สภาฯ หารือ 3 ฝ่าย ยืนยันฝ่ายค้าน 22 ชั่วโมง รัฐบาล 6 ชั่วโมง ไม่ขยายเป็น 3 วัน

การเมือง
3 เม.ย. 67
10:54
235
Logo Thai PBS
สภาฯ หารือ 3 ฝ่าย ยืนยันฝ่ายค้าน 22 ชั่วโมง รัฐบาล 6 ชั่วโมง ไม่ขยายเป็น 3 วัน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สภาผู้แทนฯ หารือ 3 ฝ่าย ได้ข้อสรุปไม่ตัดเวลาฝ่ายค้าน ยังให้ 22 ชั่วโมง เพิ่มเวลาให้รัฐมนตรีตอบให้เคลียร์ วันแรกอาจเลิกตี 2 แต่ต้องจบวันพรุ่งนี้ไม่ขยายเพิ่มวันที่ 5 เม.ย. ด้าน “วราวุธ” พร้อมแจงทุกข้อสงสัย พร้อมกำชับลูกพรรคอยู่ให้ครบจนจบอภิปราย

วันนี้ (3 เม.ย.2567) การประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนาย พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม เพื่อหารือกรอบเวลาในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152

โดยมีตัวแทนคณะรัฐมนตรี วิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้านเข้าร่วม เช่น นางมนพร เจริญศรี นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ นายภราดร ปริศนานันทกุล นายชัยชนะ เดชเดโช นายรังสิมันต์ โรม นายพริษฐ์ วัชรสินธุ นายณัฐวุฒิ บัวปทุม

อ่านข่าว : เริ่มแล้ว ! อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ฝ่ายค้าน-รัฐบาล เต็มห้องประชุม

โดยที่ประชุมได้หารือเรื่องกรอบเวลา ที่ฝ่ายวิปรัฐบาลเสนอตัดเวลาฝ่ายค้าน 4 ชั่วโมง แต่ฝ่ายค้านขอยึดตามเดิม ในสัดส่วนรัฐบาล 6 ฝ่ายค้าน 22 ชั่วโมง

นายชัยชนะระบุว่า ถ้าสภาฯ ไม่มีหลักการและเลื่อนอยู่ตลอดเวลา ต่อไปก็ไม่มีหลักการ ตนคิดว่า การที่จัดเวลาของรัฐบาล 6 ชั่วโมง ก็ไม่เพียงพอ รัฐบาลต้องไปบริหารเนื้อหาให้กระชับชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจได้ ถ้าจะขอเพิ่มเวลาก็ขยายต้องขยายเป็น 3 วัน

ด้านนายวิสุทธิ์ ขอให้ปรับเข้าหากัน โดยเห็นว่า ถ้าไปโหวตห้องใหญ่จะเสียหายกว่านี้ ถ้ายังตั้งป้อมไม่ลดราวาศอก เกรงว่าจะทำงานด้วยกันลำบาก เพราะต้องทำงาน ร่วมกัน 4 ปี

นายพิเชษฐ์ กล่าวภายหลังหารือ 3 ฝ่ายเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า การอภิปรายวันนี้ วันแรก จะประชุมไปถึง ประมาณ 02.00 น. ส่วนวันที่ 4 เม.ย. จะให้มีการอภิปราย ถึงเที่ยงคืน ซึ่งจะทำให้ได้เวลาเพิ่มมาอีก 2 ชั่วโมง หากการถามตอบเยอะ ประธานทั้ง 3 คนจะบริหารเวลา ฝ่ายค้านยังคงได้เวลา 22 ชั่วโมงเหมือนเดิม

ขณะที่รัฐมนตรีก็จะให้ตอบให้จบสิ้นกระแสความ ตอบให้สมบูรณ์เต็มที่ อาจจะถึง 10 ชั่วโมงก็ได้ แต่ไม่ได้กำหนดเวลาที่ชัดเจนให้ตอบไปเรื่อย ๆ เป็นหน้าที่ของประธานจะบริหาร ซึ่งการถามและตอบเชื่อว่าจะจบได้ภายใน 2 วัน หรืออาจจะเลยเล็กน้อย เพื่อช่วยแก้ปัญหาจะได้ไม่ต้องไปโหวต ไปทะเลาะกันในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่สมบูรณ์

ส่วนที่ไม่สามารถเพิ่มวันที่ 5 เม.ย.ได้ นายพิเชษฐ์ ให้เหตุผลว่า เพราะมีการกำหนด วันเวลาเอาไว้แล้วและทุกฝ่ายก็วางแผนวันศุกร์ที่5 ดม.ย.ทุกคนมีภารกิจ ดังนั้นจะต้องยุติภายในวันพรุ่งนี้ อาจจะได้เที่ยงคืนนิดหน่อยเพื่อให้ การทำงานเดินไปได้

“วราวุธ” พร้อมแจงทุกข้อสงสัย

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ว่า ตนจะมารับฟังฝ่ายค้าน มีข้อสังเกตหรือคำถามอะไรที่จะอภิปรายในการทำงานของรัฐบาล โดยในส่วนของกระทรวง พม. มีเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมและสนับสนุนข้อมูลอยู่ฉะนั้นก็คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ส่วนสถานการณ์ของกระทรวงพม. น่าเป็นห่วงหรือไม่ในการอภิปรายครั้งนี้นั้น นายวราวุธ ระบุว่า จากการทำงานมา 7 เดือน และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ที่นายกรัฐมนตรีไปเยี่ยมประชาชนที่แฟลตดินแดง ซึ่งก็มีปัญหาหลายเรื่อง ซึ่งตนก็เตรียมข้อมูลไว้ตอบข้อสอบถามของฝ่ายค้าน

ส่วนที่มั่นใจว่าสามารถที่แจ้งได้ทุกประเด็นหรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า ไม่ได้มั่นใจ แต่ถ้าหากไม่รู้ ก็จะไปหาข้อมูลมาตอบให้จนได้ และแม้การอภิปรายทั้ง 2 วันนี้ไม่ใช่การอธิบายแบบลงคะแนน ตนก็ได้มีการกำชับลูกพรรค ที่อยู่รับฟังการอธิบายจนจบ

ขณะที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปฏิเสธการตอบคำถามว่า พร้อมชี้แจงหรือไม่ หากถูกฝ่ายค้านอธิบายในประเด็นการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5

“กัณวีร์” ถามนายกฯ ที่เคยประกาศบนเวทีโลก

นายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ว่า ในฐานะฝ่ายค้านมีความพร้อมเสมอ ตั้งแต่ที่ยื่นญัตติไป อยากให้รัฐบาลเตรียมความพร้อม ทั้งในสิ่งที่เคยให้สัญญากับประชาชนไว้ แต่ยังไม่ได้ทำ หรือสิ่งที่ทำไปแล้วแต่ไม่ตรงกับที่เคยให้สัญญาไว้กับประชาชน หรือทำไปแล้วผิดพลาด อยากให้รัฐบาลเตรียมความพร้อมในการชี้แจงตรงนี้

ส่วนประเด็นในการอภิปรายในส่วนของตนเอง ได้รับมอบหมายให้อภิปรายเกี่ยวกับการต่างประเทศ และการทูต ซึ่งมีคิวอภิปรายในวันพรุ่งนี้ (4 เม.ย.) พร้อมระบุว่า การต่างประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญ เป็นการแสดงออกจุดยืนของไทย ซึ่งจะถามไปยัง นายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ว่าได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง หลังจากที่ไปแสดงจุดยืนในเวทีโลก

อ่านข่าว : ป.ป.ช.ยัน รร.ในขอนแก่น “เก็บแป๊ะเจี๊ยะ” จริง ชี้พิรุธตั้งแต่รับสมัคร-รายงานตัว

เตรียมร้อนสุดขีด 4-8 เม.ย.นี้ เช็กท็อป 5 จังหวัดแดงเดือด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง