สตม.รวบหนุ่มเกาหลี “หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์” หนีกบดานพัทยา

อาชญากรรม
29 มี.ค. 67
16:53
365
Logo Thai PBS
สตม.รวบหนุ่มเกาหลี “หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์” หนีกบดานพัทยา
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ตำรวจจับชายเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขณะหลบหนีหมายจับอินเตอร์โพลมาพักอาศัยในคอนโดฯ เมืองพัทยา

วันนี้ (29 มี.ค.2567) พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. เปิดเผยว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ชลบุรี จับกุม นายโอ (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ หลังได้รับแจ้งข้อมูลจากกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ชายคนดังกล่าวเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของทางการเกาหลีใต้ ในความผิดฐานฉ้อโกง และเป็นบุคคลตามหมายจับตามหมายแดงของอินเตอร์โพล โดยจับกุมได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง

นายโอ มีพฤติการณ์เป็นหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้งฐานอยู่ที่ประเทศจีน ใช้วิธีโทรศัพท์และส่งข้อความหลอกลวงผู้เสียหายในเกาหลีใต้ โดยสร้างสถานการณ์ในรูปแบบต่างๆ หลอกให้หลงเชื่อและโอนเงิน โดยในช่วงเวลา 2 สัปดาห์สามารถหลอกผู้เสียหายจำนวน 6 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านวอน ซึ่งหลังจากทางการเกาหลีใต้ออกหมายจับ นายโอได้หลบหนีคดีมาซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา

ตม.ชลบุรี ตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายโอเข้ามาอยู่ในประเทศไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุดแล้ว จากนั้นได้สืบสวนติดตามหาตัวนายโอในย่านที่พักและสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองพัทยา จนกระทั่งสืบทราบว่านายโอได้เช่าคอนโดฯ ใน ต.หนองปรือ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและเมื่อพบตัวนายโอ จึงจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเกินเวลาที่กำหนด

รวบสาวใหญ่ไต้หวัน ตุ๋นนักลงทุนเชิดเงินหนี

อีกหนึ่งคดี สตม.ได้รับการประสานข้อมูลจากกรมการสอบสวน กระทรวงยุติธรรมไต้หวัน ผ่านทางสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย แจ้งข้อมูล Mrs.Meilee (นามสมมติ) อายุ 66 ปี สัญชาติไต้หวัน ผู้ต้องหาคนสำคัญตามหมายจับของไต้หวัน ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ชักชวนหลอกลวงนักลงทุนชาวไต้หวันให้มาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ก่อนเชิดเงินลงทุนหนี มีผู้เสียหายทั้งหมด 88 คน มูลค่าความเสียหายรวม 608 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่า Mrs.Meilee ได้เข้ามาประกอบธุรกิจให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ในตำแหน่งรองประธานกรรมการฯ จากการตรวจสอบบริษัทดังกล่าวพบความผิดปกติ ไม่ตรงตามหลักเกณฑ์หลายประการ จึงได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร พร้อมสั่งการให้ชุดสืบสวนเฝ้าติดตามสืบสวนหาข่าวจนพบเบาะแสว่า Mrs.Meilee มีลูกสาวที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ชื่อ น.ส.แสงดาว (นามสมมติ) จากการตรวจสอบข้อมูลของ น.ส.แสงดาว พบว่าเป็นคนไทย ยื่นคำขอมีบัตรประชาชนเมื่อปี 2543 มีมารดาเป็นคนไทยชื่อ นางดุจเดือน (นามสมมติ)

ขณะที่ชุดสืบสวนตรวจสอบพบว่า ภาพถ่ายของนางดุจเดือนมีความคล้ายคลึงกับ Mrs.Meilee จึงมุ่งประเด็นการสืบสวนหาตัว Mrs.Meilee ไปที่ น.ส.แสงดาว จนกระทั่งทราบว่าทั้งคู่ได้พักอาศัยอยู่ในคอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท เจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตการณ์จนได้พบ Mrs.Meilee จึงได้แจ้งหนังสือการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรให้ทราบและนำตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. ดำเนินการตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของการปราบปรามผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยสั่งการให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สกัดกั้น ตรวจสอบ ผู้หลบหนีเข้าเมืองที่ประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในไทย และกลุ่มที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทบกับภาพลักษณ์ของประเทศ

อ่านข่าวอื่นๆ

"บิ๊กต่อ" ฟ้องหมิ่นฯ "ทนายตั้ม" ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 10 มิ.ย.นี้

ศาลฯยกฟ้อง 67 แนวร่วมพันธมิตร ชุมนุมปิด "สนามบินดอนเมือง" ปี 51

อย.เตือนดารา-อินฟลูฯ-แพทย์ อย่ารีวิวอาหารเสริมอ้างรักษาโรค

ข่าวที่เกี่ยวข้อง