กรมการข้าวเตือนชาวนาไทยอย่าตื่น “ซูเปอร์ไรซ์”

เศรษฐกิจ
22 ก.ย. 54
14:31
17
Logo Thai PBS
กรมการข้าวเตือนชาวนาไทยอย่าตื่น “ซูเปอร์ไรซ์”

อธิบดีกรมการข้าวและประธานมูลนิธิข้าวขวัญเห็นว่าไทยควรให้ความสำคัญคุณภาพข้าวมากกว่าที่จะเน้นปริมาณเหมือนประเทศจีนที่สามารถผลิตข้าวซุปเปอร์ไรซ์ได้ถึงไร่ละกว่า 2 กิโลกรัม ขณะที่ผู้บริหารบริษัทค้าข้าวไทยเสนอว่าถึงเวลาแล้วที่ไทยควรมีการบูรณาปรับโครงสร้างการผลิตของข้าวใหม่เพื่อสร้างความมั่นทางอาหารในอนาคต

<"">
  
<"">

การประกาศความสำเร็จของสำนักงานการเกษตรจีน กรณีพัฒนาข้าวพันธุ์ผสมสายพันธุ์ใหม่หรือซูเปอร์ไรซ์ รหัส DH2525 โดยอ้างผลผลิตที่สูงถึงไร่ละ 2,224 กิโลกรัม เป็นสิ่งที่อธิบดีกรมการข้าวให้ความเห็นว่า ไทยไม่จำเป็นต้องเร่งใช้ข้าวพันธุ์ผสมเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าว เนื่องจากปัจจุบันสามารถผลิตข้าวได้มากพอ ทั้งการส่งออกและบริโภคในประเทศ นอกจากนี้ไทยยังให้ความสำคัญกับคุณภาพข้าวมากกว่าการเพิ่มปริมาณ

 
ที่ผ่านมาจีนได้พัฒนาข้าวพันธุ์ลูกผสมมานานแล้ว และยังจำหน่ายพันธุ์ข้าวชนิดนี้ไปต่างประเทศเช่น เวียดนาม แอฟฟริกาอีกด้วย
 
ด้านผู้บริหารบริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด กล่าวว่า การที่จีนพยามคิดค้นข้าวพันธุ์ใหม่ๆ ที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น เป็นสิ่งที่ไทยต้องทบทวนถึงการบูรณาการโครงสร้างการผลิตของข้าวใหม่เพื่อสร้างความมั่นทางอาหาร โดยเฉพาะให้ชาวนาไทยมีต้นทุนการผลิตต่ำลง จึงต้องหาวิธีทำให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ตั้งแต่การใช้เมล็ดพันธ์ การใช้ปุ๋ย การจัดการในไร่นา และระบบน้ำ
 
นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เห็นว่า ข้าวพันธุ์ผสมจะให้ผลผลิตดีในช่วงแรก แต่เมื่อนำไปใช้ต่อ ผลผลิตจะลดลง และมีต้นทุนสูง เนื่องจากต้องซื้อพันธุ์ตลอด และขณะนี้พบว่ามีผู้ประกอบการไทยบางรายอ้างว่าได้พัฒนาข้าวไฮบริดที่ให้ผลผลิตสูงถึงไร่ละ 1,600 กิโลกรัม แต่เมื่อเก็บตัวอย่างพบว่าให้ผลผลิตเพียง 900 กิโลกรัมเท่านั้น ขณะที่เมล็ดพันธุ์อยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท เทียบกับข้าวธรรมดาที่กิโลกรัมละ 20 บาท และยังไม่ต้านทานต่อโรคแมลง ทั้งนี้หากชาวนาไทยต้องการมีผลผลิตที่ดี ควรใช้วิธีปรับปรุงคุณภาพ เช่น การปรับปรุงดิน เลือกพันธุ์ข้าวให้เหมาะสมกับท้องถิ่น
 
รายงานกระทรวงเกษตรจีนระบุว่า จีนมีผลผลิตข้าวคิดเป็นร้อยละ 40 ของผลผลิตธัญพืชทั้งหมด โดยปี 2554 จีนมีการเพาะปลูกข้าวลูกผสมซูเปอร์ไรซ์ที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงเกษตรจำนวน 80 สายพันธุ์ คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 41 ล้านไร่ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการปลูกข้าวประเภทนี้ในอินเดีย เวียดนาม และสหรัฐฯ อีกด้วย
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง