.2567) นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ ทนายความ พร้อมด้วยนายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.แถลงข่าวกรณีได้มีการเผยแพร่ใบอนุโมทนาบัตร งานกฐิน ที่วัดใน จ.อยุธยา และการซื้อตั๋วเครื่องบินให้กับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.

นายวราชันย์ กล่าวว่า ใบอนุโมทนาบัตร ที่ทำบุญให้วัดศาลาปูนวรวิหาร จ.อยุธยา จำนวน 200,000 บาท ที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ นั้น อนุโมทนาบัตร ฉบับนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจับกุม พ.ต.ท.คริษฐ์ ลูกน้องคนสนิท พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  และได้มีการตรวจยึดเอกสารต่างๆ ภายในรถ 1 ในนั้นมีการตรวจยึดใบอนุโมทนาบัตร ที่มีชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไว้เพื่อตรวจสอบ 

ทั้งนี้ใบอนุโมทนาบัตรก่อนหน้านี้ไม่เคยปรากฏจากที่ใดมาก่อน มีแต่ พ.ต.ท.คริษฐ์ เก็บไว้ตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.2566 แต่ใบใบอนุโมทนาบัตรฉบับนี้ออกปรากฏต่อสื่อมวลชนได้อย่างไร ซึ่งต้องไปหาคำตอบเรื่องนี้ 

ใบอนุโมทนาบัตรถูกนำมาให้ข่าวกับสื่อมวลชน ถูกนำมาโยงเกี่ยวกับการทำบุญโดยอ้างว่าเป็นการทำบุญโดยใช้เงินบัญชีม้า ที่มียอดเงินตรงกัน เมื่อเรื่องดังกล่าวปรากฏขึ้้นต่อสาธารณชน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้มีการสั่งการให้ผู้ใกล้ชิดตรวจสอบ 

เบื้องต้นว่า ความเกี่ยวโยงระหว่างบัญชีที่ถูกอ้างว่าเป็นบัญชีม้ามายังใบอนุโมทนาบัตรฉบับดังกล่าว เกิดขึ้นได้อย่างไร
และข้อมูลที่ผู้นำใบอนุโมทนาบัตรออกเผยแพร่เชื่อมโยงกับบัญชีม้า ผู้ที่ออกเผยแพร่รู้ได้อย่างไร

ในเมื่อข้อมูลทั้งหมดอยู่ที่พนักงานสืบสวนสอบสวนรายละเอียดไม่มีทางออกสู่สาธารณชนได้ ถ้าไม่มีผู้ไม่หวังดีบางราย หยิบฉวยข้อเท็จจริงดังกล่าวส่งต่อ และนำมาผูกโยงกับรายละเอียดตามที่ตนเข้าใจหรือบิดเบือนข้อเท็จจริงให้ผิดไปจากความจริง 

แจงปมซื้อตั๋วเครื่องบินให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.

นายวราชันย์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวกล่าวหาว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ใช้เงินที่ได้จากเว็บพนัน ซื้อตั๋วเครื่องบินให้กับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เป็นเงิน 13,100 บาท ซึ่งการซื้อตั๋วเครื่องบินดังกล่าวเป็น เป็นการซื้อตั๋วโดย พ.ต.ท.คริษฐ์ พร้อมครอบครัว ซึ่งมีหลักฐานการพูดคุยระหว่าง พ.ต.ท.คริษฐ์ กับตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน ชัดเจน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แต่อย่างใด

ส่วนกรณีการออกหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ในคดีสมคบกันฟอกเงิน และ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน กรณีพบเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาในคดีเว็บพนันออนไลน์ ในท้องที่ สน.เตาปูน นายณัฐวิชช์ ยืนยันว่าไม่มีเส้นทางการงเงินที่เข้ามาถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์

อ้างเส้นทางเงินเว็บพนันโยงตำรวจ

ทีมทนายความยังนำผลการตรวจเส้นทางการเงินกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน ที่มีถึง 34 คน และตำรวจตั้งแต่ยศดาบตำรวจ ถึง พลตำรวจตรี เกี่ยวข้อง แต่กลับไม่มีการกล่าวหากับคนเหล่านี้ พร้อมระบุว่า คดีนี้ มีความเชื่อมโยงกับคดีเว็บพนันของเครือข่ายมินนี่ ที่อยู่ในการพิจารณาของ ป.ป.ช. ดังนั้นพนักงานสอบสวน ก็ควรส่งเรื่องนี้ให้ ป.ป.ช.พิจารณาด้วย

ทนายความ ยังระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ร้องขอเปลี่ยนทีมพนักงานสอบสวนถึง 3 ครั้ง เพราะกังวลว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ ส่วนกรณีหมายเรียกที่พนักงานสอบสวน สน.ทุ่มสองห้อง ระบุให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ในวันที่ 21 มี.ค. ยังไม่ยืนยันว่าจะไปพบพนักงานสอบสวนตามกำหนดนัดหรือไม่ แต่ยังยืนยันว่าพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจออกหมายเรียก

ในวันนี้อีกหนึ่งคนที่มาปรากฏตัว และให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ในงานแถลง คือ พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ลูกน้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พล.ต.ต.นำเกียรติ บอกว่าสาเหตุที่กลุ่มพวกของตัวเองถูกดำเนินคดีเพราะ เข้าไปทำคดี กำนันนก และคดีเป้รักผู้การ ที่มีตำรวจบางคน ไม่พอใจ

นอกจากนี้ กรณีการพบเส้นเงินที่กลุ่มตนเองถูกดำเนินคดี ยังมีนายตำรวจยศนายพล อักษร ย่อ ต. และเครือญาติรับเงินเว็บพนันด้วย แต่ไม่ถูกดำเนินคดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

"บิ๊กโจ๊ก" เผยยังไม่รู้ตั้งจเรฯ สอบวินัย มั่นใจไม่ได้ทำผิด

เส้นทางวิบาก “บิ๊กโจ๊ก” วิ่งฝ่าไฟแดง ชิงตำแหน่ง “พิทักษ์ 1”

“บิ๊กโจ๊ก” ไม่กังวล ถูกออกหมายเรียก ปัด โยนทนายตอบโต้ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง