หน้ามรสุมปีนี้ ฝนทิ้งช่วง คนใต้ตื่นตัว เตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ

18 พ.ย. 54
11:15
47
Logo Thai PBS
หน้ามรสุมปีนี้ ฝนทิ้งช่วง คนใต้ตื่นตัว เตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ

โดย นักข่าวพลเมือง

ปลายเดือนตุลาคมของทุกปี ภาคใต้จะเข้าสู่หน้ามรสุม ซึ่งจะทำให้ในหลายพื้นที่มีฝนตกหนักและเสี่ยงต่อการเกิดภัยพิบัติต่างๆ   วันนี้เครือข่ายภาคพลเมืองทางภาคใต้เตรียมรับมือและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้น  โดยเฉพาะที่พื้นที่เสี่ยงที่เคยเกิดเหตุและพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดเหตุภัยพิบัติที่จะต้องเตรียมการเฝ้าระวังและให้ข้อมูลกับชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อเตรียมจัดการและช่วยเหลือตัวเองอย่างทันถ่วงที

จอม กำพล  จิตตะนัง   อาจารย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่อเดือนเมษายนเล่าให้ฟังว่า ทุกปีในช่วงเดือน พฤศจิกายนถึงธันวาคมนี้ภาคใต้จะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนหรือหน้ามรสุมแล้ว  แต่ปีนี้ถือว่าฝนทิ้งช่วงนานกว่าปกติ  มีฝนตกบ้างเล็กน้อย   สภาพอากาศปกติ  น้ำในคลองยังมีไม่เยอะเท่าไหร่  แต่การที่ฝนทิ้งช่วงคนในพื้นที่ก็ไม่ควรประมาทในการเตรียมการ

“ปีนี้ถือว่าฝนมาช้ากว่าทุกที  เพราะตามปกติแล้วช่วงลอยกระทงน้ำจะเต็มตลิ่งแล้ว   แต่ปีนี้น้ำยังน้อยอยู่  มีฝนตกบ้างเล็กน้อย  แต่ก็ไม่ควรประมาท  ตอนนี้คนในพื้นที่ก็เตรียมเฝ้าระวังกันอยู่ ในส่วนของพื้นที่เสี่ยงก็มีการคุยกัน   เช่น อ.กรุงชิง  ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มถ้าฝนตกหนักประมาณครึ่งชั่วโมงชาวบ้านในพื้นที่ก็จะเริ่มกังวลแล้ว ไปรับลูกหลานกลับจากโรงเรียน  แต่โดยธรรมชาติของน้ำในพื้นที่ภาคใต้จะท่วมไม่นาน แต่มาเร็วและแรง    ”

 สำหรับการเตรียมการเพื่อรับมือภัยพิบัติในพื้นที่ อ.จอมกล่าวว่า มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานจัดการภัยพิบัติ(ภาคพลเมือง) ที่ม.วลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเปิดแล้วตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา  เพื่อเตรียมรับมือภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นกับภาคใต้ โดยทำงานร่วมงานหน่วยงานต่างๆ ของแต่ละพื้นที่

“การทำงานของศูนย์จะแบ่งออกเป็น  งานการสื่อสารเพื่อเฝ้าระวังภัยพิบัติทางสื่อช่องทางต่างๆ      งานข้อมูลทางวิชาการจากหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่  และงานอาสาสมัครจากส่วนต่างๆ  เพื่อเตรียมความพร้อมและซักซ้อมแผนปฏิบัติการ พร้อมกับเชื่อมโยงกับส่วนต่างๆ ในภาคใต้    ซึ่งถึงแม้ว่าตอนนี้ฝนจะทิ้งช่วง  ก็ไม่ควรประมาท “

ด้านพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้  ถึงแม้ว่าจะผ่านมากว่า 1 ปีแล้ว ที่ประสบกับภัยพิบัติพายุฝนเข้าถล่มในพื้นที่พร้อมกับคลื่นทะเลซัดสูงเข้าหาหมู่บ้านชายฝั่งทะเล  จ.ปัตตานี     วันนี้ ลม้าย มานะการ  คณะทำงานโครงการ PB Watch  บอกว่า สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ตอนนี้มีการถอดบทเรียนและนำประสบการณ์จากปีที่แล้วมาปรับใช้เพื่อเตรียมตั้งรับกับภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้น   โดยเป็นความร่วมมือกับแกนนำชุมชน  หน่วยงานราชการจังหวัดปัตตานี  และภาคเอกชน เข้ามาดูแลร่วมกัน 

 “ สถานการณ์ในปีนี้คาดว่าอาจจะไม่แรงเท่ากับปีที่แล้ว ตอนนี้ในพื้นที่จังหวัดปัตตานีก็มีฝนปรอยๆ และตกหนักเป็นช่วงๆ  แต่ยังไม่มีลมแรง ช่วงมรสุมของพื้นที่สามจังหวัดจะเป็นเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม แต่คนในพื้นที่ก็ไม่ประมาท เริ่มตื่นตัวมากขึ้น  เช่น คนที่อยู่ใกล้แม่น้ำสายบุรีที่มีบทเรียนจาดปลายปีที่แล้ว ก็จะสังเกตน้ำและสภาพฝนฟ้าอากาศในพื้นที่ เริ่มปรับตัวและเตรียมการ จะเห็นมีเรือไฟเบอร์ และเตรียมข้าวสาร อาหารแห้ง   บางพื้นที่ในช่วงนี้ก็เริ่มยกของขึ้นที่สูงบ้างแล้ว   ด้านหน่วยงานรัฐและภาคเอกชนก็ทำงานร่วมกันเตรียมเรื่องสถานที่(กรณีอพยพ)  การแพทย์และพยาบาล   ขณะที่ภาคประชาชนก็มีการตั้ง wallroom  ประชุมทำข้อมูลและร่วมประเมินสถานการณ์ร่วมกันเตลอด“ 

บทเรียนจากภัยพิบัติที่ผ่านมา หลายพื้นที่เรียนรู้ร่วมกันว่า การเตรียมรับมือต่อภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้น จะช่วยลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น  โดยเริ่มที่ชุมชนก่อน  จึงจะสามารถจัดการได้ทันท่วงที   รวมถึงเรียนรู้และปรับตัวและวิถีชีวิต ที่จะอยู่กับธรรมชาติได้

 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง