2 สามี-ภรรยาถูกแฮกข้อมูลอีเมล์สูญเงิน 5 แสนบาท

วันนี้ในระหว่างที่รัฐมนตรีไอซีทีกำลังแถลงข่าวเรื่องทวิตเตอร์ของนายกรัฐมตรีถูกโจรกรรม และดัดแปลงข้อมูลปรากฎว่าที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ก็มีชาย-หญิงคู่หนึ่ง ทำธุรกิจค้าเครื่องเงินกับชาวต่างชาตินำเอกสารเข้าร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ หลังถูกเจาะข้อมูลในอีเมล์ ทำให้ลูกค้าหลงเชื่อ และโอนเงินไปให้ผู้โจรกรรมประมาณ 500,000 บาท แต่เพื่อให้การค้าเกิดความน่าเชื่อถือ ทำให้ทั้งคู่ต้องรับผิดชอบด้วยการส่งสินค้าตามไปให้ลูกค้าแทนทั้งที่รู้ว่าจะไม่ได้เงินคืน

 ชินธันย์ อมรพรวิวัฒน์ และพิชชานันท์ อมรพรวิวัฒน์เจ้าของธุรกิจค้าเครื่องเงินนำหลักฐานร้องเรียนสำนักป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี สารสนเทศ กระทรวงไอซีที เพื่อขอให้ช่วยติดตามผู้กระทำความผิด หลังอีเมลล์ที่ใช้ในธุรกิจถูกคนร้ายเจาะข้อมูลตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน หลอกให้ลูกค้าต่างชาติโอนเงินให้อย่างน้อย 2 ราย ซึ่งกว่าจะรู้ตัวผ่านไปแล้ว 2 สัปดาห์ เมื่อลูกค้าอีกรายโทรมาสอบถามเพราะเห็นว่าผิดสังเกต

สามี-ภรรยาคู่นี้ทำธุรกิจเครื่องเงินเมื่อ 3 ปีก่อน เคยถูกหุ้นส่วนหักหลัง สูญเงินไปกว่า 100,000 บาท ทำให้ระวังในการทำธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะในการทำธุรกรรมการเงินผ่านอีเมล์ แต่แม้จะระวังก็ยังเกิดปัญหาขึ้น ทั้ง 2 คนพยายามที่จะขอข้อมูลจากผู้ให้บริการอีเมล์ แต่เรื่องยังเงียบ ทำให้คิดคงสูญเงิน 500,000 บาท ที่ลูกค้าโอนให้คนร้ายคืน และยังต้องส่งสินค้าให้กับลูกค้าในสัปดาห์หน้าด้วย

จากข้อมูลรับเรื่องร้องเรียนของกระทรวงไอซีทีพบว่าตลอดปีที่ผ่านมาการถูกโจรกรรมข้อมูลอยู่สูงเป็นลำดับ 3 รองจากเรื่องหมิ่นประมาท และล่อลวง ซึ่งเจ้าหน้าย้ำว่าเป็นเรื่องที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ควรตระหนักและมีวินัยในตัวเองเคร่งครัด และจากข้อมูลยังพบว่ากว่าร้อยละ 70 เมื่อได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว ไอซีทีสามารถส่งให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนต่อได้ ส่วนการจับกุมคนร้าย ชัดเจนว่าเป็นหน้าที่ตำรวจเท่านั้น

สำหรับการกระทำความผิดในการโจรกรรมข้อมูล หรือละเมิดทางคอมพิวเตอร์ ผู้กระทำความผิดจะต้องระวางโทษสูงสุดจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำและปรับตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ปี 2550 มาตรา 5, 7, 9 และ 14