เยียวยาน้ำท่วมไม่รวมเฟอร์นิเจอร์-สิ่งของเครื่องใช้
นายศุภชัย แสนยุติธรรม ผู้อำนวยการสำนักงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยภูมิภาค กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยถึงหลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือผู้ที่จะรับเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยนั้นจะแยกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกที่ผู้ประสบภัยจะได้รับการเยียวยาเบื้องต้น 5,000 บาท ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งกรณีนี้จะได้รับ 1 ครัวเรือนหนึ่งสิทธิ โดยคนที่เป็นเจ้าของบ้านสามารถไปยื่นเรื่องด้วยตัวเอง หรือหากไม่สามารถไปด้วยตัวเองมอบอำนาจ ให้คนในครัวเรือนไปดำเนินการแทน
หรือหากเจ้าบ้านไปอยู่ต่างประเทศไม่สะดวกในการดำเนินการ ซึ่งจะต้องให้ผู้น้ำท้องถิ่นเซ็นรับรองว่า เป็นผู้ที่ดูแลครอบครัวอยู่ ณ เวลาปัจจุบัน ไปดำเนินการของรับเงินช่วยเหลือ ถ้าเป็นผู้ที่อยู่ใน กรุงเทพมหานคร ก็ไปยื่นเรื่องที่สำนักงานเขตที่ประสบภัย
ส่วนคนที่อยู่ต่างจังหวัดให้ไปยื่นเรื่องที่อำเภอหรือท้องถิ่นที่ตัวเองมีบ้านพักอาศัยอยู่จริง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบรายชื่อโดยการใช้ฐานระบบทะเบียนราษฎรคอมพิวเตอร์ ตรวจสอบได้ เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน
สำหรับส่วนที่ 2 คือเงินนอกเหนือจาก 5,000 บาท คือจ่ายตามความเสียหายของตัวบ้านว่าเสียหายมาก หรือน้อย กรณีนี้จะมีการไปสำรวจตรวจสอบสภาพบ้านก่อนที่จะมีการอนุมัติจ่าย โดยการจ่ายเงินนั้นจะไม่เกิน 30,000 บาท ซึ่งจะไม่เท่ากัน เพราะจะประเมินตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงกับตัวบ้าน โครงสร้างของบ้าน ไม่เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ หรือ สิ่งของเครื่องใช้
เป็นตามหลักเกณฑ์ของระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทอดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2546 ซึ่งเดิมมีอยู่แล้ว ทั้งค่าเสียหายในส่วนนี้ ในส่วนของต่างจังหวัดจะเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ส่วน กทม.เป็นอำนาจของกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นดูแลในส่วนนี้ เมื่อตรวจสอบเสร็จจะส่งเรื่องให้กับทางธนาคารออมสิน ซึ่งทางธนาคารออมสินบอกแล้วว่า หากได้อนุมัติแล้วสามารถเบิกจ่ายได้ทันที
โดยให้นำบัตรประจำตัวประชาชนสามารถไปเบิกเงินตามธนาคารออมสินได้เลยไม่ว่าจะอยู่ที่ใดซึ่งอาจจะมีการอำนวยความสะดวกในการนัดจุดจ่ายเงิน หากไม่ได้ไปรับเงินตามนัดมีกำหนดระยะเวลาในการรับเงินหากภายใน 1 ปี ยังไม่มาเบิกเงินจะนำเงินส่งเข้าคลังไป