ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.ชี้ 3 สาเหตุกลิ่นไหม้-หมอกควันคลุม กทม.

สังคม
21 มี.ค. 67
06:23
3,303
Logo Thai PBS
ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.ชี้ 3 สาเหตุกลิ่นไหม้-หมอกควันคลุม กทม.
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ตลอดคืนที่ผ่านมา (20 มี.ค.) ประชาชนจำนวนมากได้กลิ่นไหม้และพบว่ามีหมอกควันปกคลุมในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ และนนทบุรี ด้านที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.ชี้แจงสาเหตุจากทิศทางลม สภาพอากาศและความชื้น

วันนี้ (21 มี.ค.2567) ตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา หลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีบรรยากาศคล้ายกับถูกหมอกควันปกคลุม และมีประชาชนแจ้งว่าได้กลิ่นเหม็นไหม้เป็นจำนวนมาก

ทีมข่าวไทยพีบีเอส ลงพื้นที่สำรวจในหลายจุด เช่น บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต, ด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และตลาดจตุจักร พบมีหมอกควันปกคลุมอย่างเห็นได้ชัดเจน

จากการสอบถาม พนักงานเติมน้ำมันในสถานบริการน้ำมันแห่งหนึ่งบนถนนวิภาวดีรังสิต ได้รับข้อมูลว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ขณะปฎิบัติงานกลางแจ้งภายในปั๊มน้ำมัน ตนเองได้กลิ่นคล้ายกลิ่นไหม้ ก่อนจะมีหมอกควันหนาปกคลุม ซึ่งไม่รู้ว่ากลิ่นหรือหมอกควันดังกล่าวมีสาเหตุมาจากอะไร จนมาทราบภายหลังว่าหมอกควันที่เกิดเป็นฝุ่น PM2.5 และระบุว่าปริมาณของฝุ่นมีมากกว่าปกติ

นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และผู้บริหารด้านความยั่งยืน กทม. ชี้แจงถึงสาเหตุของกลิ่นไหม้ดังกล่าวไว้ 3 ประเด็น คือ 1.ทิศทางลมของวันที่ 20 มี.ค.2567 มีความแตกต่างจากวันอื่นๆ เพราะช่วงนี้พบว่ามีลมพัดมาจากอ่าวไทย ส่วนจุดเผาในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาพบที่ปริมณฑลหลายจุด

2.ช่วงระยะนี้สภาพอากาศแปรปรวน มีพายุฤดูร้อน ประกอบกับมีความกดอากาศสูงผ่านทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้ความสูงของชั้นบรรยากาศผสมลดต่ำลง ฝุ่นละอองจึงเกิดการสะสมตัวเพิ่มมากขึ้น และ 3.ความชื้นในบรรยากาศทำให้เกิดฝุ่นละออง PM2.5 ทุติยภูมิเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะชนิดที่เกิดจากพวกสารประกอบไนโตรเจนและแอมโมเนียจะเกิดปฏิกิริยาได้ดีในสภาวะที่มีความชื้นสูง

ขณะที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 แบบรายชั่วโมง เมื่อเวลา 23.00 น.ของวันที่ 20 มี.ค. พบ 47 เขตในพื้นที่กรุงเทพฯ มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ

สูงสุด 3 อันดับแรกอยู่ที่เขตดอนเมือง 143.5 ไมโครกรัมต่อลูกบากศ์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ตามด้วยเขตหลักสี่ 143 มคก./ลบ.ม. และเขตบางซื่อ 139 (มคก./ลบ.ม.)

ส่วนภาพรวมทั้งประเทศพบ 7 จังหวัดภาคกลางมีค่าฝุ่น PM2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดงเช่นกัน อันดับ 1 คือ จ.นนทบุรี 113.4 มคก./ลบ.ม. รองลงมา จ.ปทุมธานี 107.6 มคก./ลบ.ม. ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมา โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

อย่างไรก็ตาม กลิ่นไหม้และหมอกควันที่เกิดขึ้น ทำให้มีประชาชนจำนวนมากโพสต์ X แจ้งว่าได้กลิ่นควันไฟและกลิ่นไหม้ในหลายพื้นที่ ส่งให้แฮชแท็ก #กลิ่นไหม้ ติดเทรนด์อันดับ 1 ข้ามคืนตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันนี้ (21 มี.ค.)

อ่านข่าวอื่นๆ

ฤทธิ์ "พายุฤดูร้อน" ทำฝนฉ่ำกระหน่ำกรุงเทพฯ

"บางแค" อ่วมสุดฝนตก 91.5 มม.พิษพายุฤดูร้อนถล่ม

สื่อนอกรายงาน นทท.รีวิว "เชียงใหม่" อันดับ 1 ของโลกปัญหามลพิษ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง