ผู้เลี้ยงปลากะพงขาวห่วงน้ำท่วมไหลลงทะเลกระทบเลี้ยงปลารอบใหม่

เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวบางส่วน ห่วงว่ามวลน้ำที่จะไหลลงทะเลอาจส่งผลกระทบต่อการเพาะเลี้ยงปลารอบใหม่

ปลากะพงขาวเน่าลอยเหนือผิวน้ำบริเวณปากอ่าวบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา หลังน้ำเสียจากมวลน้ำท่วมไหลลงสู่ทะเล ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำบริเวณแหล่งเพาะเลี้ยงปลากะพงในกระชังมีระดับออกซิเจนต่ำกว่ามาตรฐาน ปลาจึงเริ่มเป็นโรคพาราสิต และทยอยตาย โดยเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงสามารถจับผลผลิตออกขายได้เพียงวันละ 10 กิโลกรัม จากปกติจับได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 10 ตัน สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงในกระชังกว่า 200 ราย
 
ด้านนายสุทิน วุฒิสินธุ์ ตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวเป็นห่วงว่าปริมาณน้ำค้างทุ่งที่ทยอยไหลลงสู่อ่าวบางปะกงแห่งนี้ อาจส่งผลให้เกษตรกรไม่ทันการเพาะเลี้ยงลูกปลาในฤดูกาลวางไข่รอบใหม่ หรือ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ อาจส่งผลกระทบต่อการขยายพันธุ์ปลา รวมถึงวิถีชีวิตชาวบางปะกง
 
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานประมงจังหวัด ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างและวัดระดับออกซิเจนในน้ำ ตลอดเส้นทางการไหลของน้ำที่มาจากมวลน้ำท่วมขังในหลายจังหวัดก่อนหน้านี้ พร้อมยอมรับว่าไม่สามารถพิสูจน์ได้ชัดเจนว่า คุณภาพน้ำที่ลดลงเหล่านี้ มีสารพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมและสารพิษจากนาข้าวปนเปื้อนหรือไม่ เนื่องจากการตรวจวัดสารพิษปนเปื้อน มีภาระค่าตรวจสอบสูงเกินกำลังของจังหวัด ขณะเดียวกันการจ่ายเงินชดเชยความเสียหายให้กับเกษตรกรก็ติดขัดเงื่อนไขและกฎระเบียบของกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ซึ่งได้เสนอแก้ไขและคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงชาวในกะชัง อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา มีจำนวน 207 ราย สามารถขึ้นทะเบียนขอรับเงินชดเชยความเสียหายจากน้ำท่วมได้เพียง 7 รายเท่านั้น ทั้งนี้ผลผลิตปลากะพงขาวอำเภอบางปะกงมีรวมกันมากกว่า 3,500 ตัน คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่าปีละ 460 ล้านบาท