ศาลอุทธรณ์อิตาลีกลับคำตัดสินให้นศ.อเมริกันไม่ผิด

ศาลอุทธรณ์ในเมืองเปรูเจียของอิตาลีพิพากษาว่า น.ส.อมันด้า น็อค นักศึกษาสาวชาวอเมริกัน อายุ 24 ปี รวมทั้งนายรัฟแฟเล่ ซอลเลซิโต้ ชาวอิตาลี อายุ 27 ปี ไม่มีความผิดฐานร่วมฆ่านักศึกษาแลกเปลี่ยนจากอังกฤษและตัดสินยกฟ้อง

 

น.ส.อมันด้ากล่าวขอบคุณองค์คณะผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์อิตาลี ขณะที่ครอบครัวของ น.ส.อมันด้าระบุว่า น.ส.อมันด้าต้องทนทุกข์ในอาชญากรรมที่เธอไม่ได้ก่อมาแล้วถึง 4 ปี และล่าสุด น.ส.อมันด้าและครอบครัวได้เดินทางออกจากเรือนจำเพื่อกลับสหรัฐฯ แล้ว

 

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน โดยอัยการอิตาลีฟ้องว่า น.ส.อมันด้าและแฟนหนุ่มมีความผิดฐานร่วมฆ่า น.ส.เมราดิธ เคอร์เนอร์ นักเรียนแลกเปลี่ยนจากอังกฤษ อายุ 21 ปี ทั้งนี้โดยอัยการได้เชื่อมโยงว่ามีพยานหลักฐานเป็นคราบเลือดเปื้อนตัวหลายแห่ง แต่องค์คณะผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ 8 คนกลับเห็นด้วยกับสำนวนอุทธรณ์ของ น.ส.อมันด้าและแฟนหนุ่ม คือมีข้อน่าสงสัยในกระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ ดังนั้นจึงต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยด้วยการยกฟ้อง ซึ่งรวมถึงแฟนหนุ่มด้วย

 

เมื่อ 3 ปีก่อน ศาลชั้นต้นพิจารณาว่า ระหว่างทั้งหมดกำลังเมายาและร่วมหลับนอนหมู่ภายในหอพักนักศึกษา นักศึกษาสาวชาวไอวอรี่โคสต์ได้ใช้มีดปาดคอนักศึกษาจากอังกฤษ โดย น.ส.อมันด้าและแฟนหนุ่มก็รับรู้แต่นั่งดูให้เลือดออกหมดตัวนักศึกษาอังกฤษจนเสียชีวิต ศาลชั้นต้นจึงตัดสินจำคุก น.ส.อมันด้า 26 ปี และแฟนหนุ่ม 25 ปี ส่วนมือมีดชาวไอวอรี่โคสต์ถูกจำคุก 30 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ยื่นอุทธรณ์ต่างหากเพื่อขอลดหย่อนโทษลงเหลือ 16 ปีแล้ว

 

ในคดีนี้ นอกจากชายหนุ่มชาวอิตาลีแล้ว นักศึกษาสาวทั้ง 3 คนเข้ามาเรียนในเมืองเปรูเจียตามโครงการแลกเปลี่ยน และอยู่ร่วมห้องหอพักเดียวกัน