วันนี้ ปภ.นัดรือหา กทม.วางหลักเกณฑ์เยียวยา 5,000 บาท
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. เปิดเผยถึงความสับสนของการชดเชยเงิน 5,000 บาท ของประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งปรากฏว่าสำนักงานเขตกรุงเทพมหานครแต่ละเขตมีการตีความในการจ่ายเงินชดเชยไม่เหมือนกัน เบื้องต้นผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินชดเชย5,000 บาท มี 2 ประเด็นใหญ่ คือ 1.ต้องอยู่ในพื้นที่ประกาศภัยพิบัติ 2.น้ำท่วมฉับพลันจนทรัพย์สินเสียหายหรือน้ำท่วมขังเกิน 7 วันจนทรัพย์สินเสียหาย อย่างกรณีที่ถกเถียงกันว่า น้ำล้อมบ้านจะได้รับเงินช่วยเหลือหรือไม่นั้น เช่น บ้านของผู้ประสบภัยถูกน้ำล้อมรอบบ้านจนรั้วบ้านเสียหาย อย่างนี้ถือว่าทรัพย์สินเสียหายมีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือเช่นกัน
ทั้งนี้การจ่ายเงิน 5,000 บาทนี้ถือเป็นมติคณะรัฐมนตรี เป็นบริการของรัฐบาลที่ต้องการช่วยประชาชน จึงอยากให้กรุงเทพมหานครมองในแง่ของการช่วยเหลือและตีความในสิ่งที่เป็นคุณต่อประชาชน ซึ่งในเรื่องนี้รู้สึกเห็นใจกรุงเทพมหานครเพราะถือเป็นเรื่องใหม่ไม่เคยปฏิบัติมาก่อน
ดังนั้นในวันนี้ (24 พ.ย.) ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงนัดประชุมร่วมกับผู้บริหารที่เกี่ยวข้องของกรุงเทพมหานครอีกครั้ง เพื่อซักซ้อมความเข้าใจให้ตรงกัน แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยประชุมร่วมกันมาแล้ว แต่เมื่อการดำเนินงานผ่านไป 1 สัปดาห์คงจะร่วมกันพิจารณาว่ามีปัญหาใดบ้างจะได้นำมาประมวลและทำเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพราะพื้นที่ของกรุงเทพฯเป็นชุมชนเมือง อาจมีปัญหาที่สลับซับซ้อนกว่าต่างจังหวัด ซึ่งยังไงขอให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องของประชาชนมาก่อน หากเจอกรณีแปลก ๆ จะรวบรวมและตีความให้ว่าควรจ่ายหรือไม่ หรืออาจเสนอให้รัฐบาลเพิ่มหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้อยากให้ประชาชนทราบด้วยว่าตามกฎหมายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะมีการจ่ายเงินให้กับประชาชนที่บ้านเสียหายบางส่วนด้วยตามเท่าที่จ่ายจริงหรือไม่เกิน 20,000 บาทต่อหลัง และผู้ที่ทรัพย์สินที่เป็นเครื่องมือประกอบอาชีพเสียหาย เช่น รถเข็นก๋วยเตี๋ยว เครื่องมือของช่างทำผม ก็ช่วยเหลืออีกครอบครัวไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งประเด็นเหล่านี้ กรุงเทพมหานครต้องเข้าไปสำรวจเพราะ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมอบอำนาจให้ กรุงเทพมหานครไป 2 สัปดาห์แล้ว
ด้านนายสรรเสริญ สมะลาภา ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ เปิดเผยผลการประชุม เรื่อง มาตรการเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประสบภัยและเกษตรกร ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม โดยระบุว่า ทางหน่วยงานที่ชี้แจงซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติ ได้เปิดเผยถึงเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ครัวเรือนละ 5,000 บาท ล่าสุด ได้จ่ายไปแล้วทั้งสิ้น 4 ล้านครัวเรือน และยังมีผู้ที่ได้เดือดร้อนอีก 1.8 ล้านครัวเรือน ที่ยังอยู่ระหว่างรอดำเนินการ
อย่างไรก็ตามในการประชุมดังกล่าว หน่วยงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งปัญหาต่อประเด็นการจ่ายเงินเยียวยา ว่า มีการสวมสิทธิรับเงินเยียวยา โดยเฉพาะผู้เดือดร้อนที่เช่าบ้านที่ย้ายออกจากที่พัก ซึ่งถูกผู้ให้เช่าที่อยากรับค่าเยียวยาไปสวมสิทธิรับเงินเยียวยาแทน
ด้านการเยียวยาโรงงานอุตสาหกรรม พบว่า รัฐบาลจะเยียวยาเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมโดยตรง แต่บริษัทที่ได้รับผลกระทบทางอ้อม เช่น เป็นโรงงานที่รับวัตถุดิบจากบริษัทที่ผลิตวัตถุดิบ นั้นไม่เข้าข่ายที่รัฐบาลจะเยียวยา ซึ่งทางกรรมาธิการ เห็นว่า รัฐบาลควรจะพิจารณากลุ่มโรงงาน หรือ นิคม ที่ได้รับผลกระทบทางอ้อมด้วย